นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยืนยันไม่แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกมนตรี ว่า ฝ่ายค้านกำลังจะอุทธรณ์ว่าจะไม่ตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ "ดังนั้นถ้าเขาไม่แก้ ประธานซึ่งมีอำนาจหน้าที่บรรจุระเบียบวาระ เมื่อเขาไม่แก้ เราก็ไม่บรรจุระเบียบวาระ เพราะถ้าเราบรรจุวาระไปก็จะผิดในเรื่องของการดูแลความเรียบร้อยหากเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา และตามข้อบังคับ ระบุชัดเจนว่าห้ามกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น"
ประธานสภายังกล่าวว่า เรื่องนี้ยังมีเวลา โดยต้องรอดูว่าฝ่ายค้านยื่นอุทธรณ์ในประเด็นอะไรบ้าง จะฟังคำสัมภาษณ์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องเห็นหนังสือที่อุทธรณ์มา ซึ่งต้องเชิญเลขาธิการสภาฯ และฝ่ายกฎหมายมาคุย คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 10 มี.ค.หรือ 11 ม.ค.หรือสัปดาห์หน้า
ส่วนเรื่องวันอภิปรายฯ ที่ฝ่ายค้านขอมา 5 วันนั้น ประธานสภาฯ กล่าวว่า เรื่องเวลาก็ต้องคุยกันในวิป 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และผู้แทนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งตนได้มอบหมายให้ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เชิญหารือเมื่อมีการบรรจุญัตติ และตนก็ต้องส่งญัตติที่ได้รับการแก้ไขแล้วไปให้ ครม.รับทราบ
ประธานสภาฯ กล่าวย้ำว่า ต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้การประชุมดำเนินไปได้ และให้เกิดความเรียบร้อยไม่ผิดข้อบังคับ ที่จะเกิดการฟ้องร้อง
ถ้าประธานเป็นคนสั่งบรรจุและมีชื่อบุคคลภายนอกนั้นอยู่ ถ้าเขาพิจารณาฟ้องร้อง ก็ต้องฟ้องประธานเป็นคนแรก เพราะเป็นผู้บรรจุ และฟ้องผู้เสนอญัตติเป็นจำเลยที่ 2 ที่ 3 ต่อไปซึ่งไม่ควรจะมี
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ถ้าไม่แก้ จะมาหนักที่การควบคุมการประชุม เพราะมีชื่อบุคคลภายนอกอยู่ หากไม่ระบุชื่อในญัตติใครอยากพูดอะไรก็พูดได้ แต่ถ้าเกิดความเสียหายก็รับผิดชอบเอง แต่พอชื่ออยู่ในญัตติการควบคุมการประชุมจะยากและวุ่นวายไม่จบ และหากเกิดความเสียหายกับบุคคลภายนอกขึ้นมาหากมีการฟ้องร้องก็ต้องถูกฟ้องทั้งหมดตั้งแต่คนบรรจุวาระ คนอนุญาต และเอาไปเอามาจะไม่เป็นงานบ้านเมืองจะกลายเป็นเรื่องตัวบุคคลมากกว่าหรือไม่ หากเอาเรื่องคอร์รัปชันการบริหารมาอภิปรายดีกว่าหรือไม่ ดีกว่าเอาเรื่องครอบครัวมาพูด และสิ่งที่เราต้องการคือไม่อยากให้เกิดความไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามที่ฝ่ายค้านบอกจะไม่แก้ไขญัตตินั้น คงต้องมีการหารือกัน
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เป็นสิทธิโดยชอบตามรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านสามารถตั้งญัตติได้ และสภาเองไม่ได้มีอำนาจที่จะเข้ามาแทรกแซงให้มีการแก้ไขญัตติ แต่ถ้ามีญัตติบกพร่อง คือมีคำผิดไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญ ถึงจะต้องมีการแก้ไข แต่ว่าเรื่องเนื้อหาไม่ได้มี ไม่มีข้อกฎหมายอะไรที่ให้เราแก้ไขได้
ส่วนการที่สภาอ้างข้อบังคับว่าการระบุรายชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาญัตติ อาจทำให้บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถชี้แจงในที่ประชุมสภาได้ จึงขอให้แก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว โดยนำรายชื่อบุคคลภายนอกออกจากเนื้อหาญัตติ ตามข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 176 เพราะว่าเขาไม่มีสิทธิมาชี้แจง น.ส.ศิริกัญญา ระบุในประเด็นนี้ว่า จริง ๆ แล้วในข้อบังคับเขียนเพียงแค่ว่า ห้ามพูดถึงคนนอกโดยไม่จำเป็น ซึ่งถ้าจำเป็นที่จะต้องใช้ในการวิพากษ์วิจารณ์ การบริหารราชการของนายกฯ ก็ต้องพูด.
ส่วนผลที่ตามมา คืออาจจะถูกบุคคลที่ 3 ฟ้องร้องได้ เรื่องนี้ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า เราก็เคยผ่านมาแล้ว เป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้น ถ้าเราพูดอะไรไปที่ไม่ใช่เรื่องจริง หรือว่ากระทบกระเทือนชื่อเสียงของบุคคลดังกล่าว เขาก็จะฟ้องร้อง เป็นกลไกตามปกติ เราก็เข้าใจ ทราบดีว่าไม่มีเอกสิทธิ์ที่จะคุ้มครองในการพูดถึงบุคคลที่สาม
ดังนั้น เราจะมีหนังสือยืนยันกลับไปว่า “เราไม่แก้” และตามญัตติเราไม่ได้บอกว่านายทักษิณผิด ไม่ได้จะอภิปรายนายทักษิณ แต่ว่าเป็นบริบทของการที่นายกรัฐมนตรีอยู่ภายใต้ของการชักจูงให้กระทำหรืองดเว้นการกระทำ เพราะฉะนั้นเป็นความผิดของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เราไม่ได้จะพูดถึงความผิดของนายทักษิณ
ถ้าอยู่ดี ๆ เราไปพูดถึงความผิดของคุณทักษิณ ก็ประท้วงได้เลย ให้ สส.รัฐบาลประท้วงได้เลย