ความเคลื่อนไหวภายหลังอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ถูกคุมขังภายในเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 68 นับเป็นวันที่ 11 ของการถูกคุมขัง มีรายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า นายทักษิณมีอาการอ่อนเพลีย ปวดตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงพิจารณาให้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยไม่ค้างคืน ก่อนจะนำตัวกลับเรือนจำกลางคลองเปรม
โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 68 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำกลางคลองเปรม ได้นำตัวนายทักษิณไปรับการตรวจสุขภาพร่างกายที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังจากที่พบว่ามีอาการอ่อนเพลีย รวมถึงมีอาการปวดตามร่างกาย เนื่องจากนายทักษิณ มีโรคประจำตัวอยู่ และเป็นผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตรวจเช็กอาการตามโรคปกติ และหลังเข้ารับการตรวจเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวกลับเข้ามาที่เรือนจำกลางคลองเปรมทันที ไม่ได้มีการนอนค้างคืนทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และในการพาไปตรวจที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้น ก็เป็นพื้นที่ภายในเรือนจำอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการเหมือนผู้ต้องขังคนอื่นๆตามปกติ เมื่อมีอาการเจ็บป่วย
ขณะที่ความคืบหน้าอาการของนายทักษิณ ล่าสุด นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า อาการของนายทักษิณยังคงอ่อนเพลียและปวดตามร่างกายอยู่บ้างตามปกติของผู้สูงอายุ โดยอาการคงที่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม
ส่วนวันที่ 22 ก.ย. จะมีแพทย์เข้าไปตรวจผู้ต้องขังในเรือนจำตามปกติ ซึ่งนายทักษิณมีคิวนัดพบแพทย์ ตรวจสุขภาพและโรคประจำตัวด้วย
ขณะเดียวกัน เช้าวันที่ 21 ก.ย. 68 เครือข่ายสตรี 20 จังหวัดอีสาน พร้อม นพ.เชิดชัย และ ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย รวมตัวหน้าเรือนจำคลองเปรม จัดกิจกรรม ร้อยกำลังใจ มอบให้อดีตนายกฯ ทักษิณ โดยนำพวงมาลัย และร่วมร้องเพลงศรัทธาเป็นกำลังใจ เพื่อแสดงพลังสนับสนุน ขณะที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ คุมเข้มความเรียบร้อย
โดย นพ.เชิดชัย กล่าวว่า กลุ่มสตรีคนเสื้อแดง มายืนหยัดเคียงข้าง เพราะทักษิณไม่ได้ทำผิด แต่ถูกกลั่นแกล้ง ทั้งที่กลับมาสู้เองอย่างกล้าหาญ และเคยสร้างผลงาน เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แม้ถูกอภัยโทษจาก 8 ปีเหลือ 1 ปี ก็ยังถูกวิจารณ์ว่าหลบเลี่ยงโทษ ซึ่งไม่เป็นธรรม พร้อมย้ำว่า ควรฟังข้อเท็จจริง จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสุขภาพ
ด้าน ผศ.พรรณวดี ย้ำว่า สตรีอีสานร่วมต่อสู้ทางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2552 และเคยผลักดัน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ จึงต้องออกมาให้กำลังใจ ทักษิณและครอบครัว พร้อมประกาศว่า เครือข่ายสตรี จะไม่ทอดทิ้งกัน และจะเป็นนักรบ ในสนามเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทย จนกว่า จะได้อธิปไตย และความถูกต้องกลับคืน