สว.เปิดวอร์ถล่ม "ก.ยุติธรรม-ดีเอสไอ" ซัดหมิ่น สว.แบบเหมาเข่ง!

วันที่ 4 มี.ค.2568 การประชุมวุฒิสภา วันนี้มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม

โดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา วันนี้สวมเสื้อสีน้ำเงิน พร้อมกับได้ยื่นเสนอญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย

รายการเข้มข่าวค่ำ

โดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ มองว่า ขาดความรอบคอบในการพิจารณา ดำเนินการตามหลักสากล ขาดความรู้ความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำมาซึ่งความเสียหายกับประเทศชาติได้ในอนาคต

จากนั้น ได้พูดถึงการได้มาของสมาชิกวุฒิสภาปี 2567 ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีดีเอสไอ ร่วมกันแถลงข่าว จงใจกลั่นแกล้งกล่าวหา ว่าการได้มาดังกล่าว มีการฮั้ว เป็นอั้งยี่ ทำให้ สว.ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ว่าได้รับตำแหน่งมาโดยไม่ชอบ ทำโดยการสมยอมรวมหัวกัน เพื่อให้ได้เป็นสว. โดยไม่สุจริตและโปร่งใส เป็นการใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ให้ข่าวกับสื่อมวลชนในลักษณะเหมาเข่ง

จากการกระทำที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงความมุ่งหวังให้สังคมเห็นว่า การได้มาของสมาชิกวุฒิสภา ไม่สุจริตเที่ยงธรรม การกระทำดังกล่าวมีการล็อกเป้าหมาย รวมทั้งมีการล็อกเป้ากลุ่ม สว. โดยแยกประเภทสี ซึ่งมุ่งเน้นมาที่สีน้ำเงิน สร้างความเสียหายให้แก่ สว.

ระหว่างการเสนอญัตติ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ได้พูดถึงตัวเลข 138+2 หมายถึง พบว่ามี สว.ที่ได้รับเลือกตั้ง 138 คน และสำรองอีก 2 คน มาจากขบวนการฮั้ว

รายการเข้มข่าวค่ำ

ต่อมา พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา ก็ได้ลุกอภิปรายอย่างดุเดือด ว่า ที่ผ่านมาเป็นข่าวอึกทึกครึกโครม สว.ถูกหาว่าเป็น อั้งยี่ ยืนยันว่า พวกเรามาตามบทบาทมาตามหน้าที่ มาตามครรลองของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ก่อนจะพูดแบบมีอารมรณ์ ว่า "เราไม่กลัวการตรวจสอบ แต่ขออนุญาต ทำงานทำหน้าที่ไป แต่อย่าเอาปากทำ อย่าพูดมาก ลิ้นมันจะพันคอท่าน"

พล.ต.ท.บุญจันทร์ ย้ำว่า ดีเอสไอ เป็นแค่เจ้าหน้าที่ ควรร่วมมือกันทำงาน เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย พัฒนาประเทศชาติพัฒนาบ้านเมืองให้ดีขึ้น ดีกว่ามาคอยกระตุกขากัน

สว.อีกคนที่เดือดไม่แพ้กัน นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา ลุกขึ้นอภิปรายพร้อมระบุว่า ตัวเองเป็นสว.สีน้ำเงิน และสีเหลือง เป็นสว.ที่จงรักภักดีต่อสถาบันแห่งชาติ ตั้งคำถามว่า ทำไมกรมสอบสวนคดีพิเศษ พยายามดิสเครดิต หรือบิดเบือน ล้มล้าง สว. ข้อมูลที่อ้างว่า ใส่เสื้อสีเหลืองที่เมืองทองธานี ใส่เสื้อสีเหลืองมารายงานตัวที่ กกต. ใส่เสื้อสีเหลืองมารายงานที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และติดตราสัญลักษณ์ 72 พรรษา นั้น เป็นกลุ่มอั้งยี่ ซ่องโจร ฉะนั้น ผู้ที่ใส่เสื้อเหลืองและติดตราสัญลักษณ์ ทั้งหมด ก็เป็นอั๊งยี่กันทั้งประเทศแล้ว

บางช่วงของการอภิปราย นายอลงกต ยังยกตัวอย่างเป็นรายงานของคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ ปี 2560 -2561 ซึ่งผลการศึกษา ยืนยันว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษปฏิบัติงานซ้ำซ้อน กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างความแตกแยกในสังคม ควรมีการยุบหน่วยงานดังกล่าว เพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือของนักการเมือง

จากนั้น ก็มีสว. สลับกันลุกขึ้นอภิปรายความเห็นอีกหลายคน รวมใช้เวลาอภิปราย ประมาณ 3.5 ชั่วโมง

รายการเข้มข่าวค่ำ

นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว.พันธุ์ใหม่ ได้ลุกขึ้น บอกว่า บรรยากาศการอภิปรายของ สว. ค่อนข้างหมิ่นเหม่ต่อความเข้าใจความคาดเคลื่อนของประชาชน จึงอยากจะย้ำว่าการอภิปรายเป็นเอกสิทธิ์ของ สว.แต่ละคน อย่าเหมารวม ขอย้ำว่าไม่ผิดอย่าร้อนตัว อย่ากลัวที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ให้ประชาชนหายสงสัยจึงจะเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่สง่างาม

ซึ่ง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ สว.ผู้เสนอญัตติได้กล่าวสรุปเชิงต่อว่า กระทรวงยุติธรรมและกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า "งานที่ควรทำไม่ทำ กลับไปทำงานที่ไม่มีอำนาจหน้าที่"

ก่อนที่ท้ายสุด วุฒิสภา มีมติส่งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่สำคัญไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการต่อไปและมีมติมอบหมายให้คณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบและการ เสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา นำประเด็นดังกล่าวไปพิจารณาศึกษาเพิ่มเติม