วาทินี สุริยวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวผ่านรายการปิดไมค์ถาม ถึงบทบาทของ ป.ป.ช.ในการประเมินความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีเครื่องมือที่น่าสนใจ อย่างการประเมิน ITA เป็นเครื่องมือนึงที่ ป.ป.ช. นำมาใช้ในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ มากกว่า 8,000 แห่ง
ว่าเรื่องนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มรู้จักการประเมินคุณธรรม และความโปร่งใสหรือการประเมิน ITA
แรกเริ่มเครื่องมือนี้เป็นของหน่วยงานของประเทศเกาหลีที่เรียกว่า ACRC ซึ่งเป็นองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันที่เกาหลี แล้วก็ได้นำเครื่องมือมาพัฒนาตั้งแต่ปี 2556 ก่อนที่จะมีทดลองขึ้น ให้ประเมินจากส่วนงานราชการ และไปถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จนในปัจจุบัน 2568 มีหน่วยงานที่เข้าร่วมในการประเมินทั้งหมด 8,327 หน่วยงาน
สำหรับการประเมินนั้น แบบออกเป็น 3 ส่วน 1.ประเมินการรับรู้ ของเจ้าหน้าที่ภายในของส่วนราชการนั้นๆ สอบถามตัวเจ้าหน้าที่ จะมีข้อคำถามทั้งหมด 15 ข้อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานนั้นได้สะท้องมุมมองต่อการบริหารงานของหน่วยงานนั้นๆ
2. จะเป็นการประเมินที่ใช้เครื่องมือ EIT ที่จะให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการมีโอกาสในการประเมินความเห็นต่อส่วนราชการนั้นๆ ที่ได้เข้าไปใช้บริการ
3. Open Data ที่ส่วนราชการจะเปิดเผยข้อมูลอย่างไรบ้าง ซึ่งในเกณฑ์ที่สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดให้ส่วนราชการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งต้องเปิดเผย 28 ข้อ ทั้งเรื่องของโครงสร้างในการดำเนินงานของหน่วยงาน เช่น ใครเป็นผู้บริหารงาน ใครรับผิดชอบส่วนงานไหน เราต้องไปติดต่อที่ไหนบ้าง ในส่วนของหลักการของการที่ Open Data ที่จะต้องดำเนินการส่วนใหญ่
"ในช่วงแรกๆที่สำนักงาน ป.ป.ช. เราเข้าไปประเมิน ทางส่วนราชการก็จะค่อนข้างมีความรู้สึกว่า มันเป็นภาระกับหน่วยงานเค้าหรือไม่ ที่จะต้องมาดำเนินการแบบนั้นแบบนี้ ต้องเปิดเผยตรงนั้น ต้องส่งมอบข้อมูลอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วตามหลักการที่เราได้ชี้แจงก็คือ มันเป็นการปฏิบัติตามระเบียบ หรือกฎหมายต่างๆที่หน่วยงานจำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการเปิดเผย เช่น ในเรื่องของพระราชบัญญัติตามข้อมูลข่าวสาร ก็จะต้องเปิดเผยในเรื่องของ หน่วยงานต้องเปิดเผยอะไรบ้าง เปิดเผยที่ตั้ง เปิดเผยในเรื่องของข้อมูลที่จำเป็นสำหรับประชาชนอะไรบ้าง"
ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้จากภายในองค์กร (IIT) ป.ป.ช. ได้ปรับระบบให้เจ้าหน้าที่สามารถตอบแบบสอบถามด้วยตนเองผ่านการสแกน QR Code และยืนยันตัวตนด้วย OTP โดยไม่ต้องผ่านการควบคุมของหน่วยงานต้นสังกัด ลดโอกาสการบิดเบือนข้อมูล ทั้งยังอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่มีอายุงานอย่างน้อย 1 ปีเท่านั้น จึงมีสิทธิเข้าร่วมประเมิน เพื่อให้ความคิดเห็นสะท้อนสภาพจริงได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ป.ป.ช.พบช่องโหว่ ใช้ทรัพย์สินราชการ!
ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังเผยข้อมูลผลการประเมินในปี 2567 พบว่า ประเด็นที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานคือ "การใช้ทรัพย์สินทางราชการ" โดยเห็นว่าหน่วยงานควรกำหนดแนวทางและมาตรการใช้งานทรัพย์สินอย่างรัดกุม เช่น รถประจำตำแหน่งหรือทรัพย์สินกลาง เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
"ส่วนใหญ่ในปี 2567 ผลที่เราได้รับในเรื่องนี้ สิ่งที่เด่นชัดที่สุดจากจากทั้งหมด เป็นในประเด็นในเรื่องของการใช้ทรัพย์สินทางราชการ มีมุมมองสะท้อนในเรื่องของการใช้ทรัพย์สินทางราชการ ว่าอาจจะยังไม่มีการวางแนวปฏิบัติที่ชัดเจน การใช้ทรัพย์สินทางราชการในส่วนที่สำนักงาน ป.ป.ช. เราดูแลอยู่ ทั้งในส่วนของการจัดทำข้อเสนอแนะแนวทาง หรือในเรื่องของการอย่าง เช่น การใช้รถประจำตำแหน่งกับ การใช้รถส่วนกลางของทางราชการ ซึ่งอาจจะมีในส่วนที่บุคคลที่เป็นตำแหน่ง ไม่ใช่ตำแหน่งที่ทางราชการต้องจัดหารถประจำตำแหน่งให้ แต่ว่าไปขออนุมัติใช้รถส่วนกลาง ซึ่งจะต้องใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลทั่วไปมาใช้เสมือนรถประจำตำแหน่งของตัวเอง"
ดังนั้น ป.ป.ช. จึงเน้นย้ำให้หน่วยงานกำหนดมาตรการควบคุมการใช้ทรัพย์สินอย่างชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการนำทรัพย์สินของรัฐไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
ในส่วนของการประเมินจากผู้มีส่วนได้เสียภายนอก (EIT) นั้น ป.ป.ช. ใช้ 2 แนวทาง คือ การเปิด QR Code ในหน่วยงานให้ประชาชนที่ใช้บริการสามารถตอบแบบสอบถามได้ทันที และการจัดเก็บข้อมูลโดยสำนักงาน ป.ป.ช. เอง ผ่านการลงพื้นที่สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายโดยตรง เช่น นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูลและสะท้อนคุณภาพการบริการได้ตรงตามความเป็นจริง
"นอกจากการเปิดเผยข้อมูลพื้นฐานแล้ว หลักเกณฑ์ Open Data ยังชี้นำให้หน่วยงานราชการรู้ว่าควรเผยแพร่ข้อมูลใดให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก เป็นการเสริมความโปร่งใสเชิงรุก ไม่ใช่เพียงเพื่อรอการตรวจสอบภายหลัง"
มุ่งสู่เป้าหมาย “หน่วยงานรัฐโปร่งใส ยั่งยืน”
สำนักงาน ป.ป.ช. ยืนยันว่า การประเมิน ITA เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในกระบวนการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใส มีจริยธรรม และเคารพในสิทธิของประชาชน พร้อมย้ำว่าจะเดินหน้ายกระดับกระบวนการประเมินให้เที่ยงตรง โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วนต่อไป