การเมืองไทยในช่วงเวลานี้ เรียกได้ว่ามีความชุลมุนในหลายเรื่อง โดยเฉพาะล่าสุดที่ รศ.ดร. เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวในงานวันเกิด 60 ปีของ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ‘ทนายนกเขา’ ระบุว่า หากการเมืองถึงทางตันหรือระบอบประขาธิปไตยไม่สามารถใช้การได้แล้ว จะเลิกเลยไหม? รวมถึงประเด็นการฮั้ว สว. การโยกงบประมาณทำดิจิทัลวอลเล็ต จะทำให้ สส. ถูกตัดสิทธิ์ไปทั้งคณะหรือไม่ ทำให้การเมืองไทยตันหรือไม่ หรือจะไปอย่างไรต่อ
เลิกประชาธิปไตย ไม่ใช่ที่ ‘ระบอบ’ แต่ตัด ‘คณะราษฎ์’ ออกจากสารบบ
รศ.ดร.เจษฎ์ พูดคุยกับ PPTV HD36 ในรายการคุยข้ามช็อต Exclusive Talk เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า ตนไม่เคยพูดเรื่องเลิก ‘ระบอบประชาธิปไตย’ ตนบอกว่าถ้าประชาธิปไตยเป็นแบบนี้ ไม่วาจะเป็นคดีชั้น 14 ประเด็นกาสิโน ถ้าไปไกลกว่านั้น ประชาธิปไตยมันชั่ว ก็เลิกมันไป โดยตนไม่ได้พูดถึงประชาธิปไตยในความเป็น ‘ระบอบ’ เพราะไม่มีระบอบไหนชั่วในตัวของมันเอง
รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวต่อว่า ระบอบมี 3 แบบ 1) ระบอบคนเดียวปกครอง หรือสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เราเข้าใจ 2) ระบอบหลายคนปกครอง หรือคณาธิปไตย ซึ่งวันนี้ประเทศไทยเป็นคณาธิปไตย และ 3) ประชาธิปไตย คือหมู่คนทั้งหลาย ประชาชนช่วยกันปกครอง แต่พอบอกว่า ‘ระบอบ’ จะมีชื่อที่แตกแขนงมากกว่านั้น เช่น ฟาสซิสต์ เลเนนิสต์ สังคมนิยม เป็นต้น
ทีนี้พอพูดถึงประชาธิปไตย ตนพูดถึงประเทศนี้ ไม่ได้พูดถึงคำว่าระบอบ และตนใช้คำว่า ‘ถ้า’ หลายคนก็มาถล่ม คนจะเกลียดชังจะด่าตนก็ปล่อยไป ใครก็แล้วแต่ที่มารุมกินโต๊ะแปลว่าสรุปแล้วว่าประชาธิปไตยมันชั่ว
ซึ่งประเด็นการพูดว่าประชาธิปไตยชั่วนั้น ตนหมายถึงเรื่องสารพัด ย้อนไปตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา มีการหมักหมม สะสมความไม่ดี จนเป็นความเลวความชั่ว แต่ไม่ใช่หมายความว่าหมดสิ้นไม่มีคนดีไม่มีความงามเลย แต่ปลาเน่าตัวเดียวจะเน่าทั้งข้อง ทุกวันนี้การเมืองไทยเป็นเช่นนั้น
โดยคณะราษฎ์ประกาศฉบับ 1 จาบจ้วงล่วงเกินด่าทอล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 พอถูกถามว่าที่เขียนมาจริงขนาดนั้นเลยหรือ กลับปฏิเสธ เพียงแค่อยากชนะ แล้วที่เขียนทั้งหมดว่าการปกครองนี้จะทำให้บ้านเมืองเจริญวัฒนาสถาพร ไม่มีคนโกงกิน แล้วทุกวันนี้มีไหม?
รศ.ดร.เจษฎ์ ย้ำว่า ตนพูดชัดเจนว่าเลิกประชาธิปไตยคณะราษฎ์ แล้วมานั่งคิดนั่งคุยกันใหม่ ทำไมจะทำไม่ได้ และนำไปสู่การพระราชทานรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนั้นพระองค์จะพระราชทานอยู่แล้ว ตัดคณะราษฎ์ออก เชื่อมต่อตามสิ่งที่ควรจะเป็น ประชาชนมาคุยกัน ไม่ใช่เลือก สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เช่นนั้นจะมีการฮั้วกันเหมือนประเด็นการฮั้ว สว.
‘ประชาธิปไตย’ หมายถึงทั้งหมด ประชาชนกวาดบ้านเองได้ ไม่ต้องเรียกทหาร - นักการเมือง
รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยว่ารัฐบาลนั้นมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลแปลก พิบูลสงคราม หรือกระทั่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีปัญหาหมด แต่ตนไม่ได้พูดถึงแค่รัฐบาลเท่านั้น ‘ประชาธิไตย’ หมายถึงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ รัฐบาล รัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ หรือแม้กระทั่งประชาชน
รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวต่อว่า ประชาชนที่เอาแต่แบมือขอ เลือกแต่คนบ้าบอก็อยู่ในประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยอำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของประชาชน ถ้าใช้อำนาจแต่แค่เลือกตั้ง เลือกคนอีลุ่ยฉุยแฉกบ้าบอคอแตก นั่งรอแบมือขอเงิน ไม่เคยเลือกคนที่ดีคนที่พัฒนาบ้านเมืองให้พัฒนาสถาพร ไม่เคยมุ่งมั่นศึกษาทำมาหากิน เสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้สามารถพัฒนาบ้านเมืองได้ นี่หรือคือ ‘ประชาธิปไตยของคุณ’
แม้กระทั่งจอดรถในที่ห้ามจอด ก็ไม่เป็นไร จ่ายเงินกัน ตำรวจก็รับเงินไป หรือเขาว่ากันว่าซ่องบ่อนหวยก็อยู่ได้ด้วยเจ้าหน้าที่รัฐทั้งนั้น ความเฟะทั้งหมดเหล่านี้ต่างหากที่ตนบอกว่าต้องกวาดทิ้งไป แล้วมานั่งคุยกันใหม่เรื่องประชาธิปไตย เอาวิถีทางเดิมกวาดทิ้งไปให้หมด เพราะทุกคนอ้างประชาธิปไตยหมด
รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวต่อว่า พอตนพูดเช่นนี้แล้ว หลายคนคิดว่าเป็นการเรียกทหารให้มาปฏิวัติรัฐประหาร นั่นแปลว่าเราสิ้นคิดแล้วว่านายกฯ ต้องเป็นทหาร กวาดบ้านเองไม่เป็นหรือ ต้องเรียกแม่บ้านมากวาดหรือ ก็ให้ประชาชนลุกขึ้นมาช่วยกันทำ หรือถ้าจะปรามาสดูถูกว่าประชาชนทำไม่ได้ ต้องเป็นทหาร ต้องเป็นนักการเมือง มันใช่หรือ?
ถ้าเราบอกว่าอำนาจประชาธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แล้วเราต้องใช้ทหารหรือ หรือเรากระจอกงอกง่อยขนาดนั้นหรือ โดย รศ.ดร.เจษฎ์ ยกตัวอย่างว่า สิ่งที่สามารถทำได้คือ คนอุตส่าห์ใช้ความพยายามมาเป็น 10 ปี กว่าจะมีตัวเลือกไม่ประสงค์ลงคะแนน ถ้าทำได้จริง เลือกไม่ประสงค์เลือกใครทุกเขต ทุกหน่วย จะทำให้พรรคการเมืองต้องเสนอคนมาใหม่หมด
หรือแม้กระทั่งใช้มาตรา 144 ยื่นว่าใช้งบประมาณไม่ถูกต้อง ขัดรัฐธรรมนูญ ถ้า ป.ป.ช. มองว่ามีมูล ส่งศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อตัดสินว่าจริง จะสามารถกวาดคนไปทีเดียว 600 คน ตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ส่วนการเกิดสุญญากาศ ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหา สมมติเหลือพรรคประชาชน มีคนเหมาะสมเป็นนายกฯ ไหม หากไม่มี ก็ต้องหาทางออกกันไปจนนำไปสู่การเลือกตั้ง
รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า หากคิดในแง่ว่าเป็นทางตันไม่ตัน ก็เป็นสิ่งที่คนพูดกันเอง ส่วนตัวมองว่าถ้าจะคิดว่าเป็นทางตัน เราไปเจอกำแพงที่รู้สึกว่าเป็นกำแพงที่เกิดจากความหมักหมม เกิดจากกำแพงที่คนสร้างขึ้นมาโดยไม่จำเป็น ก็ให้ทลายกำแพงนั้นไป ซึ่งสิ่งที่ตนยกมาเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นว่าประชาชนก็ทำได้ ไม่ต้องใช้ทหาร
ความคิดทำให้เกิดวิกฤติได้ ถ้าความคิดทำให้เกิดวิกฤติได้แปลว่าความคิดนั้นมีมวลยิ่งใหญ่เหมือนลม ทำให้เกิดพายุบ้านพังได้ ถ้าจะเอาประชาธิปไตย ก็มานั่งคิดประชาธิปไตยแบบที่ใช่ แต่ประชาชนต้องมาช่วยกัน ตนไม่ปรามาสดูถูกประชาชน เชื่อว่าสามารถทำได้ ยืนยันมาหลายที่แล้วว่าไม่ใช่การเรียกทหารมาปฏิวัติ แต่หากทหารจะปฏิวัติรัฐประหารแล้วเกี่ยวอะไรกับตน