“หมึก-แม๊พ” เผยเส้นทางที่มา “ดีเจพ่อลูก” คู่แรก

ซึ่งคุณปู่ "หมึก-วิโรจน์" ยอมรับในรายการ "บางกอกซิตี้ เลขที่ 36" ว่า การเลี้ยงลูกให้ความรู้สึกแบบหนึ่ง แต่เมื่อต้องมาเลี้ยงหลานความรู้สึกกลับแตกต่างและไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง เพราะเมื่อมองหน้าหลานจะให้ความรู้สึกลึกซึ่งด้วยความเป็นลูกของลูกอีกที แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ยอมแก่แน่นอนจะโตไปพร้อมกับหลาน

“ติ๊ก กัญญารัตน์” กลัวเจอรักไม่ดี ยอมประคองตัวเป็นโสด

“ไท ธนาวุฒิ” เสียเงินไม่ว่า เสียเพื่อนไม่ยอม ถูกหลอกจนชิน

เมื่อถามย้อนถึงเส้นทางการเข้ามาทำงานในวงการเดียวกันของสองพ่อลูกสองวัยที่แตกต่าง คุณพ่อหมึก เล่าว่า ตนเองเริ่มเป็นดีเจจัดรายการวิทยุ ตั้งแต่แม๊พ ลูกชาย อายุได้ 5 ขวบ ซึ่งในช่วงนั้นเวลาที่ไปจัดรายการก็มักจะพาลูกชายไปด้วยเสมอเพื่อให้เกิดความซึมซับในงานที่พ่อทำ และรู้ว่าพ่อทำงานอย่างไร  

"การจัดรายการวิทยุตอนนั้น เพิ่มเริ่มใช้คำว่า ดีเจ ก่อนหน้านั้นเขาจะใช้คำไทยว่า นักจัดรายการวิทยุกัน ดีเจจะต้องหอบแผ่นเสียงไปสถานีวิทยุไปเอง ยุคนั้นศิลปินยังไม่มีการเดินสายแจกแผ่น พอไปถึงก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่สถานีช่วยเปิดเพลง ก็จะมีผิดจังหวะ ผิดเพลงบ้าง ทุกอย่างเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พอเรามาทำวิธีการมันไม่ใช่ เพราะหากเป็นสากล ดีเจต้องทำทุกอย่าง เปิดเพลง เปิดโฆษณา เล่นเกมส์ รับโทรศัพท์ ผมเลยเป็นดีเจยุคแรกที่เปลี่ยนการทำงานพัฒนาจากการเป็นผู้ดำเนินรายการ"

ในขณะที่ แม๊พ ลูกชายเล่าว่า การก้าวตามพ่อมาเป็นดีเจ เป็นเรื่องกะทันหันที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ย้อนกลับไป 20 ปีที่แล้ว ในช่วงอายุเพียง 19 ปี กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เจ้านายเก่าพ่อที่คลื่นสตาร์เอฟเอ็ม 102.5 เรียกเข้าไปคุยที่สถานี และอาจจะเห็นแวว อีกทั้งเป็นลูกพ่อหมึก จึงเรียกให้มาจัดรายการในวันรุ่งขึ้น

"วันนั้นพอกลับไปคุยกับพ่อ ก็เกิดไอเดียว่าถ้าอย่างนั้นจัดคู่กัน โชคดีผมฟังเพลงมาตั้งแต่อายุ 13-14 ปี พอเพลงไหนฟังแล้วเจ๋งก็จะเอามาขายให้พ่อลองฟังดูสิ กลายเป็นเรื่องที่เอาตัวเพลงมาคุยกัน จนเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้จัดรายการครั้งแรก และจัดรายการคู่กับพ่อ"

พ่อหมึก ยังบอกด้วย การทำงานคู่พ่อกับลูกในยุคนั้นยังไม่มีเลย ทำให้ถือเป็นเรื่องใหม่ และกลายเป็นว่าด้วยคอนเซ็ปต์พ่อลูกที่ต่างฝ่ายก็ต่างหาเพลงที่คิดว่าเจ๋งที่สุดของตนไปเปิดแบทเทิลกันถูกใจผู้บริหารสถานี และยังไปถูกใจแชนแนล วี จนเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่ได้ไปทำงานร่วมกันบนหน้าจอในฐานะวีเจ ล่าสุดคุณพ่อหมึก ยังเปรยด้วย ตอนนี้ด้วยยุคสมัยและโลกที่หมุนเปลี่ยน เขากำลังจะเดินหน้าทำสิ่งใหม่ๆ บนโลกออนไลน์ ซึ่งอยากให้ทุกคนได้รอติดตาม รวมถึงตัวเขายังได้รวมวงเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกัน และกำลังจะจัดการแสดงในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ที่ร้านมูนเทอเรส เพื่อหารายได้ช่วยเหลือการกุศล อีกด้วย

ติดตามชมรายการ "บางกอกซิตี้ เลขที่ 36" ทุกวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 09.15 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 รับชมย้อนหลังทาง http://pptv36.tv/rkG และ  https://tv.line.me/bangkokcity36

“โบ สุนิตา” ตื่นเต้นเตรียมขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเดี่ยวในรอบ 22 ปี