จากกรณี นายกฤช ศิลปชัย สส.ระยอง พรรคประชาชน นำแชตการสนทนาลักษณะเป็นการเสนอเงินซื้อเสียงโหวต หรือ การซื้องูเห่า 20 ล้านบาท ให้ช่วยลงมติไว้วางใจ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ซึ่งล่าสุด นายกฤช ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมบอกว่า อีกมุมหนึ่งตัวเองมองว่า คนที่มาติดต่ออาจเป็นคนที่คอยหา สส. ให้กับกลุ่มก้อนทางการเมืองในสภาบางพรรค ที่ต้องการโควตา สส. เพื่อนำไปต่อรองในการปรับครม. ที่กำลังจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้
หรืออาจเป็นไปได้ว่าเป็นการสร้างเครดิตให้ตัวเอง เพราะถ้าเกิดทำเรื่องนี้สำเร็จมีการซื้อตัวงูเห่าได้ ผู้หญิงคนนี้ก็อาจจะได้ตำแหน่งบางอย่างในรัฐบาลก็ได้
นอกจากนั้นนายกฤช ยังได้บอกใบ้ข้อมูลบุคคลดังกล่าวว่า หญิงคนนี้เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง อักษรย่อ “ณ” ทำธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์และปั๊มน้ำมัน ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่มี สส. อยู่ในสภา อย่าง “พรรคไทยสร้างไทย”
แต่พอตรวจสอบกลับพบว่าแค่มีชื่อพรรคคล้ายกัน แต่ต่างกันเพียงพยางค์สุดท้าย และขณะนี้พรรคการเมืองดังกล่าวก็ไม่มีสถานภาพอยู่ในสภาแล้ว เพราะสมาชิกพรรคไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด และเมื่อค้นข้อมูลไปเรื่อยๆก็จะพบว่าพรรคการเมืองนี้เคยปรากฏอยู่ในหน้าสื่อว่า อาจจะเป็นพรรคสำรองของบุคคลสำคัญทางการเมืองคนหนึ่ง
และผู้ที่ก่อตั้งมีความสนิทสนมกับบุคคลหนึ่งที่เป็นบ้านใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน เพราะ ทำธุรกิจแข่งรถด้วยกัน ซึ่งช่วงเช้า นายกฤช ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวพีพีทีวีบอกข้อมูลมาแล้วว่าบ้านใหญ่ภาคอีสานที่ว่าคือ จังหวัดบุรีรัมย์
นายกฤช บอกว่า พอรู้ข้อมูลแน่ชัดทั้งหมดก็ตัดสินใจ เปิดเผยเรื่องนี้กับประชาชน เพราะอยากให้สังคมได้รับรู้ว่าการเมืองไทยยังมีคนที่ทำตัวเป็นล็อบบี้ยิสต์ ทำตัวเป็นนายหน้าติดต่อ ซื้อตัว สส. กันอยู่ นอกจากนั้นยังมองว่า เรื่องนี้ไม่ได้ต้องการเสียง สส. เพื่อสนับสนุนรัฐบาล แต่เป็นการทำลายดิสเครดิตพรรคประชาชน เพราะถ้าเกิดมี สส.คนใดคนหนึ่ง เป็นงูเห่า ชื่อเสียงของพรรคก็จะเสียหายมาก ซึ่งมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้ม
อีกมุมหนึ่ง นายกฤช มองว่า คนที่มาติดต่ออาจเป็นคนที่คอยหา สส. ให้กับกลุ่มก้อนทางการเมืองในสภาบางพรรค ที่ต้องการโควตา สส. เพื่อนำไปต่อรองในการปรับครม. ที่กำลังจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ หรืออาจเป็นไปได้ว่าเป็นการสร้างเครดิตให้ตัวเอง เพราะถ้าเกิดทำเรื่องนี้สำเร็จมีการซื้อตัวงูเห่าได้ ผู้หญิงคนนี้ก็อาจจะได้ตำแหน่งบางอย่างในรัฐบาลก็ได้
ขณะเดียวกัน นายกฤช มองว่า ลักษณะการเป็นนายหน้าหางูเห่าของผู้หญิงคนนี้ อาจเป็นไปได้ว่า มีผลประโยชน์เกี่ยวกับการหักหัวคิวด้วย หากดูจากตัวเลขการซื้องูเห่าในสมัยที่แล้ว ตัวเลขของงูเห่าจะอยู่ที่ 30 ล้านบาท แต่รอบนี้ตัวเลขที่มาถึงตัวเองกลับอยู่ที่เริ่มต้น 10 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 15-20 ล้าน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ก่อนตัวเลขนี้จะมาถึงตัวเอง อาจมีการหาผลประโยชน์หักหัวคิวมาหลายทอดแล้ว
ส่วนข้อสังเกตที่พุ่งเป้ามาที่ตัวเองทั้งที่ไม่เคยเป็น สส. ที่ขับเคลื่อนเรื่องใดเป็นพิเศษนั้น นายกฤช เชื่อว่าคงพยายามติดต่อหลายคน แต่หญิงกรรมการบริหารพรรค คนนี้อาจ รู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่นที่พอมีช่องทางติดต่อกับตัวเองได้จึงพุ่งเป้ามาที่ตัวเอง ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้อัดเสียงการสนทนาที่ขอให้ช่วยโหวตลงมติ มีเพียงแชตข้อความเท่านั้น แต่หากดูจากปรากฏการณ์การลงมติที่ผ่านมาก็จะเห็นว่ามี สส. พรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคก็โหวตสวน พรรคละ 1-2คน
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้เบอร์โรศัพท์ของนาง "ณ" ที่ถูกอ้างว่าเป็นคนจ่ายเงินให้กับนายกฤช เพื่อให้ยกมือโหวตสวนมติฝ่ายค้าน โดยผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปตามหมายเลขที่นายกฤช ให้ไว้เบื้องต้นมีปลายสายเป็นผู้หญิง เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งความประสงค์ขอสัมภาษณ์ ในประเด็นดังกล่าว แต่ปลายสายปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลโดยระบุว่า ไม่สะดวกจริง ๆ และกล่าวขอโทษก่อนที่จะตัดสายไป