คริส เฮมส์เวิร์ธ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง เจ้าของบทบาทเทพเจ้าสายฟ้า “ธอร์” ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ออกมาเปิดเผยว่า เขาตรวจพบว่าตัวเองมียีนในพันธุกรรมที่ทำให้มีความเสี่ยงจะเป็น “อัลไซเมอร์” ได้มากขึ้น
เขาพบความจริงนี้ขณะถ่ายทำซีรีส์เชิงสารคดี “Limitless” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Disney+ กับ National Geographic เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการยืดอายุขัยและการต่อต้านวัยชรา (ปัจจุบันมี 1 ซีซัน 6 ตอน)
เลซิติน สารอาหารบำรุงสมองจากธรรมชาติป้องกันอัลไซเมอร์ เพิ่มประสิทธิภาพความจำ
พฤติกรรมเสี่ยงอัลไซเมอร์ ไม่ออกกำลังกาย-เก็บตัว โรคเรื้อรัง
7 วิธี ลับคมสมองให้ใสกิ๊ก! ห่างไกลจากโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์
ในตอนหนึ่งของสารคดี เขาเข้ารับการตรวจพันธุกรรม และพบความจริงที่ชวนช็อกว่า ตัวเขามีสำเนายีน “APOE4” อยู่ 2 ชุด จากพ่อและแม่อย่างละชุด ซึ่งยีนดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับโอกาสในการเกิดโรคอัลไซเมอร์
“พวกเขาตรวจเลือดของผมและทำการทดสอบหลายชุด และแผนคือให้เจ้าหน้าที่บอกผลลัพธ์ทั้งหมดให้ผมทราบโดยถ่ายทำไปด้วย” เฮมส์เวิร์ธกล่าว
เขาเล่าต่อว่า “ปีเตอร์ แอตเทีย ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการยืดอายุขัย ได้ติดต่อผู้สร้างซีรีส์สารคดี Limitless ดาร์เรน อาโรนอฟสกี และบอกว่า ‘ผมไม่อยากบอกเรื่องนี้กับเขาต่อหน้ากล้อง เราจำเป็นต้องคุยกันนอกรอบ และดูว่าเขายังต้องการให้เรื่องนี้ออกอากาศอยู่ในรายการหรือไม่’ มันค่อนข้างน่าตกใจ เพราะเขาโทรหาผมและเขาก็บอกผม”
เมื่อทราบความจริง เฮมส์เวิร์ธกล่าวว่า เขามีคำถามมากมายในเวลาต่อมา เขาบอกว่า “ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าควรคิดอย่างไร อารมณ์มันแบบว่า ‘ผมควรจะกังวลไหม? เรื่องนี้น่ากังวลหรือไม่?’”
เขายังกล่าวอีกว่า “การแสดงในสารคดี Limitless กลายเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันและสำคัญสำหรับชีวิตผมมากยิ่งขึ้น มากกว่าที่ผมเคยคิด”
เฮมส์เวิร์ธบอกว่า การมียีน APOE4 ทำให้เขา “มีโอกาสมากขึ้น 8-10 เท่าที่จะป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ในที่สุด”
เทพเจ้าสายฟ้าบอกว่า ความจริงที่เขาค้นพบนี้ทำให้เขาเริ่มคิดเรื่องเกี่ยวกับความตายมากขึ้น “พวกเราส่วนใหญ่ชอบหลีกเลี่ยงการพูดถึงความตายโดยหวังว่าเราจะหลีกเลี่ยงมันได้ จากนั้นในทันใดก็มีตัวชี้วัดสำคัญบางตัวกำลังชี้ไปที่ความตายจริง ๆ เป็นเส้นทางที่จะเกิดขึ้น เป็นความเป็นจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น”
ในการจัดเตรียมสารคดีที่จะออกอากาศ เฮมส์เวิร์ธกล่าวว่า ตอนแรกเขาจะนำเสนอตอนที่ไม่ได้พูดถึงการค้นพบยีนที่เสี่ยงทำให้เขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่ความหวังในการช่วยเหลือผู้อื่นช่วยให้เขาข้ามผ่านความลังเลใจไปได้
“ผมคิดว่า ‘ไม่ ดูสิ ถ้านี่เป็นแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาดูแลตัวเองให้ดีขึ้นและเข้าใจด้วยว่ามีกระบวนการบางอย่างที่คุณสามารถทำได้ – มันจะวิเศษมาก’ ความกังวลของผมคือ ผมแค่ไม่ต้องการที่จะทำให้มันกลายเป็นการแสดงความเห็นอกเห็นใจหรืออะไรก็ตามเพื่อความบันเทิง” เฮมส์เวิร์ธกล่าว
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP