เพิ่งสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักไปก่อนหน้านี้ สำหรับ นักแสดงสาว แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์ ซึ่งในวันนี้เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow พร้อมเผยสถานะหัวใจให้ฟังว่า
“แตงโม นิดา” เศร้า! สูญเสียคุณพ่อ บอกไม่ต้องห่วง จะดูแลตัวเองให้ดี
“แตงโม นิดา” ส่งคุณพ่อครั้งสุดท้าย เสียดายไม่ได้อยู่เห็นวันรับปริญญา
“เรื่องคุณพ่อตอนนี้ทำใจได้เยอะแล้วนะคะ ตอนนี้คุณพ่อจากไปประมาณ 2 อาทิตย์ จริงๆก็เริ่มทำใจมาเรื่อยๆ ตั้งแต่คุณพ่อป่วย เพราะคุณหมอบอกไว้แล้วว่าจะอยู่ได้แค่ประมาณเดือนเดียว โมยังอยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ คืออยู่คนเดียวแล้วคิดถึงพ่อมากเลย มันไม่มีที่ปรึกษาแล้ว ไม่มีคนคุยด้วยแล้วในเรื่องราวต่างๆ ไม่มีคนแชร์ประสบการณ์ ก็มีเหงาคิดถึงพ่อ ทุกวันนี้ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่เวียนมาอยู่ด้วย ตอนนี้รู้สึกว่าบ้านสองหลังติดกัน เมื่อก่อนนี้มันเคยพอดี ตอนนี้พอคุณพ่อไม่อยู่ แฟนคุณพ่อก็ออกไปด้วย เหลือเราคนเดียวแล้วบ้าน 2 หลัง มันว้าเหว่มากเลย คุณแม่ก็พอๆกันค่ะ อาจจะทำใจไม่ค่อยได้เท่าโม คุณแม่ค่อยข้างอ่อนไหว เขาเหมือนยังคิดถึงอยู่ ยังทำใจไม่ได้ที่พ่อจากไปเร็ว
การที่เราสูญเสียคุณพ่อไป มันมีผลต่อโรคซึมเศร้าเราไหม
“ตอนแรกคิดว่ามันจะมีแบบเยอะๆ เลยนะ แต่มันไม่มี ตอนแรกโมคิดว่าโมต้องตายแน่เลย โมไม่รู้จะอยู่ไปเพื่อใคร แต่พอเอาเข้าจริงๆคริสเตียนเราเชื่อว่าถ้าใครที่เสียชีวิตแล้ว จะได้อยู่พระสวรรค์ พอเรารู้อยู่แล้วว่าพ่อเราเสียแล้วไปอยู่กับพระเจ้า เราก็เลยไม่รู้จะเศร้าไปทำไม ไม่รู้จะเสียใจไปทำไมนานๆ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งเราจะกลับไปเจอกันที่นั่น
คือท่านทรุดเร็วมาก โมก็ยังตกใจเหมือนกัน เขามีโรคแทรกซ้อน มีปอดรั่ว วันหลังๆ เริ่มปัสสาวะเป็นหนอง เริ่มหายใจไม่ออก เริ่มตัวร้อน เห็นท่าไม่ดีก็เลยส่งโรงพยาบาล แล้วอยู่ได้ 2 วันคุณพ่อก็ไป ช่วงสุดท้ายที่คุณพ่ออยู่บ้านเป็นเหมือนผู้ป่วยติดเตียงแล้ว ไม่สามารถขยับได้ เพราะเขาเจ็บกระดูกมากต้องใช้อุ้มกันเลย เขาบอกเขาเจ็บไปทั้งตัวเลย เขายอมแพ้แล้วไม่ไหว
ถามว่าคิดไหมตอนที่พ่อไปโรงพยาบาลนั่นจะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่คิดค่ะ คิดว่าเดี๋ยวกลับมา โมคิดว่าพ่อน่าจะอยู่เป็นปีๆ เพราะบางวันพ่อก็สุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก วันที่ไปให้เลือดก็รู้สึกดีมาก
เห็นว่าเราได้เซ็นกับโรงพยาบาลไว้ด้วย ถ้าคุณพ่อไปไม่ต้องกระตุ้นด้วยยา
“เพราะว่าคุณพ่อทรมานหนักมากแล้ว ตอนหลังหลับไปแทบจะไม่รู้เรื่องแล้ว เหมือนยื้อให้เขาทรมานอยู่ด้วยเครื่องแล้ว โมก็เลยมีความรู้สึกว่าถ้าจะทรมานขนาดนี้ให้ไปอยู่กับพระเจ้าดีกว่า แล้วคุณพ่อเคยบอกนานแล้วว่าถ้าวันหนึ่งคุณพ่อถึงวัยชราแล้วป่วย คุณพ่อบอกไม่ต้องยื้อเขาไว้เลย ให้เขาไปดีๆดีกว่า แล้วเขาก็จากไปอย่างสงบ
แต่ครั้งแรกเนี่ยไม่ยอมเซ็น มันเหมือนในใจเราคิดว่าเราฆ่าพ่อหรือเปล่า เราเป็นคนสั่งอนุญาตฆ่าพ่อหรือเปล่า รู้สึกอย่างนี้ก็เลยไม่เซ็น แต่พอตอนหลังไปเห็นสภาพเขานอนหายใจเหนื่อย ก็รู้สึกว่าคุณพ่อทรมานมากแล้ว พ่อมีไตวายเฉียบพลันด้วย แล้วก็คิดเชื้อในกระแสเลือดแล้วด้วย ติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะด้วย ก็คือข้างในไปหมดแล้วก็เลยไม่รู้ว่าจะยื้อไว้ทำไม เหมือนคุณพ่อก็จะรอให้ทุกคนมาเยี่ยมพร้อมกันหมด เหมือนเขาจะลืมตา ไม่รู้ว่ารับรู้หรือเปล่า แต่ว่า 6 ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ไปสักที ขณะที่ถอดสายยา ไม่ได้ให้ยาช่วยแล้ว ก็ไม่ไปสักที เราก็เลยกลับบ้านกันมาประมาณ 5 ทุ่ม เพราะคุณหมอบอกว่าพ่อจะไปคืนนี้ ถึงบ้านพอนั่งลงปุ๊บโรงพยาบาลโทรมาว่าคุณพ่อเสียแล้ว ไปไม่ทัน เปิดประตูไปพ่อไม่หายใจแล้ว ใจหวิวค่ะ ก็ไม่มีแล้วพ่อเรา ณ โมเมนต์นั้นถามตัวเองว่าอยากย้อนเวลากลับไปทำอะไรให้พ่อไหม คำตอบคือไม่มี โมคิดว่าโมทำดีที่สุดแล้ว โมเลยรู้สึกว่าโมสบายใจ ถามว่าอยากบอกอะไรคุณพ่อ คำเดียวสั้นๆ คิดถึงมากๆ คิดถึงพ่อ”
คิดถึงขนาดเอากระดูกท่านแปะตู้เย็นเลยใช่ไหม
“คือเอาส่วนหนึ่งที่จะเอาไปลอยอังคาร ต้องบอกก่อนว่าคริสเตียน ปกติเขาจะใช้ฝัง แต่ด้วยความที่บ้านเราสถานที่ฝังมันจะแพงหน่อย แล้วหายาก ทีนี้ก็จะมีการเผาเกิดขึ้นมาในยุคใหม่ แต่ว่ากระดูกเราจะเอาไปใส่คอนโดของคริสจักร ส่วนหนึ่งก็จะเอาไปฝังพร้อมอากง อาม่าที่ภูเก็ต คุณพ่อเขาอยากกลับไปอยู่กับอากง อาม่า เราก็แยกส่วนไป แล้วอันนี้โมก็ไปเปิดดูอันที่เขาจะเอาไปลอยอังคาร โมก็หยิบเฉพาะชิ้นที่ดีๆ มา แล้วมาแปะที่ตู้เย็นแล้วก็บอกรักนะทุกวัน คิดถึงนะทุกวัน ที่แปะไว้ที่ตู้เย็น เพราะมันเห็นชัดค่ะ เพราะว่าเวลาโมนั่งองศาโมมองตู้เย็น
เรื่องความรักปิดไหม
“ไม่ปิด ตอบได้”
คนที่คุยอยู่ตอนนี้อายุประมาณไหน
“รุ่นราวคราวเดียวกัน บวก ลบ สอง เอาจริงๆแล้วเด็กกว่าก็ได้ แต่ขอให้เด็กคนนั้นเป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูง เป็นคนที่เป็นผู้นำได้ดี มีระเบียบวินัย อย่างนี้โอเค แต่ไม่มี หาไม่เจอ คนนี้เขาเป็นคนนอกวงการ เขาเป็นห่วงเราโดยที่ไม่หวังอะไร เราจะรู้เลยว่าเขามาเพื่อเทคแคร์เรา ไม่หวังอะไรจากเราจริงๆ เราเคยเจอกันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ในห้างแห่งหนึ่ง เพื่อนคนกลางก็มีการแลกไลน์กันให้เรา แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกับเขา หายไปเลย แล้วพอล่าสุดที่เราเลิกกับแฟน เขาก็เสิร์ชไอจีเรา ด้วยความมั่วของตัวเองเสิร์ชเจอ เพราะโมตั้งไพรเวทไว้ เสิร์ชเจอไลน์ของเราได้ยังไงไม่รู้ เขาบอกลองหลายทีแล้วมันไม่ได้ พอเจอเขาก็ถามว่าทำอะไรอยู่ จำเราได้หรือเปล่า เราก็บอกจำได้ ก็เขาบอกสถานที่ที่เคยเจอกันมา ถามว่าสานต่อยังไง ก็มนต์รักน้ำเต้าหู้มั้งคะ เขาซื้อมาให้กินบ่อย (ยิ้ม) เขาไม่ทันเจอคุณพ่อ เราเพิ่งคุยกัน ไม่เกิน 3 เดือน
คือเราไม่รีบ รอไปจนกว่าโมจะดูแลเขาได้จริงๆ คือตอนนี้เขาดูแลโมฝ่ายเดียวเลย ตอนนี้โมรู้สึกเข็ดกับความรัก โมเลยไม่โฟกัสความรักแล้ว โมปล่อยให้เขาดูแลโมอยู่ฝ่ายเดียว โมขอบคุณเขาตลอดเวลา แต่ว่าโมแทบไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย แต่เขาคงเข้าใจว่าโมอยู่ในช่วงที่เพิ่งเสียคุณพ่อด้วย โมเลยไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักเลย”