“ย้ง ทรงยศ” แจงข้อสงสัย นักแสดงทยอยออกจากค่ายนาดาว
หลังจากที่ก่องหน้านี้ ย้ง - ทรงยศ สุขมากอนันต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ได้ประกาศยุติบทบาทของบริษัท ซึ่งทำหน้าที่พัฒนาและดูแลศิลปิน รวมถึงการเป็นผู้ผลิตซีรีส์ ละคร หรือผลงานเพลงต่างๆ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ทำเอาแฟนๆต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกตกใจไม่น้อย
“นาดาว บางกอก” ประกาศปิดตัว ยุติทุกบทบาท ตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้
ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค.65) “จินา โอสถศิลป์” ผู้บริหารจีดีเอช ได้เปิดให้สัมภาษณ์ โดยช่วงนึงได้เปิดใจถึงการปิดฉาก 12 ปีของ “นาดาว บางกอก” ซึ่งเผยว่า
“คือต้องบอกก่อนว่า 12 ปีที่แล้วพี่เป็นคนที่ขอให้ “พี่ย้ง” เปิดนาดาว คือ ณ ตอนนั้นเรามีนักแสดงอยู่ 3-4 ท่าน ต้องบอกนิดนึงว่าจีดีเอช เป็นบริษัททำหนังไทย ทำคอนเทนต์ เรามีหน้าที่ทำคอนเทนต์ตอนนั้นเรามีนักแสดง ซันนี่ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เต๋อ (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เปอร์ (สุวิกรม อัมระนันทน์) ไมเคิล (ศิรชัช เจียรถาวร) พี่ย้งอยากทำงานโปรดักชั่น พี่เห็นพี่ย้งกับน้องบอมบ์ (จงจิตต์ อินทุ่ง) ดูแลนักแสดงเราอยากจะทำพัฒนาศิลปินแต่เราทำไม่เป็นพี่ย้งเปิดบริษัทแล้วก็ช่วยทำให้เราหน่อยได้ไหม กับสิ่งที่พี่ย้งอยากทำอะไรก็ได้ที่พี่ย้งเป็นแพชชั่น อันนั้นคือ 12 ปีที่แล้ว พี่ย้งก็ได้แล้วก็ทำ
หลังจากนั้นที่ทำก็มีนักแสดงอยู่ 3-4 ท่าน เสร็จแล้วพี่ย้งก็ได้โอกาสในการทำฮอร์โมนก็ได้เกิดการสร้างนักแสดง มาสร้างศิลปินของตัวเองพี่ย้งก็สนุกมีแพชชั่นมากได้ทำสิ่งใหม่ๆ พี่ย้งก็มาบอกพี่ว่าอยากทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำซึ่งมันก็คล้ายปัจจุบัน ลองผิดลองถูก นาดาวปี2-3ปีแรกเคยเหลือเงินอยู่ สองหมื่นแปดก็เคยแล้วถ้ากลับไปอ่านในประวัติของเขาแต่ความตั้งแต่กับแพชชั่นที่พี่ย้งเขามีเขาต้องทำให้ได้ในการที่จะพัฒนาศิลปินได้แปลว่าเราต้องมีงาน ต้องคิดงาน ทำคอนเมนต์ต่างๆ
จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาพี่ย้งเขารู้สึกว่ากำลังจะหมดแพชชั่น เรามีนักแสดงของเราที่เพิ่มมากขึ้นแล้วน้องๆทุกคนมีศักยภาพและโอกาสแต่ขณะที่คนที่กำลังทำมันอ่อนแรง แพชชั่นเขาไม่ได้อยู่ที่เดิมๆ เขาไม่ได้อยากทำซีรี่ย์ เขาไม่อยากทำอะไรที่เหมือนซ้ำเดิม เขาอยากทำสิ่งใหม่ ก็มีการมาคุยกัน บวกกับนักแสดงของเราและศิลปินของเราก็มีโอกาสแล้วก็มีทางเลือกทางเดินของตัวเอง จริงๆปัจจุบันนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อน โลกที่มันเปลี่ยนไปเราว่าทุกคนดูแลตัวเองได้ การติดต่องานมันง่านขึ้นมาก ก็มีการพูดคุยกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็บอกพี่ย้งว่าท้ายสุดในฐานะเราเป็นคนทำงานอะไรที่คนทำงานมีแพชชั่นและไม่มีแพชชั่นเราจะเคารพในสิ่งนั้น
จนพี่ย้งบอกว่าผมได้เริ่มคุยกับนักแสดงภายใน 2 ปีที่ผ่านมา เดี๋ยวเราจะค่อยๆหาวิถีทางแล้วก็ยุติ ยุติไม่ได้แปลว่าปิดนาดาวนะคะ นาดาวไม่ได้ปิด นาดาวเป็นบริษัทที่พี่ย้งถือหุ้นใหญ่ เราไปถือหุ้นกับพี่ย้งช่วยดูแลศิลปิน พี่ย้งก็ทำงานให้เรามีชื่อเสียง ผลประกอบการที่กลับมามาก ปีที่ผ่านมาเราได้กำไรส่วนหนึ่งก็มาจากการปันผลของนาดาว นาดาวปีที่ผ่านมาผลกำไรเขาดีมาก แต่แพชชั่นหมด แพชชั่นพี่ย้งหมดแปลว่าพี่ย้งไม่อยากทำพาร์ทตรงนี้ แต่เขามีสิ่งที่อยากทำในอนาคตก็เลยบอกว่าถ้าเราไม่อยากทำอะไรถึงฝืนทำกันไปได้เงินมันก็จะไม่มีผลดี พี่ย้งก็เลยบอกว่างั้นนักแสดงทุกคนต้องมีการคุยกัน ไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง ไปเอาต์ติ่งกันที่เสม็ดอยู่เลย แล้วก็นักแสดงทุกท่านกลับไปดูแลตัวเองแต่ถ้าอยากมีงานหรืออะไร อันนี้เป็นสิ่งที่พี่ย้งทำไปข้างหน้าเรายังร่วมงานกันได้เสมอ GDH น้องๆ เหล่านี้ก็เหมือนพี่น้องเรา มีอะไรเราก็จะคิดถึงก่อน เพราะฉะนั้นนาดาวยุติบทบาทไม่ได้แปลว่าปิดบริษัท บริษัทเขายังมีอยู่ก็รอดูว่าแพชชั่นใหม่ของพี่ย้งซึ่งถ้าเรารู้จักเขาดีแกคงไม่หยุดนิ่ง เดี๋ยวแกคงจะได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่เหมือนที่แกเริ่มทำฮอร์โมน วันนั้นไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำฮอร์โมนขึ้นมาได้หรือเลือดข้นคนจางละครฉายในทีวี”
สรุปเหรียญ ซีเกมส์ 2021 ล่าสุด ประจำวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. 65
โปรแกรมถ่ายทอดสดซีเกมส์ 2021 นักกีฬาไทย ประจำวันพุธที่ 18 พ.ค. 65
นาดาวไม่ปิดตัว?
“บริษัท นาดาว บางกอก ยังอยู่เหมือนเดิม พี่ย้งก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แต่ยุติบทบาทพาร์ทของการดูแลศิลปิน พัฒนาศิลปิน เพราะการมีศิลปินแปลว่าเราต้องสร้างคอนเทนต์ตอนนี้พี่ย้งหยุดสิ่งนี้ ถ้าหยุดปุ๊บนักแสดงจะทำอะไร เพราะฉะนั้นเราต้องปล่อยให้นักแสดงมีทางเดินของตัวเอง ก็เป็นการแยกย้าย”
“ต่อ ธนภพ” ใจหาย “นาดาวฯ” ปิดตัว ไม่ฟันธงอนาคตจะไปอยู่ค่ายไหน
เสียดายไหมเพราะศิลปินยังไปได้อีก?
“ถ้าพูดเรื่องของธุรกิจ เรื่องของผลประกอบการก็คงอาจจะเสียดาย แต่คนทำงานมันใช้แพชชั่นมาก การที่พี่ย้งหรือและน้องๆนาดาว อย่างล่าสุดเรื่อง “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” พีพี (พีพี กฤษฏ์) และ บิวกิ้น (พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) กว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นมาได้ มันใช้พละกำลังสูงก็ถ้าตัวพี่ย้งเองถ้าไม่มีแพชชั่นในการขับเคลื่อนอย่างคนทำหนังเหมือนกัน พี่น้องทุกคนก็ต้องมีแพชชั่น เราต้องเชื่อในสิ่งที่อยากทำ ทำสิ่งนี้ไปข้างหน้าถ้าในเชิงธุรกิจก็อาจจะเสียดาย แต่นาดาวให้พวกเรามามาก ให้พวกเราทั้งชื่อเสียง เงินทอง ทั้งสิ่งดีๆที่สร้างไว้ เราเชื่อว่าเดี๋ยวพี่ย้งต้องทำสิ่งใหม่ไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นนาดาวยังอยู่พี่ย้งก็มีบริษัทนาดาวอยู่แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปข้างหน้า กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจอยู่ แต่พี่เชื่อว่าเขาไม่ได้หยุด เขาแค่พัก หาแพชชั่นใหม่ๆ เดี๋ยวคงกลับมาในไม่ช้านี้ แล้วพี่ย้งก็อาจจะดูว่าใครเหมาะสมที่จะมาถือหุ้นในการทำสิ่งใหม่ๆของเขา”
เรามีแผนที่จะดูแลศิลปินที่ยังทำเงินได้อยู่ไหม?
“คืออย่างงี้ตอนเราเปิดจีดีเอชใหม่ๆ เรายังต้องเอานักแสดงไปให้ย้งช่วยดูเลย เพราะจริงๆพวกเราเป็นคนทำคอนเทนต์ การดูพาร์ทของนักแสดงมันต้องมีหัวอีกด้านในการจะดูว่าจพัฒนาเขายังไง พัฒนาไม่ใช่แค่ว่าส่งไปเรียน คุณต้องทำงานให้เขาด้วย สิ่งหนึ่งที่นาดาวประสบความสำเร็จมากๆคือเขา มี creativity ในการทำตัวคอนเทนต์ต่างๆ ที่จะรองรับให้นักแสดงเขาไปข้างหน้าได้เป็นที่รู้จักและเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งถ้าถามว่าในเวลาวันนี้จีดีเอชอาจจะยังไม่พร้อมที่จะเอานักแสดงทั้งหมดกลับมา มัน 40 กว่าชีวิต เราทำหนัง เราทำซีรี่ย์ก็ถือว่าเต็มพละกำลังแล้วและอีกอย่างหนึ่งคือน้องๆ นักแสดงจริงๆเขามีผู้ดูแลหรือเรียกว่าผู้จัดการได้ดีอยู่แล้ว แล้วก็คอนเทนต์ใหม่ๆก็หลากหลายมาก น้องๆอาจได้ฝึกปรือประสบการณ์กันดู”
ตอนนี้บริษัทนาดาวยังคงอยู่แต่ยุติเรื่องคอนเทนต์และเรื่องการดูแลศิลปิน?
“ใช่ค่ะ แล้วก็พอดีเป็นพาร์ทที่จีดีเอชเข้าไปหุ้นในพาร์ทของบริหารศิลปิน เราก็เลยได้มีการซื้อหุ้นคืนแล้วก็หุ้นอันใหม่ก็แล้วแต่พี่ย้งเขาจะไปทำอะไรต่อแต่ว่าไม่ได้ปิดบริษัท ถ้าปิดมันจะเหมือนจีทีเอชมันไม่มีบริษัทแห่งนี้อยู่แล้วแต่นาดาวเขายังมีอยู่ค่ะ พี่ย้งเขาเป็นเจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่นาดาวอยู่แล้ว ส่วนตัวเราเป็นพี่น้องที่รักกันเหมือนเดิมเพราะสิ่งๆแล้วเรารับรู้กันมาตลอด ปรึกษาหารือกันมาตลอด รวมถึงทางแกรมมี่ด้วยแต่เราไม่รู้ว่าข้างหน้าแพชชั่นของพี่ย้งจะกลับมาอยู่กันใหม่หมดเลยก็ได้แต่เพียงเช็ทอัพให้ได้ก่อนค่ะ แต่พี่ก็รู้สึกดีใจแล้วก็ขอบคุณพี่ย้งที่เขาได้บอกสิ่งที่เขารู้สึกคือคนเราถ้าทำงานต้องการแค่เงินเราเชื่อว่าข้างหน้าคอนเทนต์เราไม่ไปไหน ซึ่งอันนี้ก็ขอบคุณพี่ย้นที่เขาบอกว่าล่วงหน้าตอนแรกเราก็พยายามจะแบบพี่ย้งไหวไหมไปต่อ มัน 2 ปีแล้วเราก็เห็นความหมดพลัง”
เขาบอกล่วงหน้า 2 ปี?
“คือมีการคุยกันมา 2 ปีแล้วค่ะ ว่าสิ่งนี้มันมีสิ่งที่ดี น้องนักแสดงก็ได้รับรู้มาแต่เพียงแค่มันเอฟเฟคทีฟคือเดือนนี้”
“จีดีเอช” ถือหุ้นอยู่เท่าไหร่?
“30% ค่ะ”
แต่งานใหม่จะไม่ใช้ชื่อ “นาดาวบางกอก” แล้ว?
“คืออยู่ที่พี่ย้ง ตอนนี้เราบอกพี่ย้งว่าตอนนี้บริษัท นาดาว บางกอก เป็นของพี่ย้ง พี่เก้ง จิระ เป็นคนตั้งให้วันหนึ่งไม่เปลี่ยนชื่อหรือไม่เปลี่ยนอันนี้อยู่ที่ตัวพี่ย้งเองเพราะจริงๆนาดาวตอนที่ตั้งเข้ามาก็คือกลุ่มเล็กๆที่มีพี่บอมบ์ มีจีดีเอช มีพี่ย้ง คุณแท๊ด คุณดิว คนแปลความหมายว่านาดาวบางกอกเท่ากับศิลปินแต่จริงๆนาดาวบางกอกเขามีพาร์ทโปรดักชั่น มีพาร์ทเพลง มีการทำเสียงอื่น อันนี้ก็แล้วแต่พี่ย้ง”
ตอนนี้ยังมีโปรเจ็กต์อะไรที่ค้างอยู่ไหม?
“ไม่มีค่ะ คือหลังจากที่พอรู้โปรเจกต้องๆก็ค่อยๆจัดการจนตอนนี้ไม่มี แต่เราอาจจะเห็นวันหนึ่งพี่ย้งทำหนังก็ได้นะคะ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ พี่ย้งเป็นคนทำงานที่บ้าพลังเพียงแต่ว่าถ้าพี่ย้งมีแพชชั่นที่เชื่อว่าพี่ย้งจะทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นออกมาได้ดี”
ตอนนี้รอ “พี่ย้ง”?
“รอพี่ย้งแล้วก็ผู้ที่จะร่วมเดินทางไปกับพี่ย้ง ซึ่งอันนี้พี่ย้งก็น่าจะกำลังดูๆอยู่”