รมว.ยุติธรรม โยนถาม กกต. ปมสอบ สว.ล็อตแรก DSI จ่อแจ้งข้อหา "อั้งยี่-ซ่องโจร" ควบคู่

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โยนถาม กกต.เรื่องเรียกสอบ สว.ล็อตแรก พร้อมเปิดเผยว่า DSI ก็เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ฟอกเงิน - อั้งยี่ ในเวลาใกล้เคียงกันด้วย โดยพันตำรวจเอกทวี เปิดเผยว่าเป็นการทำงานแยกส่วนกัน แต่ใช้คณะทำงานชุดเดียวกัน ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียด ในส่วนของกกต.ที่จะแจ้งข้อกล่าวหา สว.ล็อตแรก  60  คน แต่หลักฐานส่วนใหญ่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และอีกส่วนเป็นพยานบุคคล กกต.จึงอาจแจ้งข้อกล่าวหาเป็นล็อต ส่วนความมั่นใจในพยานหลักฐานก็ขอให้ไปถามจาก กกต.  

 

ช่างภาพพีพีทีวี

ในส่วนของ DSI ที่ทำคดีการฟอกเงินและอั้งยี่ ซึ่งมีพยานหลักฐานส่วนใหญ่เป็นเอกสาร และข้อมูลจากเทคโนโลยี เช่น ภาพและเสียง รวมถึงสถานที่อยู่ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 รายการ  โดยคาดว่าน่าจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ในเวลาใกล้เคียงกัน อาจจะหลังจาก กกต .ไม่นาน ส่วนจะสาวถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพยาน หากสาวถึงใครก็เอาผิดหมด

“ทวี” ลั่น ค่าคนเท่ากัน หลังถูกสว.ยกศักดิ์ข่มสูงกว่า DSI 

ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้มี สว. ออกมาท้าทายให้ DSI ออกหมายจับ และพูดในเชิงดูถูกว่า สว.มีศักดิ์สูงกว่า DSI นั้น เรื่องนี้พันตำรวจเอกทวี มองว่า มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกันหมด มีคุณค่ามีศักดิ์ศรี เรื่องการอำนวยความยุติธรรมจะใช้อคติไม่ได้ ต้องใช้พยานหลักฐาน ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนพร้อมรับฟัง และยังเปิดโอกาสให้ สว. ที่คิดว่าไม่มีความผิดเข้ามาเป็นพยานได้  

“ทวี” ยัน ยุติธรรม-มหาดไทย ไม่ขัดแย้งกัน

พันตำรวจเอกทวี ยังยืนยันด้วย ว่าในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญไม่ได้มีการขัดขวางการลงพื้นที่ของ  DSI เพราะหากดูในคำให้การ จะพบว่ามีการพูดถึงผู้บงการอยู่ด้วย ใน 10 กว่าปาก  และยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน แต่เนื่องจากกฎหมายสอบสวนคดีพิเศษ ในบางมาตรา เพื่อเข้าไปขอหลักฐาน ถ้ามีการไม่ให้หลักฐานก็มีมาตรา 24 ว่าด้วยเรื่องโทษ และที่ผ่านมาตนอาจพูดเรื่องความร่วมมือไม่หมด ว่ามีข้อบังคับในการประสานงานกับผู้ว่าฯและตำรวจ ผู้ว่าฯถือเป็นพนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจมีหน้าที่สืบสวน หาก DSI แจ้งไป คงไม่มีการขัดขวาง ซึ่งตรงนี้ไม่รู้ว่า อธิบดีแจ้งผู้ว่าฯไปหรือไม่ แต่หากผู้ว่าฯ ที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจ มีหน้าที่แล้วไม่ทำ โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต ก็มีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้วย ตามมาตรา 157 แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการขัดขวาง และเมื่อวานนี้ ก็ได้มีการพูดคุยทักทายกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว

DSI จับตาเส้นเงิน “ส.ว.” หากโยงขบวนการจัดฮั้ว จ่อแจ้งฟอกเงิน-อั้งยี่

สำหรับการเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อสมาชิกวุฒิสภา 60 ราย จะเป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561

ส่วนคดีอาญาอื่นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับดำเนินการ คือความผิดฐานฟอกเงินและอั้งยี่ โดยดีเอสไอจะเน้นตรวจสอบพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ว่าสมาชิกวุฒิสภารายนั้น ๆ มีการรับโอนเงิน หรือทำธุรกรรมทางการเงินกับคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดฮั้วอย่างไร

หากพบพยานหลักฐานชัดเจนว่าสมาชิกวุฒิสภารายนั้นมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับขบวนการดังกล่าว ดีเอสไอก็สามารถพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาฐานฟอกเงินและอั้งยี่ได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ เพื่อดูความเกี่ยวข้องของบุคคลในเส้นทางการเงินทั้งหมด และยืนยันว่าคณะพนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการนัดหมายประชุมเพื่อสรุปเรื่องการออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและอั้งยี่แต่อย่างใด