นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของคู่กรณี นายอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือแสตมป์ นักร้องดัง แถลงว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 20 ม.ค. แสตมป์ ได้โพสต์ขอโทษแล้ว เมื่อทางคู่กรณีเห็นก็รู้สึกพอใจในข้อความที่“แสตมป์” ยอมรับผิด
ในส่วนคดีนั้นมีทั้งหมด 4 คดี เป็นคดีที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นคดีอาญาหมิ่นประมาทที่แสตมป์ ยื่นฟ้อง,คดีที่ศาลแขวงดุสิตเป็นคดีหมิ่นประมาท ,คดีที่ฟ้องศาลแพ่งเรียกร้องความเสียหาย 2 ล้านบาท
คดีที่ภรรยาของแสตมป์ ฟ้อง “แจม” ละเมิดเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท ที่ศาลเยาวชนกลางและครอบครัว ทั้งหมดคดีสิ้นสุดหมดแล้ว
“หลังจากที่แสตมป์ ขอโทษแล้วคู่กรณีไม่ติดใจอะไร หรือ จะดำเนินคดีอะไร และขอยุติเรื่องทั้งหมด ยกเว้นคดีหมิ่น ม.112 ซึ่งตอนนี้ไปไกลมากแล้ว ไปถึงรมว.กลาโหม ไปถึงกองทัพแล้ว และเขาได้ไปให้การทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องนอกเหนือของคู่ความก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายเดชา ระบุ
เมื่อถามว่า คดี ม.112 ทางครอบครัวของคุณแจม จะไปยื่นฟ้องเอง หรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า น่าจะไปให้การต่อกองทัพ หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของกองทัพว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามว่า แปลว่ากองทัพจะเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องแสตมป์ นายเดชา กล่าวว่า คาดว่ากองทัพก็จะไปรวบรวมหลักฐานสอบสวน ส่วนจะดำเนินการอย่างไร ก็ขอให้ไปสอบถามทางกองทัพจะดีกว่า
นายเดชา กล่าวว่า หลังจากนี้หาก แสตมป์ ไปสัมภาษณ์จนกระทบกระเทือนคู่กรณีและครอบครัวอีกก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เมื่อถามว่ามีการข่มขู่คุกคามจะยัดคดี ม.112 ให้แสตมป์ จริงหรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า ได้สอบถามไปแล้วไม่มีการคุกคาม หรือ อ้างมาตรา 112 ไปข่มขู่ แสตมป์ แต่อาจจะมีการแจ้งให้ทราบว่าการแสดงความคิดเห็น หรือ การพูดสนทนาบางสิ่งบางอย่างหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดสถาบัน ซึ่งตรงนี้ไม่ได้เรียกว่าเป็นการข่มขู่ แต่เป็นการแจ้งว่าการกระทำของคุณแสตมป์ หมิ่นเหม่ต่อคดีในมาตรา 112 ซึ่ง เป็นสิทธิของประชาชนทุกคนที่จะต้องปกป้องสถาบัน เรื่องนี้ ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
“หลังจากทำคำพิพากษาตามยอมแล้วในคดีทางครอบครัวเรื่องค่าทดแทน 1 ล้านบาททางคุณพ่อก็ไม่เคยไปพบกับคุณแสตมป์เลย และก็ไม่เคยไปข่มขู่ด้วย เขายืนยันว่าไม่ได้ไปข่มขู่คุกคาม และ เขาก็สงสัยทำไมถึงเกิดเรืื่องขึ้น คดีจบแล้วถอนฟ้องแล้ว ซึ่งแสตมป์เป็นคนไปถอนฟ้องเองโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบด้วย ไปถอนเองไม่มีข้อตกลงอะไรเป็นพิเศษ”