วันนี้ (21 ต.ค. 2568) ก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) ว่า การประชุม GBC ในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 10 กันยายน และที่ต้องไปประชุมที่ประเทศมาเลเซียนั้น มาจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
ได้ไปประชุมเตรียมการประชุม ASEAN Summit เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปในอาทิตย์หน้า ทางมาเลเซียจึงขอให้เราไปร่วมประชุมเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงทั้ง 3 การประชุมเข้าด้วยกัน
พลเอกณัฐพล กล่าวต่อว่า ความคาดหวังต่อทางกัมพูชาจากการประชุมครั้งนี้ตนเองให้ 50:50 เพราะว่าที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ไปพูดคุยมาและได้ร่างกรอบมาแล้ว เหลือการประชุม GBC ที่จะไปลงรายละเอียด ซึ่งในครั้งที่ผ่านมาได้ตกลงกันว่าไปคุยในการประชุม RBC เป็นการคุยในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จจึงย้อนกลับมาที่ GBC อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากประชุมสำเร็จก็เป็นเรื่องที่ดีที่ อยากเชิญชวนผู้สื่อข่าวทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ว่าหนทางที่คลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี แต่ยืนยันว่าเราจะไม่เสียเปรียบแน่นอน แต่ถ้าหากการประชุมครั้งนี้ไม่สำเร็จก็จะไม่ประชุมให้เสียภาษี
เมื่อถามว่า ในการประชุมครั้งนี้จะมีการกำหนดไทม์ไลน์และทิศทางการแก้ปัญหาภายใต้ 4 ข้อเสนอจากไทย เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานจริงไม่ใช่แค่การลงนามใช่หรือไม่ พลเอกณัฐพลกล่าวว่า ต้องกำหนด เพราะว่าจากบทเรียนคราวที่แล้วที่ให้โอกาสประชุม จริงๆ แล้วนโยบายรัฐบาลไม่ใช่ทางสันติอย่างเดียว แต่ทำตามขั้นตอน กติกาสากลที่สังคมโลกใช้กัน แต่หากทำถึงที่สุดแล้วทางกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ส่วนถ้ากัมพูชาไม่ตอบรับหรือไม่นำไปสู่แผนการปฏิบัติ จะส่งผลในเวที ASEAN Summit เรื่องการลงนามสันติภาพหรือไม่นั้น ก็คงมีผลแต่เราก็คงไม่สนใจแล้ว เพราะมีเรื่องอธิปไตยของไทย เราก็มีศักดิ์ศรีของเรา เราพยายามทำตามสันติวิธีแล้ว กติกาสากลแล้ว และเขาไม่ให้ความร่วมมือ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด
ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) ที่เป็นคู่ขนานไปกับกรณีบ้านหนองจานที่ไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิ์แต่เป็นแหล่งชุมชน อันนี้ต้องเอาพูดคุยด้วยที่ด้วยหรือไม่เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย พลเอกณัฐพล กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว เรียนด้วยความเป็นธรรม การประชุม JBC ที่คุย เราคุยเฉพาะพื้นที่อ้างสิทธิ์ เช่น การอ้างสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย แต่พื้นที่ที่นอกเหนือจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ ทาง GBC ถือเป็นอธิปไตยของไทย เพราะฉะนั้นในชั้นต้นไม่ใช่เราไปรับเส้นเขตแดนของเขา แต่ขั้นนี้เราต้องรีบดำเนินการเอาที่ดินของประชาชนคนไทยมาคืนกับคนไทยก่อน ซึ่งส่วนที่ทำได้นั้น คือส่วนที่อยู่นอกจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ ส่วน JBC ในครั้งนี้ ดีที่สุดคืออาจตกลงกันได้เลย แต่ดีรองลงมาอาจกำหนดเส้นที่ทางสากล เรียกว่า Control Actual Line หรือถ้าตกลงไม่ได้ ก็เอาเส้นอ้างสิทธิ์มา แต่ถ้าไม่ยอมคุย เราก็ไม่สนใจแล้ว เราก็ถือว่าตรงไหนก็คือตรงนั้น
พลเอกณัฐพล ย้ำว่า ถ้าประชุมนอกเหนือจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ หรือ GBC ไม่สำเร็จ การประชุม ASEAN Summit และการลงนามก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น ก็คือจะไม่ประชุมให้เปลืองภาษีอีกแล้ว