ย้อนชมผลงานละคร-ภาพยนตร์ "อาทิตย์ ริว" อดีตดาราดังสู่ชีวิตคนไร้บ้าน
ก้าวออกจากวงการบันเทิงนานกว่า 15 ปี สำหรับ “อาทิตย์ ริว” หรือ “อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์” พระเอกดังยุค90 ที่ตอนนั้นคำว่า “ดังพลุแตก” ไมเกินจริง ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาและการแสดงที่ทำถูกใจแฟนคลับ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในตัวท็อปยุคนั้น มีแฟนคลับทั่วประเทศ
แต่วันนึงชีวิตต้องพลิกจาก “ดาว” สู่ “ดิน” เจอมรสุมถาโถมเข้ามาในชีวิตมากมายที่เห็นได้ตามหน้าข่าวที่ผานมา ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจกับวันบันเทิง ถึงเรื่องราวของเขาหมดเปลือก
เปิดภาพปัจจุบัน "ริว อาทิตย์" จากดาราดังสู่ชีวิตไร้บ้าน กินนอนข้างถนน
ออกจากวงการเพราะมีภรรยา-ลูก?
“ในยุคนั้น ยุค90 ดาราศิลปินที่มีชื่อเสียงเขาจะไม่เปิดเผยตัวเองว่าเขามีอะไรอยู่ข้างหลัง เพราะฉะนั้นข่าวของแต่ละคนที่ออกมาแพลมๆ บ้าง แล้วสื่อจับจ้องเอาไปเขียนขยายความก็กระทบต่อชื่อเสียงของคนๆ นั้น ใครมีแฟนในยุคนั้นทำไม่ได้ ออกไปไหนก็ทำอะไรไม่ได้ เปิดเผยเรื่องนี้ก็ไม่ได้ มีแฟนก็ไม่ได้ แฟนคลับเขารู้สึกหวง เขามีความรู้สึกว่าเขารักของเขา ในยุคนั้นผมก็เข้าใจแหละว่ายิ่งเราเล่นละครแนวนี้ แล้วยิ่งเป็นพระเอกเขาก็ดูนะ คนดูเขาก็ดูพระเอกกับนางเอก มีตัวร้าย แต่เราก็ต้องเป็นคนดีในเรื่อง ใครๆ ก็ชอบคนดีถูกไหม
ทีนี้คิดถ้าเราชั่วขึ้นมาทำยังไง คงจะผิดหวังน่าดู เราก็ไม่เป็นตัวเอง สรุปภาพลักษณ์ก็ติดคาเป็นเด็กเรียบร้อย ทีนี้ก็มีความรู้สึกอึดอัดเต็มที่แล้ว ชื่อ “ริว อาทิตย์” เป็นปัญหากับตัวเองแล้ว เริ่มชีวิตส่วนตัวไม่มีแล้ว ความสุขก็ไม่มีแล้ว ทำอะไรก็ไม่ได้ เป็นตัวเองก็ไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่เป็นบทบาท เป็นภาพลักษณ์นั้น ห้ามเปลี่ยน มีแฟนไม่ได้ถ้ามีเดี๋ยวแฟนคลับจะแบน เขาจะแอนตี้ เขาจะผิดหวัง เขาเลิกสนับสนุนผลงานอะไรก็แล้วแต่ที่เราจะทำ อย่าทำให้แฟนคลับผิดหวัง”
กดดันถึงขั้นว่า เป็นพ่อแต่ไม่สามารถพาลูกไปเดินห้าง ไปซื้อของเล่น พาลูกไปกินข้าวได้เลย?
“มันเศร้ามาก เราอยากพาลูกเที่ยว เขาเป็นเด็กเราอยากพาเขาไปเที่ยว ไปดูโน้นนี่ พาไปเดินห้าง แต่เราพาไปไม่ได้ เขาไปก็ต้องไปกับแม่หรือใครก็ได้ที่ไม่ใช่เรา เพราะเรากลัวเป็นข่าว มีความรู้สึกกดดันมาก มีอยู่วันนึงลูกเดินมา ‘ป๊าๆ ไปทำอะไรในห้าง หนูเห็นรูปป๊าอยู่ที่ร้านเทป เป็นรูปป๊าเลย จำได้ป๊าหล่อ แล้วป๊าทำไมไปอยู่ในทีวี’ ลูกไม่รู้ว่าเราอาชีพอะไร เป็นดาราอยู่ในทีวี
ผมปลีกตัวเข้าห้องน้ำเลย ร้องไห้ ทำไมเปิดเผยไม่ได้ ทำไม ลูกก็อยากเที่ยวกับเรา (น้ำตาคลอ) ไม่ไหวแล้ว สงสารลูก อยากพาลูกเดินห้าง ทำไงดี ถ้าค่ายลูกว่ามีลูกตายแน่เลย ละครกำลังพีกเลยตอนนั้น ‘วัยร้ายเฟรชชี่ ภาค2’ จะปิดกล้องแล้ว ไม่อยากเล่นแล้วละคร อยากเลิกแล้ว ตอนนั้นเรตติ้งดีก็หลายตอน ผมถามเขาเลยว่าเขียนบทให้ผมตายเลยได้ไหม
ผมเบื่อกับคำว่า “อาทิตย์ ริว” แล้ว ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ไม่กล้าพูดเรื่องลูก จนวันปิดกล้องมีงานเลี้ยง ผมก็ตัดสินใจเลยว่าต้องบอกผู้ใหญ่แล้ว เราก็ขอโทษผู้ใหญ่แล้วบอกว่ามีลูกแล้ว ซึ่งบางครั้งความจริงไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเลย หรือชีวิตต้องอยู่ในโลกมายา ผมคิดแบบนั้น ตอนนั้นผมตัดสินใจแล้วว่าจะเอาครอบครัว ชื่อเสียง เงินทอง ก็ไม่เอาแล้วเหมือนกัน ไม่มีงานก็เดินออกจากวงการบันเทิง ไปทำอย่างอื่นก็ได้”
สุดท้ายแล้วชีวิตครอบครัวครั้งแรกก็ไม่สมหวัง?
“ก็ที่เป็นข่าวครับ ทีนี้กระแสมันถาโถมมา ทุกอย่างอิรุงตุงนัง ‘ริวโกหก’ แต่ผมก็เข้าใจทั้งหมด แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้ ในเมื่อเราเข้าใจทุกคนแต่ก็เป็นตัวเองไม่ได้สักที ก็เลยรู้สึกว่าพอแล้วในเมื่อเป็นตัวเองแล้วมีแต่เรื่อง เป็นอะไรก็ได้ คิดแบบนั้นเลย”
แต่งงาน 2 ครั้ง มีลูก 3คน สิ่งนึงที่ยังรู้สึกถึงตอนนี้คือการไม่ได้ทำหน้าที่พ่อและไม่ได้เจอลูกเลย?
“อยากจะบอกว่ามันอาจจะไม่ใช่การกีดกัน แต่มันมีความรู้สึกว่าริวก็ไปใช้ชีวิตของริวเถอะ ทางนี้ไม่ต้องห่วง ทางนี้ดูแลได้ ทางนี้โอเค แต่ริวอย่ามายุ่ง นั่นคือความเจ็บปวดของผมที่ผมไม่ได้อยู่กับลูก แล้วผมเป็นคนที่รักลูกมาก (ร้องไห้) ผมไม่อยากร้องไห้ ผมไม่ได้เจอลูกนานมาก ทุกครั้งพอพูดเรื่องลูกก็ (นิ่ง ร้องไห้) ผมได้แค่ส่องชีวิตเขาจากโซเชียล ได้แค่ดูอย่างนี้ มันทรมานมาก
ลูกชายคนเล็ก ผมไปเจอเขาตอนน้ำท่วม เขาอยู่ที่พัทยา ผมเป็นห่วงเขา ผมก็รีบขึ้นมาจากใต้ ตอนนั้นผมก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ด้วย ร่างกายก็ยังไม่ดีมาก แต่ห่วงลูกก็ตีรถขึ้นมาจากใต้ ผมก็ไปเจอลูก เขาก็ไม่เคยอยู่กับผมเลย ไม่เคยเจอด้วย ครั้งแรกที่เจอเขาอยากให้ผมป้อนข้าว ผม (ร้องไห้ป ผมไม่ได้ดูลูกเลย เขาต้องการสิ่งเหล่านี้จากผม ผมก็ป้อนไปร้องไห้ไป”