จับตาศึกซักฟอก เชื่อเพื่อไทย - ทักษิณ กังวลลุงป้อม ปลายทางอาจถึงยุบสภา

โดย PPTV Online

เผยแพร่

จับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล "ศิโรตม์" เชื่อเพื่อไทย - ทักษิณ กังวลลุงป้อม พรรคอาจโดนเขย่าความศรัทธา "สุวิชา" คาดปลายทางหลังศึกซักฟอกอาจยุบสภา

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 - 26 มีนาคมนี้ จะเป็นการอภิปรายครั้งหนึ่งที่สังคมจับตามองมากที่สุด เนื่องจากฝ่ายค้านยื่นมติพาดไปถึงพ่อของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมาตลอดหลายสัปดาห์ รวมถึงความร้อนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนวันอภิปราย เมื่อถึงเวลาจริง ๆ แล้ว จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหรือก่อให้เกิดสภาวะแบบไหนในรัฐบาลหลังการอภิปรายซักฟอกในครั้งนี้หรือไม่

คอนเทนต์แนะนำ
ลงตัว! เคาะเวลาซักฟอก "นายกฯอิ๊งค์" ซักฟอก 28+7 ชม.
มองโอกาสผุดพรรคใหม่ โอกาสใหม่แซงเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล
“ประชาชน” ไม่มีหมัดน็อก ฟันธง “อิ๊งค์” รอดศึกอภิปราย แต่ความศรัทธาเสื่อมคลาย

นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ และ ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ร่วมพูดคุยกับ PPTV เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ และ ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ร่วมพูดคุยกับ PPTV เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk

นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ และ ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล ร่วมพูดคุยกับ PPTV เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk ไว้อย่างน่าสนใจ

วิเคราะห์ "ทักษิณ" - "พรรคเพื่อไทย" ก่อนเผชิญศึกซักฟอก

ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวว่า หากดูคะแนนความพอใจ 6 เดือนของตัวนายกรัฐมนตรี พบว่า 40 กว่าเปอร์เซ็นต์พอใจ และค่อนข้างพอใจ สูงกว่าเมื่อเดือนธันวาคมปี 2567 และพบว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ได้คะแนนความพึงพอใจเพิ่มขึ้นสูงเกิน 50% มาจากกลุ่มอายุ 18 - 25 ปี

ซึ่งคะแนนดังกล่าวเชื่อมโยงกับการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ไปจนถึงการคืนเงิน กยศ. ไม่ต้องใช้ค้ำประกัน และอีกสารพัด จึงสามารถมองได้ว่าแม้โครงการเงิน 10,000 บาท จะไม่ช่วยอะไรทางเศรษฐกิจเท่าไร แต่ทางการเมืองนั้นถือว่าช่วยได้ ดึงคนรุ่นใหม่มา

ในประเด็นของความสัมพันธ์นายทักษิณและนางสาวแพทองธารในฐานะพ่อ - ลูก ส่งผลในทางลบกับความนิยมพรรคเพื่อไทย สิ่งที่นายทักษิณทำนั้นไม่แนบเนียน ในฐานะที่ลูกเป็นนายกฯ พ่อไม่ควรพูดออกสื่อก่อนลูก ควรให้ลูกพูดก่อนค่อยพูดตาม พอพูดเสร็จ นายกฯ รับลูก ทุกคนในพรรคเพื่อไทยรับลูก สุดท้ายก็ย้อนศรไปยังคนแรกคือนายทักษิณ ว่าตกลงแล้วใครบริหารประเทศ

ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่านายทักษิณคิดว่า ตราบใดที่สามารถทำเศรษฐกิจดีได้ เดินหน้าได้ คนไม่แคร์ประเด็นอื่น ขอแค่วันนี้ฉันมีกิน แค่นั้น นายทักษิณถึงใส่เต็มที่ ไม่กังวล ขณะที่ข้อหาครอบงำนั้นก็ไม่กังวล เพราะเชื่อว่าสามารถแก้ต่างได้ว่าเป็นเพียงคำแนะนำระหว่างพ่อกับลูก

ส่วนตัวไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะเครียดกับการอภิปรายฯ ครั้งนี้ คิดว่าพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณชิล หลังจากมองไปยังญัตติและพรรคพลังประชาชน โดยพรรคพลังประชาชนนั้นมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือ หลอกให้เปิดปากง่าย ประกอบกับในสภาพรรคเพื่อไทยถือเสียงมากกว่าอยู่แล้ว การเล่นเกมให้มีการประท้วง ถ่วงเวลา เพื่อให้พรรคประชาชนหมดเวลาอภิปรายก็สามารถทำได้ สุดท้ายถ้าการประท้วงวุ่นวาย สามารถยกมือขอปิดการอภิปรายโดยใช้เสียงข้างมากได้

ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณกังวลนั้นคือ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” เนื่องจากไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในมือ

ด้าน นายศิโรตม์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกังวลทุกจุด มีการขัดขวางเยอะ ไม่ว่าจะเป็นวันในการอภิปรายก็เป็นประเด็น อภิปรายถึงใครก็เป็นประเด็น ตั้งองครักษ์ 10 คนล่วงหน้าก็เป็นประเด็น เพราะเขารู้ว่าการอภิปรายในครั้งนี้จะไม่ใช่แค่ในสภา แต่จะมีแรงกระเพื่อมนอกสภาตามมาอีกหลายเรื่อง

อย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมดังกล่าวจะเห็นได้ว่ามาจริง ๆ จากตัวเลขดังกล่าว แต่ประเด็นสำคัญคือ คะแนนนิยมมาแล้วจะอยู่ได้แค่ไหน ธรรมชาติคนเราชอบได้เงินทุกคน เมื่อได้แล้วจะรักได้อีกยาวขนาดไหนขึ้นอยู่กับฝีมือของรัฐบาล และทุกคนเห็นภาพตรงกันว่าการแจกเงินไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง ๆ

ส่วนโครงการซื้อหนี้นั้นยังไม่มีกฎหมาย เป็นเพียงกระแสที่นายทักษิณ ชินวัตร ปั่นขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนการอภิปราย เพราะนายทักษิณเป็นคนที่พูดเพื่อหวังผลทางการเมือง เป็นการจงใจสื่อสารกับสังคมว่า ถ้าสนับสนุนนางสาวแพทองธารต่อ สิ่งที่ประชาชนจะได้คือรัฐบาลซื้อหนี้จากพวกคุณ และอีกแง่หนึ่งเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าตกลงแล้วเจ้าของรัฐบาลตัวจริงคือใคร

นายศิโรตม์ กล่าวต่อว่า นี่คือปัญหาของรัฐบาลนี้ในอีกรูปแบบหนึ่ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจนี้เริ่มต้นด้วยการตั้งข้อสังเกตว่าอิทธิพลของนายทักษิณเป็นปัญหากับประเทศ หลังจากนั้นพรรคเพื่อไทยก็ใช้กลไกทั้งหมดเพื่อยืนยันว่านายทักษิณไม่เกี่ยวข้องกับประเทศ ทว่านายทักษิณก็ไปประกาศแบบนี้ แล้วพรรคเพื่อไทยก็รับลูกอย่างรวดเร็ว เหมือนกลัวคนไม่รู้ว่านายทักษิณคือนายกฯ ตัวจริง สิ่งนี้นายทักษิณเป็นผู้ที่ทำให้คนเห็นเองว่าสิ่งที่พรรคประชาชนกล่าวหานั้นถูกต้อง

สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว อาจมองว่าการอภิปรายฯ นั้นเป็นการโจมตีตัวบุคคล แต่ส่วนตัวย้ำว่าไม่ใข่ เพราะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตามระบบประชาธิปไตย สิ่งที่นายทักษิณทำคือเป็นกองกำลังในการผลิตนโยบายที่ไม่สนใจประชาชน สภา จะไปคุยกับใครก็กลายเป็นสิ่งที่ประเทศนี้ต้องทำตาม

คำถามของระบบประชาธิปไตยคือ ทำไมมีคนคนเดียวที่สามารถบงการการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน 3 ล้านล้านบาทได้ เพียงเพราะคิดว่านโยบายนั้นดี ไม่มีระบบประชาธิปไตยที่ไหนทำแบบนี้

ส่วนประเด็นวลีเกี่ยวกับการบริหารแบบ “แมวสีอะไรก็ได้ จับหนูให้ได้เถอะ” นั้น นายศิโรตม์มองว่า วิธีบริหารแบบนี้เป็นวิธีที่เอาทุกอย่างให้ตัวเองมากกว่า ถ้าเป็นระบบการเมืองตามปกติจะมีการคุย ประกาศชี้แจงรายละเอียดผ่านสภา ปัญหาคือเบื้องหลังเราไม่รู้ว่านายทักษิณไปคุยกับใคร นักธุรกิจ กลุ่มทุนไหนไว้บ้าง มีกลุ่มผลประโยชน์ตรงไหนเกี่ยวข้องในการกำหนดนโยบายรัฐบาล หรือมีคนเบื้องหลังนายทักษิณที่ได้ประโยชน์บ้าง ความมีเสถียรภาพของรัฐบาลตอนนี้นั้นไม่มีเลย เพราะพอจะทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับนายทักษิณหมด

นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ

จับตาทีเด็ด "บิ๊กป้อม" แฉดีลลับซัดนายกฯ

นายศิโรตม์ กล่าวว่า ไม่มีใครไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพลเอกประวิตรและนายทักษิณนั้นลึกมาก เรื่องต่าง ๆ ที่คนในครอบครัวได้รับการปัดเป่านั้น คนก็น่าจะมองว่าพลเอกประวิตรมีส่วนปัดเป่าอย่างไรบ้าง ทั้งเรื่องของคดีต่าง ๆ ที่หลุดอย่างน่าอัศจรรย์ รวมถึงรู้ว่าพลเอกประวิตรเป็นคนที่มีสายสัมพันธ์กับองค์กรอิสระ

หากย้อนไปเมื่อ 2 - 3 สัปดาห์ มีความเคลื่อนไหวที่พรรคเพื่อไทยขยับและรัฐบาลขยับ คือ เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์นั้นคืออะไร ซึ่งคนมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการพยายามเคลียร์ทางให้นางสาวแพทองธารไม่โดนเรื่องจริยธรรม เช่น กรณีอัลไพน์ ซึ่งนายทักษิณหรือ ครม. ชุดนี้ไม่มีทางยื่นเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อช่วย 2 รัฐมนตรี จึงสามารถมองได้ว่าความกังวลที่นางสาวแพทองธารโดนยื่นเรื่องจริยธรรมไม่เคยคลายไป

ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า พลเอกประวิตร หรือกระบวนการนิติสงครามกับองค์กรอิสระนั้นเป็นสิ่งที่นายทักษิณกังวลจริง และในระยะเวลาอันใกล้คิดว่าจะมีอยู่ 2 - 3 เรื่องที่เป็นประเด็น คือเรื่องศาลปกครอง ค่าเสียหายนางสาวยิ่งลักษณ์ และคดีศาลฎีกาที่มีการร้องเรียนกรณีนำตัวนายทักษิณออกไปโรงพยาบาล บริบทต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่นายทักษิณหวาดเสียว

นายศิโรตม์ กล่าวต่อว่า การอภิปรายในสภานั้นแม้ว่าจะล้มรัฐบาลไม่ได้ด้วยจำนวนเสียง แต่สามารถเขย่าความศรัทธาของรัฐบาลได้ และการเขย่าความศรัทธาของรัฐบาลถ้ามาถูกที่ถูกเวลา และมีกระบวนการนิติสงครามที่บังเอิญประจวบเหมาะ การเมืองจะวุ่นวายทันที

ด้าน ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าหมัดเด็ดของการอภิปรายฯ อยู่ที่พลเอกประวิตร แต่ถ้าลุกขึ้นพูดแล้วจะไม่มีอะไรเด็ด อยากรู้เช่นเดียวกันว่าหมัดเด็ดคืออะไร อย่าลืมว่าตอนนี้มีกลุ่มพรรคพลังประชารัฐของลุงป้อมเท่านั้น ที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยว่าประเด็นอภิปรายคืออะไร ซึ่งพรรคประชาชนนั้นเปิดประเด็นมาเรื่อย ๆ ตนจึงรอดูว่าจะมีอะไรหรือไม่

ปลายทางหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ "แพทองธาร" ช้ำ - โอกาสสุดท้าย "อนุทิน" นั่งนายกฯ

ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวว่า หลังการซักฟอกครั้งนี้คงไม่มีการยุบสภาทันที ส่วนตัวเชื่อว่านางสาวแพทองธารนั้นรอดจากการอภิปรายฯ ครั้งนี้ และหลังจากนั้นอาจมีการปรับคณะรัฐมนตรีเล็กน้อยในส่วนของพรรคเพื่อไทยกันเอง สลับเก้าอี้ดนตรีกัน ซึ่งคาดว่าพรรคเพื่อไทยอาจขอเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องแลกด้วยอะไรที่สมน้ำสมเนื้อ เช่น กระทรวงคมนาคม ซึ่งก่อนหน้านี้อาจไม่อยากแลก แต่ตอนนี้อาจอยากแลกแล้ว เพราะช่วงหลังกระทรวงคมนาคมโดนหนัก

ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล รายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk
ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล

ขณะเดียวกันภายในปีนี้จะมีการถมงบประมาณเพื่อปั่นคะแนน และรอให้ช่วงเดือนตุลาคมเข้างบประมาณปี 2569 ใช้ไปก่อนสัก 3 - 4 เดือน จากนั้นดูแนวทางเดือนมกราคมปี 2569 ก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อถึงโอกาสก็ยุบสภา ไม่รอให้อีกฝั่งหนึ่งพร้อมเหมือนพลเอกประยุทธ์

หลังจากยุบสภาก็ให้ดูคะแนนก่อนว่า ถ้าเศรษฐกิจดี คะแนนดี ยุบแบบไม่ต้องเจรจา แต่ถ้าคะแนนไม่ค่อยดี หรือพอเอาตัวรอดได้ และมีท่าว่าฝ่ายค้านจะคะแนนพุ่ง มีทางออกเดียวคือ ต้องคุยจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เพื่อจับมือกันกลับมาด้วยกันใหม่งวดหน้าและทิ้งฝ่ายค้านไว้เหมือนเดิม

ผศ.ดร.สุวิชา กล่าวต่อว่า ฝ่ายค้านจะโตขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่นั้นตนไม่การันตี แต่ยิ่งพรรคเพื่อไทยอยู่นานจะยิ่งสร้างความนิยมให้ฝ่ายค้านขึ้นเรื่อย ๆ พรรคเพื่อไทยต้องการกลับมาเป็นที่หนึ่ง คือ คะแนนนิยมต้องพุ่ง ถ้าไม่พุ่งต้องจับมือกับบางพรรคเพื่อกดพรรคประชาชน ให้หล่นมาเป็นอันดับสองให้ได้

นายศิโรตม์ กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะไม่ใช่การปกป้องและแตกหักกับนายกรัฐมนตรี เหมือนที่นายอนุทินบอกว่าเป็นการที่พรรคเพื่อไทยร่วมมือกับพรรคภูมิใจไทยนั้นเป็นปฏิบัติการกินส้ม เกมระหว่างสองพรรคนี้เป็นเกมแบ่งเค้กกัน ไม่มีการแยกตัวกัน ส่วนการเสียบกันเรื่อย ๆ เป็นการโชว์ว่าใครใหญ่กว่าใคร และใรครจะเลือกใช้บริการใครดี เพื่อให้กลุ่มที่มีอิทธิพลต่าง ๆ ใช้บริการเขามากที่สุด ส่วนตัวเชื่อว่าการอภิปรายฯ ครั้งนี้นายอนุทินจะไม่โหวตคว่ำนายกฯ แพทองธาร เต็มที่คือนิ่งเฉย เพราะการอภิปรายฯ ครั้งนี้ไม่มีการพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยแต่อย่างใด

เกมการเมืองวันนี้เป็นการที่ผู้มีอำนาจพยายามไม่ให้พรรคประชาชนขึ้นมาเป็น ขณะที่เกมของนายอนุทินคือจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ก็ต้องเป็นบนความบอบช้ำของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ซึ่งถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่นายอนุทินจะอยู่ใกล้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากที่สุด

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ