สำหรับประเด็นร้อนอย่างกำแพงภาษีสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว นายจักรภพ เพ็ญแข มาเปิดเผยในรายการ คุยข้ามช็อตของ PPTV ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมต่อสายคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยตนเอง ซึ่งล่าสุด นายทักษิณยอมรับว่า ถ้ามีโอกาสจะคุยสหรัฐฯ เอง โดยตอนนี้ได้ต่อสายคุยกับคนรอบตัวทรัมป์หลายคนแล้ว
นายทักษิณมองว่า สถานการณ์ตอนนี้ อยู่ในภาวะที่คุยกันได้ ส่วนจะคุยด้วยตนเองไหม ก็บอกว่า ให้เจ้าหน้าที่เขาคุยกันไปก่อน ถ้ามีโอกาส ตนเองจะเดินทางไปพูดคุยกับทรัมป์ด้วยตนเอง
นายทักษิณยังมองว่า การเจรจาของทีมไทยแลนด์ ควรมีภาคเอกชนไปร่วมด้วยหรือไม่นั้น นายทักษิณกล่าวว่าในการเตรียมการ ต้องคุยภายในประเทศ แต่เมื่อไปเจรจาไม่ต้องไปเยอะ หรือคุยกันให้ตกผลึกทางความคิดแล้วค่อยไปต่อรอง
ส่วนในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน จะสามารถพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อการต่อรองที่มีพลังได้อย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า ตอนนี้กลุ่มสหภาพยุโรปกับกลุ่มอาเซียน พยายามพูดคุยกันเพื่อให้เกิดการค้าเสรี เพราะวันนี้หากการกีดกันทางการค้ามากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ประเทศที่กำลังพัฒนาเดือดร้อน มากเท่านั้น เพราะประเทศต้องการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การจ้างงาน กลุ่มประเทศอาเซียนได้คุยกันว่าเป็นประเทศที่ต้องการการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นจะต้องรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อพูดคุยกับประเทศที่เจริญแล้ว ว่าเราจำเป็นต้องเติบโต จึงขออย่ากีดกันทางการค้ากับเรา
ด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการแก้ปัญหาภาษีสหรัฐฯ ของรัฐบาลว่า ขอให้กำลังใจรัฐบาลทำงานด้านนี้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องกรอบเวลาการเจรจาก็ขึ้นอยู่กับทางฝั่งสหรัฐฯ ว่าประเทศไทยจะมีอำนาจในการเจรจาต่อรองมากน้อยแค่ไหน และส่วนหนึ่งเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ายินดีจะเจรจากับสหรัฐฯ ถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ควรให้ทีมเจรจาอย่างเป็นทางการรวมถึงนายกฯ เป็นผู้นำในการเจรจามากกว่า