น้องสาวเปิดใจสูญเสีย “อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี” ตั้งใจยกสมบัติพี่สาวทำบุญสร้างวัดตามเจตนารมณ์


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ครอบครัวเปิดใจ “อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี” ต่อสู้โรคมะเร็ง จากไปอย่างสงบ เตรียมนำอัฐิลอยอังคารที่จังหวัดกระบี่

ศิริราชจับมือจีน วิจัย  “ภูมิคุ้มกันบำบัด” รักษาโรคมะเร็งแนวใหม่

หลังจากที่ครอบครัวทางของ อิ๋งอิ๋ง - สิทธิณี กิตติสิทโธ ได้แจ้งข่าวเศร้าว่าอดีตพิธีกรคนดังได้จากไปอย่างสงบ หลังป่วยโรคมะเร็งและต่อสู้มานานหลายปี ท่ามกลางความเศร้าโศกของ ญาติพี่น้อง คนสนิท รวมไปถึงแฟนๆที่ต่างอาลัยรักผ่านทางโซเชียลอย่างมากมาย

อาลัย พิธีกรดังยุค 90 "อิ๋งอิ๋ง" เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็ง ตั้งศพวัดสระเกศ

โดยทางครอบครัวกิตติสิทโธ ได้นำร่างของ “อิ๋งอิ๋ง” ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาบำเพ็ญกุศล (ศาลาใหญ่ ) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งทางน้องสาวอย่าง “อิ๋งอ้อย สิทธิวดี  และ “อุ๊อู๋ สิทธิภาณี” ได้เปิดใจหลังสูญเสียพี่สาวว่า

อิ๋งอ้อย : “เมื่อเช้าเวลา 06.13 น. พี่อิ๋งค่อยๆดาวน์ลง เหมือนระบบร่างกายชัตดาวน์หยุดหายใจลงไปเอง พี่อิ๋งเข้า รพ.ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.65 เขาปิดไม่อยากให้น้องตกใจ พอเรารู้ก็ไปหาเขาที่ รพ.รามาฯ เขายังพูดได้ ทุกอย่างตอบรับ อาทิตย์ถัดมาคุณหมอบอกว่าอยากให้มาเซ็นเอกสารฉบับหนึ่งที่ รพ.ให้เซ็นว่าหนึ่งไม่ปั๊มหัวใจ และไม่ใส่ท่อไม่ทำอะไรเลย เรายังรู้สึกว่าพี่อิ๋งยังตอบรับได้ดีอยู่เลย

พอเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ระบบร่างกายพี่อิ๋งเริ่มไม่ตอบรับ ถามอะไรก็เริ่มไม่ตอบรับถามพี่อิ๋งว่ารู้สึกไหมว่าระบบการตอบรับช้าลงแต่เขาก็ยังตอบรับเราได้ แต่พอหลังจากวันที่ 20 ถามอะไรพี่หญิงไม่ตอบรับแล้ว เมื่อสองวันที่แล้วสงสารเขาที่สุดเพราะว่ามือเขาไม่สามารถคอนโทลอะไรได้เลยมือคว้าสายออกซิเจนและกระชากออกบอกว่าไม่เอาแล้ว จากที่พูดไม่ได้ เขาก็กระชากออกสายออกซิเจนออกและพูดว่าไม่เอาแล้ว

พี่อิ๋งเป็นคนที่ทำบุญเยอะมาก วันสุดท้ายก่อนที่จะไม่รู้เรื่องมีพระที่พี่อิ๋งนับถือจากภูทับเบิกขึ้นมาทำฟันที่กรุงเทพฯ เราก็โทรหาครูบาร์ขอให้ท่านมาหาพี่อิ๋งซึ่งวันนั้นเป็นวันที่พี่อิ๋งไม่รู้สึกตัวแล้ว ตอนที่ท่านมาก็บอกพี่เองว่าครูบาร์มาณขณะนั้นพี่อิ๋งก็ยกมือไหว้และบอกสาธุ”

ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลพี่สาวได้สั่งเสียอะไรไว้บ้าง?

อิ๋งอ้อย : “ตอนที่อยู่โรงพยาบาลก็ได้ถามว่าพี่อิ๋งอยากทำอะไรไหม ถ้ามีอะไรให้บอกอ้อยได้เลยเดี๋ยวจะทำให้เขาบอกว่าเขาจะจัดการเองไม่เป็นไร”

ก่อนหน้านี้เหมือน “อิ๋งอิ๋ง” บอกว่าไม่อยากให้จัดงานศพเพราะไม่อยากให้ใครมาร้องไห้?

อิ๋งอ้อย : “ใช่ค่ะ แต่ด้วยร่างกายของพี่อิ๋ง เชื้อมะเร็งเป็นไปหมดแล้วดังนั้นร่างกายไม่สามารถบริจาคให้ใครได้ตอนที่พี่เองยังนอนรักษาตัวอยู่ต้องเจาะน้ำออกจากปอดแต่ล่าสุดคุณหมอบอกว่าตอนนี้มะเร็งได้แทรกเข้าไปหมดแล้ว ร่างกายให้ไปก็ไม่มีประโยชน์”

ระยะในการรักษาโรคมะเร็งนั้นนานแค่ไหน?

 อิ๋งอ้อย : “เมื่อสามปีที่แล้วหลังจากนั้นทำคีโม 24 ครั้ง เขาต่อสู้กับมะเร็งมาเกินสามปีเพราะตอนที่เขารู้ว่าเขาเป็นมะเร็งคือระยะที่สองแล้ว จากนั้นเขาก็สู้มาโดยตลอด แต่ครั้งหลังเขาสู้ไม่ไหวเขาจะเข้ามาให้คีโมแต่เม็ดเลือดขาวต่ำมากและไม่สามารถทำคีโมได้ต้องให้เลือดเพิ่ม พอให้เลือดเพิ่มพี่อิ๋งก็ไม่สู้แล้ว”

ได้บอกอะไรกับพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายบ้าง?

 อิ๋งอ้อย : พี่อิ๋งถ้าเหนื่อยก็พัก พี่อิ๋งไม่สู้ก็ไม่เป็นไร ที่เหลืออ้อยกับน้องสาวจัดการให้เองไม่ว่าบริษัทหรือสิ่งต่างๆของพี่อิ๋งเราคุยกันไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าทรัพย์สมบัติของพี่อิ๋งทั้งหมด อ้อยถามน้องสาวว่าเอาไหมอ้อยก็บอกว่าอ้อยไม่เอา เราทั้งสองคนเลยคุยกันว่าทรัพย์สมบัติของพี่อิ๋งทั้งหมดหลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างเราจะบริจาคทั้งหมด เราได้ถามพี่อิ๋งก่อนหน้านี้ว่าเอาวัดไหม เพราะว่าเงินของพี่หญิงทรัพย์สมบัติทั้งหมดสามารถสร้างวัดได้เลยสิ่งที่พี่อิ๋งห่วงที่สุดตอนนี้คือห่วงแมวทั้งสี่ตัว พี่อิ๋งเคยพูดว่าเขาจะยกสมบัติทั้งหมดให้กับลูกอ้อย แต่อ้อยบอกว่าอ้อยไม่รับเนื่องจากเรามีมือมีเท้ามีสมองทำไมเราต้องจ้องที่จะเอาแต่สมบัติเขาและก็ไม่ภาคภูมิใจเลย”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาใครเป็นคนดูแล “อิ๋งอิ๋ง”?

 อิ๋งอ้อย : “ทางครอบครัวเป็นคนซัพพอร์ต มีอยู่ช่วงหนึ่งพาพี่อิ๋งไปอยู่กับอ้อยที่บ้าน แต่เขาก็หนีกลับบ้านเขาบอกมีโลกส่วนตัว เขาบอกกับญาติว่าเขาคิดถึงแมว เขาเป็นผู้หญิงที่สตรองมากนาทีสุดท้ายเขาเจ็บ เขาก็ไม่ร้องเลย ไม่มี ร้องเจ็บโอดโอยเหมือนคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”

ก่อนหน้านี้เหมือนมีข่าวว่าพี่น้องทะเลาะกัน?

 อิ๋งอ้อย : “พี่อิ๋งเคยบอกว่าทะเลาะกับอ้อย ต้องบอกว่าอ้อยกับพี่อิ๋งเราเป็นพี่น้องคลานตามกันมาเวลาเราเห็นพี่เจ็บพี่ล้มทำไมเราจะไม่ซัพพอร์ต แม้กระทั่งวันที่เขามีปัญหา พี่อิ๋งจะกลับไปอยู่คนเดียวเราก็บอกว่าไม่ได้ ต้องดึงมาอยู่กับเราเขาก็มาได้แป๊บๆก็กลับไปอยู่คนเดียว ก็บอกกับญาติๆ ว่าสงสารแมวคิดถึงแมว”

ทำไมตอนนั้นแกถึงออกมาพูดอย่างนั้น น้อยใจ?

อิ๋งอ้อย : “แกน้อยใจ แกคุยกับเราแล้วเราก็บอกแกว่าพี่อิ๋งความสุขสุดท้ายของพี่อิ๋งคิดเลย เพราะนาทีนี้เวลาพี่อิ๋งเหลือน้อย ให้ไปคิดให้ดีๆอะไรที่มีความสุข อยากทำอะไรพี่ทำเลย ความสุขของพี่อยู่ตรงไหนไปตรงนั้น”

“อิ๋งอิ๋ง” เพิ่งออกรายการว่ากลับมาคืนดีกับสามี?

อิ๋งอ้อย : “ก็ไม่ได้กลับมาดูแลนะคะ เหมือนเขาบอกว่าเขาคบกันเป็นกิ๊กเฉยๆ กลับมาก็เจอกัน ออกไปทานข้าว พี่อิ๋งก็ดูแลตัวเอง เขาไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้าน  นาทีสุดท้ายของพี่อิ๋งจนวันนี้ แม้กระทั่้งพิธีนำศพ แต่งหน้าศพก็พี่น้องนี่แหละ ส่วนวันอื่นๆเขาจะมาไหมก็แล้วแต่เขา ตรงนี้เราทำให้พี่สาวเราอย่างดีที่สุด ส่งเขาให้มีความสุขที่สุด”

เราก็ไม่ได้โกรธอดีตสามีพี่?

อิ๋งอ้อย : “ไม่ได้โกรธ เขาโตแล้ว มันคือความสุขของเขา ทุกคนมีครอบครัวแยกกันไป เรารู้ความสุขของเราอยู่ที่ไหน ความสุขของพี่อิ๋งอยู่ตรงไหนพี่อิ๋งทำเลย”

ตอนช่วงที่ป่วยก็ยังทำงานเป็นพิธีกร?

อิ๋งอ้อย : “ทำค่ะ อย่างลงเสียงพี่อิ๋งลงไม่ไหว เลยบอกว่าเสียงอ้อยคล้ายกับพี่เดี๋ยวอ้อยลงให้ เราก็ไปนั่งลงเสียงให้เขา การเป็นพิธีกรเป็นความสุขของเขาที่สุดเลย รายการโชคดีนาทีทองเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตเขา เขาเคยบอกว่าในช่วงชีวิตการเป็นพิธีกรของเขา รายการโชคดีนาทีทองเป็นช่วงแห่งความสุขของเขา เป็นสิ่งที่ทำให้วันนี้เขายังสู้อยู่ เขาบอกเลยว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเขาจะมาลงเสียงเอง เดี๋ยวเขาจะไปหาลูกค้าเอง”

งานของ “พี่อิ๋ง” ยังรับผิดชอบอยู่มีอะไรบ้าง?

อิ๋งอ้อย : “มีรายการสั้นที่แกยังทำอยู่ รายการคนไทยไม่ใส่จริต เขาเป็นคนที่ทำนุบำรุงศาสนา บางครั้งในเนื้อรายการไม่ได้มีสปอนเซอร์ซัพพอร์ต แต่แกก็ทำ เพื่อให้คนดูบริจาคมาช่วยเหลือวัด”

มีอะไรที่อยากให้เราสานต่อบ้างไหม?

อิ๋งอ้อย : “มีลูกค้าที่อยากจะให้ทำ เราก็ดูอยู่ว่าเราจะสานต่อได้ยังไงบ้าง เพราะตัวอ้อยเองก็ทำธุรกิจอยู่กับสามี แต่เราก็จะมาดูว่าอะไรที่เราทำได้เราก็จะช่วยทำ ในส่วนของบริษัทตอนนี้ของเราเบรกไป ด้วยสปอนเซอร์ค่อนข้างหายากมาก แต่ถ้าสปอนเซอร์คนไหนอยากจะซัพพอร์ตมาเลยค่ะ เราพร้อมทำ พี่อิ๋งเป็นคนที่รักลูกน้องมาก แกมีลูกน้อง 10 คน ช่วงโควิดหลายบริษัทลดเงินเดือนแต่พี่อิ๋งไม่เคยลดเลย จ่ายเต็มอยู่เหมือนเดิม”

สำหรับอัฐิจะตั้งใจไว้อย่างไรบ้าง?

อิ๋งอ้อย : “จะเอาไปลอยที่คุณพ่อกับคุณแม่ พื้นเพแกเป็นคนจังหวัดกระบี่ เราก็จะเอาอัฐิไปลอยรวมกับคุณพ่อคุณแม่ที่กระบี่”

มีฝันถึง?

อิ๋งอ้อย : “ไม่มี ก่อนที่พี่อิ๋งจะเสียพวกเราก็ไปนั่งเฝ้าแกที่โรงพยาบาล พยาบาลก็บอกว่ากลับไปก่อนค่ะ เพราะตอนนี้ความดันพี่อิ๋งยังดีอยู่คงยังไม่ตกวูบไปเลย เดี๋ยวถ้าค่อยๆเขยิบลงจะโทรเรียก ก็ซ้อมมาหลายรอบตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว พอโรงพยาบาลสั่งมาเลยค่ะเราก็ไป แต่พี่อิ๋งก็โอเค กลับมาดีขึ้น พอเมื่อวานโรงพยาบาลบอกกลับเลยค่ะ เดี๋ยวตอนเช้ามาใหม่ พอ 06.06 น. พยาบาลโทรเข้ามาบอกว่าให้รีบมาเดี๋ยวนี้ แล้วพี่อิ๋งก็ไปเลย พวกเราไปไม่ทัน แค่ไม่ถึง 7 นาทีที่โทรหาเราพี่อิ๋งก็สวิตช์ก็ดับไปเลย เราก็ถามหมอว่าถ้าปั้มขึ้นมาพี่อิ๋งสามารถมีชีวิตอยู่ได้ไหม หมอก็บอกว่าไม่ได้แล้ว ก็เป็นนวาระสุดท้ายของเขาจริงๆ ระบบมันค่อยๆพังไปทีละระบบ ปัสสาวะก็ไม่ถ่ายแล้ว น้ำในปอดก็ไม่ออกแล้ว แต่เขาก็ไม่ร้อยนะคะ”

ทำใจไว้ไหม?

อุ๊อู๋ : “ทำใจตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว แกส่งสัญญาณมาตั้งแต่เสาร์ที่แล้ว  แกไม่ทุรนทุรายอะไรเลย แกจากไปอย่างสงบ”

แมวใครจะดูแลต่อ?

อิ๋งอ้อย : “แมวก็ยังอยู่บ้านที่ออฟฟิตพี่อิ๋ง มีเด็กๆดูแลอยู่”

เรื่องวัดที่ตั้งใจจะทำกุศลให้พี่สาวจะเป็นไปได้?

อิ๋งอ้อย : “เป็นไปได้ค่ะ หลังจากนี้เราจะตั้งพี่อิ๋งเป็นมูลนิธิขึ้นมาก่อน แล้วก็จะใช้เงินส่วนนี้ในการทำนุบำรุงศาสนา เพราะพี่อิ๋งเขาย้ำมาเลย เราถามพี่อิ๋งเอาวัดไหม เขาพยักหน้า เขาเอา แต่จะเป็นตรงไหนก็แล้วแต่บุญวาสนาเขาพาไปเลยนะ ถ้าเรามีเงินก้อนนี้ของพี่อิ๋งขึ้นมาปุ๊บ เขาต้องได้”

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ