พปชร. เปิดตัวโลโก้ใหม่ ย้ำจุดยืน “อนุรักษ์นิยมทันสมัย ปกป้องสถาบัน”

วันที่ 27 เม.ย.2568 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม

บรรยากาศก่อนการประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก สมาชิกพรรค ส.ส. ตัวแทนสาขา ตัวแทนภาค และคณะกรรมการบริหารพรรค เดินทางมาพร้อมเพรียง โดยมีบุคคลสำคัญของพรรคเข้าร่วมหลายราย อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, นางสาวตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น

ช่างภาพพีพีทีวี

พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดประชุมว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจนในแนวทาง “อนุรักษ์นิยมทันสมัย” ที่ยึดมั่นในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สืบสานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และค่านิยมอันดีงามของชาติ พร้อมขอบคุณสมาชิกพรรคที่ร่วมมือร่วมใจกันมาอย่างต่อเนื่อง

ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค และนายอัคร ทองใจสด รองโฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าวสรุปผลการประชุม โดยระบุว่า ที่ประชุมได้มีมติสำคัญหลายประเด็น โดยเฉพาะการแก้ไขข้อบังคับพรรค และการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค และการแก้ไขข้อบังคับพรรคมีทั้งหมด 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

1. การเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรค โดยที่ประชุมมีมติยกเลิกเครื่องหมายพรรคการเมืองแบบเดิม และเห็นชอบใช้ โลโก้ใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อขอการรับรองอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

สำหรับโลโก้ใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ จะมีคำว่า “พรรค” อยู่กึ่งกลางด้านบน เหนือตัวอักษร “พลังประชารัฐ” ซึ่งแยกเป็น 3 สี คือ “พลัง” สีเขียว, “ประชา” สีน้ำเงิน และ “รัฐ” สีแดง ทั้งหมดล้อมรอบด้วยวงล้อพลวัตที่ประกอบด้วย 3 แถบสี ได้แก่ สีแดง น้ำเงิน และเขียว บนพื้นหลังสีขาวความหมายของโลโก้ใหม่ มีรายละเอียดดังนี้

สีแดง สื่อถึงพลังแห่งความเชื่อมั่น ความสุข และความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนและประเทศ สีขาว สื่อถึงความดีงาม ธรรมาภิบาล และการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี สีน้ำเงิน สื่อถึงจุดยืนทางการเมืองเชิงอนุรักษ์นิยม เป็นศูนย์รวมแห่งความสามัคคีปราศจากความขัดแย้ง สีเขียว สื่อถึงความทันสมัย การอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และการพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

2. การปรับคำประกาศอุดมการณ์ของพรรค โดยพรรคพลังประชารัฐได้มีการปรับถ้อยคำในประกาศอุดมการณ์ใหม่ โดยยืนยันจุดยืนในการเป็นพรรค “อนุรักษ์นิยมสมัยใหม่” ที่มีเจตจำนงแน่วแน่ในการยึดมั่นและปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมอนุรักษ์วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และค่านิยมอันดีงามของชาติ

พร้อมกันนี้ พรรคจะขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารภาครัฐอย่างทันสมัย มีความยืดหยุ่น และสอดคล้องกับบริบทการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมเป็นสำคัญ

ช่างภาพพีพีทีวี

3. การแก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค ที่ประชุมมีมติแก้ไขข้อบังคับเพิ่มเติม กำหนดให้การขาดประชุมติดต่อกัน 3 ครั้งโดยไม่แจ้งเหตุผลต่อหัวหน้าพรรค ถือเป็นเหตุให้กรรมการบริหารพรรคสิ้นสุดจากตำแหน่ง หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม โดยเพิ่มจำนวนจากเดิม 22 คน เป็น 23 คน และเพิ่มตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคจาก 6 คนเป็น 7 คน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนพรรค โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และนายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 339 คะแนนเท่ากัน โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้นายสุรเดชดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ขณะที่นายธีระชัยรับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจของพรรค

ทั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารบางตำแหน่ง โดยปลดนางสาวกาญจนา จังหวะ ออกจากตำแหน่งกรรมการบริหาร เนื่องจากปรากฏภาพไปร่วมกิจกรรมกับพรรคกล้าธรรม