เหมือนจะจบลงด้วยดี หลังเป็นประเด็นร้อนอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน กรณีของนักร้องสาว “ลำไย ไหทองคำ” หรือ อ้าย-สุพรรณษา เวชกามา กระแสดรามาความสัมพันธ์กับแดนเซอร์ชายในวง รวมทั้งมีประเด็นเรื่องการแฉข้อมูลโดยส่งไปให้เพจดังต่างๆ นั้น
ล่าสุดวันนี้ ประจักษ์ชัย ไหทองคำ หรือ นายห้างประจักษ์ชัย เจ้าของค่ายเพลงไหทองคำ ได้เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศฟ้องโม ใน 2 กรณี ถึง 100 ล้านบาท โดยบางช่วงบางตอนกล่าวว่า ในเรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะลงเอยยังไง แต่ก็อยากจะเจอสักครั้งนึง
เมื่อวานพี่นักข่าวหลายๆคนก็บอก พี่ทนายหลายๆคนก็ถาม ว่า ฟ้องจริงไหม ในใจวันนั้นก็ จะฟ้อง 50 ล้าน แต่ถ้าฟ้อง 100 ล้านเพิ่มไปอีก 0.1 ในความที่มีอารมณ์หมดทุกคน เพราะว่า ออกหน้าสื่อ ไม่ใช่แค่หน้าสื่อของน้อง ซึ่งของน้องก็เคืองระดับนึง แต่พอไปหลายเพจ ทำให้จากที่นั่งสมาธิ สวดชินบัญชร คือ ตบะแตก แต่ในใจนึง ไม่อยากจะทำร้ายใคร ตนเคยเจ็บปวด เคยโดนกระทำบ้าง เคยเป็นจำเลย เคยขึ้นศาลหมิ่นประมาท 7 ครั้ง
ซึ่งเจ็บปวด ตนชั่งใจตลอด ในใจใฝ่ธรรมมี ถ้าน้องสำนึกหรือแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ในวันนี้อาจจะน้อยเนื้อต่ำใจในตัวแฟน อาจจะโมโหกว่าทุกคน เพราะรักษาสิทธิ์ในความเป็นครอบครัว แต่ค่ายตนก็โดนย่ำยี ซึ่งมันเสียหายไปแล้วเอาคืนไม่ได้ น้องได้แน่ๆคือ 2 ล้าน ไม่รู้จะไปฟ้องตอนไหนกว่าจะขึ้นศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา แล้วจอตนก็มัวหมองอยู่กับสิ่งเหล่านี้ คนที่จ่อคิวดัง ปลาร้าไหทองคํา ที่กำลังจ่อเป็นหนึ่งในน้ำปลาร้าขายดี ก็ต้องเสียหาย เลยมองว่าถ้าไม่ฟ้อง มาตรการป้องปรามจะเป็นยังไง หรือจะปล่อยผ่าน แล้วเกิดมีคนอื่นมารีดทรัพย์ หรือเรียกร้องอีก ก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แล้วนักร้องในค่ายก็จะขวัญเสีย มี 2 ด้านในมุมนั้นว่า ตกลงจะใช้พระเดช หรือจะใช้อำนาจที่มีอยู่ในทางกฎหมายสู้ไปให้สุด หรือใช้ความมีจริยธรรม ผิดศีลธรรม ลำไยผิดพลั้ง ตนไม่ได้แถแถลงว่า ลำไยไม่ผิด รู้ว่าลำไยมีส่วนผิดในการกระทำความผิด อันนี้เป็นการกระทำผิดที่สำเร็จไปแล้ว จึงเยียวยา ชดเชย ชดใช้ ตามข้อตกลง ที่จะฟ้อง 20 ล้านเพราะว่า ในสัญญาตนก็เพิ่งเห็นใน 3 วันที่ผ่านมา ก็เลยคิดว่าน่าจะฟ้องได้แค่ 20 ล้าน
หลังจากนั้น คุณหนุ่ม กรรชัย พิธีกร ได้เชิญโม เพื่อให้ทั้งคู่ได้เจอและเคลียร์ใจข้อสงสัยซึ่งกันและกัน
โดยโม กล่าวยืนยันว่า ที่มาวันนี้ อยากแสดงความจริงใจกับอาจารย์ว่า ตนไม่ได้ปล่อยอะไรให้ใครจริงๆแบบตามเพจ ตนลบไปหมดแล้วจริงๆ และอยากขอโทษที่เคยโพสต์อะไรที่ไม่ไตร่ตรอง ทำให้อาจารย์ไม่สบายใจ ปวดหัว เวลาตนโกรธหรือเสียใจ ไปปรึกษาคนใกล้ตัว พูดถึงเรื่องตนกับบอสตลอดแต่ไม่เคยไปว่ากล่าวลำไย แค่บอกว่า คนที่บอสไปคบคือคนนี้ ซึ่งยืนยันอีกครั้งว่า ตนไม่ได้ส่งจริงๆ
โม อธิบายต่อว่า ก็พูดว่าเลิกกับบอสแล้ว เพราะอะไร ไปคบกับคนนั้น ซึ่งพูดกับคนใกล้ตัว ไม่ได้พูดกับเพจอื่น พูดกันในกลุ่ม 3 คน กับ ส้มโอ น็อต ( ผู้จัดการ ) ปรึกษากันว่ายังไง ไม่ได้มีการให้ลงเรื่องราว ซึ่งคนในกลุ่มขอนำเรื่องไปลง แต่ไม่แน่ใจว่าจะพูดเรื่องตนกับบอสอย่างเดียวหรือเปล่า จึงบอกว่า อาจจะได้
ประจักษ์ชัย ตอบกลับว่า เป็นสิทธิ์ที่ตนจะเคลือบแคลงสงสัยได้ เพราะว่าเป็นคู่กรณีในข้อพิพาท วันนี้คิดว่ารู้กันแค่ 4 คน ในจุดตรงนั้น มีพี่ชายโม แฟนของตน และบอส พอมีข่าว ประเด็นออกมาแบบนี้ สิ่งที่จะพุ่งชนไปที่น้อง ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย เพราะว่า เรามีข้อตกลง แล้วคลิปที่ เหมือนกับว่า ไม่ใช่เรียกร้องหรือเสนอ เป็นข้อต่อรองในการที่จะจ่ายเงิน 2 ล้านแล้วระงับข้อพิพาทในตรงนั้น ก็ต้องเริ่มจากน้องก่อน พอมีข่าวแบบนี้ออกมา ก็ต้องมาเรียบเรียงประเด็น ก็เป็นสิ่งที่จะต้องไปปกป้องสิทธิ์ตัวเอง
แม้ว่าน้องจะแสดงความบริสุทธิ์ในในวันนี้ ก็ไม่ผิดหรอก ตนก็ต้องสงสัยน้องก่อนเบื้องต้น เพจต่างๆก็ไปเล่นกระจายไปหมด ก็ไม่สบายใจ เสียหาย ทุกคนก็ฟังมาจากเพจ ได้ยอดวิว ทุกคนก็โถมมา ยิ่งความป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงของลำไย ง่ายต่อการที่ทุกคนจะมาโฟกัสที่ลำไยแล้วก็ค่าย ซึ่งมีผลกระทบจริงๆ โมก็ยืนยันว่า ไม่ได้ไปอยู่เบื้องหลังใครให้มาโจมตีทั้งลำไยและค่ายไหทองคำ ไม่ได้มีจุดประสงค์จะทำอะไรแบบนั้น
ประจักษ์ชัย กล่าว อย่างน้อยก็ให้น้องแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าอย่างคำว่า ยูริ เป็นใคร ติดต่อไปทางเพจที่เขาสงสัย ตกลงว่าคุณยูริเป็นใคร หรือว่าส่งไปให้แม่ของน้องบอส ก่อนหลังที่จะมีการเจรจา ถ้ามีการเจรจาแล้วน้องส่งไปก็ต้องไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ วันที่ที่ส่งคลิปไปให้แม่ของน้องบอส ว่า ได้ยุติจริงๆไม่ได้ส่ง ถ้าบอกว่า ได้ส่งไปให้แม่เพื่อที่จะหาแนวร่วม หรือบอกว่าบอสนอกใจหนูนะแม่ อันนี้ยังพอมีเหตุผล แต่ถ้าชัดเจน หลังจากน้องรับไป 2 ล้านเพื่อที่จะยุติข้อตกลงพิพาท น้องไปเอาคลิป จะเริ่มเป็นความผิดต่อบุคคลที่สามทันที ไม่ใช่แค่ แม่กับลูกเป็นคนเดียวกัน ก็เป็นคนที่สามแล้ว
โม ตอบกลับว่า ตนแค่ยืนยันว่าสิ่งที่บอกแม่เป็นความจริง แค่นั้น หลังจากที่ทำข้อตกลงแล้วไม่ได้ส่งเลย ลบตั้งแต่วันนั้นลบต่อหน้าบอส เพราะว่าแม่แอนไม่ได้อยากจะดูอะไร แต่ว่า บอสก็รู้ว่าตนเห็นอะไร เพราะแยกกับแม่แอนมาก็เลยลบให้บอสดูต่อหน้า
นายห้างประจักษ์ชัย ถามโมว่าหลังจากได้เงินสักก้อนนึง แล้วไปใช้ชีวิตร่วมกันค่อยแบล็กเมลทีหลัง เป็นใครก็ต้องตั้งธงไปอีกว่าใช่ละ ถ้าไม่ใช่ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีประเด็นเปิด ที่ต้องนำสื่อว่า เหยียบย่ำเราหรือมีขบวนการคิดไว้ก่อน แบบตระเตรียมก็เป็นความผิดที่แบบว่า ไม่เหมาะสมที่จะมาทำกับคนที่เป็นแบบตน แบบค่าย ที่มีความบริสุทธิ์ใจที่จะชดเชยค่าเสียหาย เยียวยาในสิ่งที่น้องพอใจในวันนั้น ได้จรดปากกาเซ็นไป แล้วมีพี่ชายเป็นพยาน แล้ววันนึงมาพูดออกรายการอย่างนี้ ตนก็ต้องมานั่งคิดว่า เงิน 2 ล้านเสียไปไม่ใช่ง่ายๆ หามาทั้งชีวิตแล้วก็ต้องมาโดนขบวนการอย่างนี้เหรอ อาจไม่ใช่ขบวนการทำต่อคนอื่น แต่เหมือนเป็นการคิดไว้ก่อน เหมือนกับสมรู้ ทีนี้ผมกับลำไย หรือว่าสิ่งที่ได้เยียวยา ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นไปแล้ว สัคมก็ยังมองว่าลำไยไปแย่งแฟนคนอื่นมา ก็ยังคาอยู่ในใจทั้งๆที่ความผิดรู้ว่าน้องบอกว่า ทำไมไม่เช็กให้ดีก่อน ซึ่งบางทีก็ไม่รู้ใครคบกับใคร นอกเหนือจากผู้บริหารค่ายที่ต้องไปตรวจว่าเด็ก แดนเซอร์ไปคบกับคนนี้ คนขับรถไปคบกับคนนี้ ซึ่งเหนื่อยที่ต้องไปตรวจทุกที แม้แต่ลำไยก็บอกว่า น้องก็เลิกกันแล้ว ส่วนลำไยก็อยู่ในช่วงที่เขาใช้ชีวิตแบบอิสระ แล้วเขาพัก ที่จะคุยกันกับคนนั้น ตนก็เลยไม่ทราบหลังจากนั้น
โม กล่าวว่า เรื่องตระเตรียมวางแผน ไม่จริง ตนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนว่าจะมีการแบล็กเมลกัน ว่าบอสตั้งใจถ่ายคลิปมาเพื่อทำอะไรแบบนี้ ตนไม่เคยรู้มาก่อนเลย แต่ประจักษ์ชัย กล่าวว่า ที่ดูในรายการ เคยพูดว่า เดี๋ยวเราได้เงินสักก้อนนึงค่อยไปใช้ชีวิตด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้โมไม่ได้พูด ส่วนที่บอสหยิบเรื่องนี้มาพูด โม คิดเห็นว่า อาจจะเป็นทางลงของเขา เขาเต้าเรื่องขึ้นมาเอง ตนไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่นอน ตนไม่เคยคิดเลย
ประจักษ์ชัย กล่าวว่า มาถึงตรงนี้แล้ว คนที่เสียหายเป็นเหยื่อจริงๆคือ น้องลำไย ตนในนามต้นสังกัดก็เสียหายอยู่แล้วแต่ว่า เอาอะไรคืนไม่ได้ เงินที่ให้ไปก็ด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเงินที่ตนแอดวานซ์ให้กับบอส ต้องทำงานใช้หนี้เรา แต่ภาพลำไยที่ลงรอยไปไม่ว่าจะเป็นภาพจริง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว สั่นยาวหรือเป็นภาพ AI หรือเป็นภาพคนหน้าเหมือน ก็มีกระจายไปใน Tiktok ซึ่งเหนือการควบคุมสิ่งที่ตนทำได้หรือลำไยทำได้ ก็คือ ทำใจ แล้วก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องอยู่กับปัญหาให้ได้ ใช้เวลาให้เป็นเครื่องสลายความเจ็บปวด ถ้าจะไปเรียกร้องน้องคืน 2 ล้านก็มีข้อตกลง แต่เพราะน้องยินยอมว่าถ้าเปิดเผย ยอมจ่าย 20 ล้าน แต่ในเมื่อน้องมายืนยันว่าน้องไม่ได้เผยแพร่ ก็ต้องนำสืบอีก ก็เห็นใจว่า หลายกระแสข่าวก็บอกว่า อาจารย์ประจักษ์ชัยเป็นผู้ใหญ่ในวงการ อย่าไปรังแกเด็กเลย อาจารย์บางมหาลัยก็บอกว่า มาตรฐานอย่างตนไม่ใช่คนระราน เงินไม่มีหาได้ ตนมาจากติดลบ มาจากบ้านนอก ตนไม่ได้มีฐานะทางการเงิน มาเรียนรามก็จบไปเฉยๆ ฉะนันตนชิลๆมาก ไม่เรียกร้องเอาเงิน 2 ล้านหรือ 20 ล้านเพื่อมาตั้งตัวนะ เป็นเกียรติภูมิของค่าย ถ้าตนไม่เชือดไก่ให้ลิงดูในอารมณ์ที่เมื่อวาน ถ้าน้องต่างคนต่างอยู่ ยังไงก็เชือดแน่นอน แพ้ชนะยังไงก็เอาฮา ฟังน้องสัมภาษณ์แล้วของขึ้น เหมือนว่า มีการยั่วยุ ถ้าน้องพูดอีกแบบนึงได้คุยกันแล้ว ทุกอย่างตนเข้าใจให้เหตุผล ก็ยังซอฟต์ลงมาได้ ก็เหมือนตนเปิดช่องให้ตลอดเลยว่า ถ้าน้องได้เจอกับตนได้ต่อสายมาคุยว่าจะพูดคุยกันบ้าง ไม่ได้เคยรู้จักกับน้องโม ไม่เคยได้คุยกัน ไม่เคยเจอ และในวันเจรจา ตนพึ่งมารู้หลังจากนี้เมื่อ 3 วันที่แล้ว ว่า ที่มีข่าววันแรก
โดยบางช่วงบางตอนของรายการ โม ได้นำพานใส่พวงมาลัยมาคุกเข่าขอขมา ยกมือไหว้ นายห้างประจักษ์ชัย ในฐานะผู้ใหญ่
“อาจารย์คือแบบ เรื่องทั้งหมดเกิดจากแบบเด็ก แล้วอาจารย์ต้องลงมาเคลียร์ ซึ่งไม่จำเป็นเลย แล้วคือ หนูอยู่กับบอสค่ะอาจารย์ แล้วหนูรู้ตลอดว่าอาจารย์คอยป้อนงานให้ คอยแบบผลักดันให้แฟนเก่าหนู หนูรู้ว่าอาจารย์เป็นยังไง แล้วเหมือนหนูไปทำให้เป็นแบบนี้ หนูอยากกราบขอโทษอาจารย์ค่ะ” โมกล่าว
ด้านนายห้างประจักษ์ชัย ได้รับไหว้และรับขอขมา พร้อมกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ตนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เจ็บปวด สิ่งที่ตนทำได้ คือ กลืนทั้งเลือดทั้งน้ำตาเพื่อเดินหน้าต่อ น้องเขาเป็นผุ้หญิง แล้วก็เป็นเด็กที่สำนึกแล้วก็ไม่ได้ต้องแถอีกแล้ว ตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการ์ณแบบนี้ เมื่อวานยังดุดันอยู่ พี่นงค์บอกว่า ในรอบ 8 – 9 ปี ที่ผ่านมา ตนดุดันกว่านี้เยอะ แต่ว่า ในเมื่อน้องโม แสดงความบริสุทธิ์ใจ แบบนี้ก็ไม่เป็นไร อาจารย์ก็ให้ก้าวผ่านไป ไม่ต้องกระแนะกระแนกันอีก ไม่ต้องเหน็บแหนมกัน ไม่ต้องเอาชนะกันอีก ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไร ไม่ว่าจะคิดต่างๆ มันจะล่องลอยไปที่ไหนก็แล้วแต่ ก็ให้ผ่านไป ขอให้โชคดี เงินทองก็เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ดูแลตัวเอง ขอบคุณ” นายห้างประจักษ์ชัยกล่าว
โม ยืนยันว่า ตนไม่ได้สิ่งคลิปให้ทางเพจต่างๆ ตนขอโทษในสิ่งที่รู้สึกไม่สบายใจ ที่ทำลงไป แล้วก็ในสิ่งที่อจารย์ไม่สบายใจ ในสิ่งที่ตนทำลงไปจริงๆก็คือ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน
ทางด้านประจักษ์ชัย กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ก็คงจบแบบแมนๆ เพราะว่า ไปสืบสาวราวเรื่องต่อจากนี้ก็คงจะไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับตน ตนเจ็บจนจุก อาจจะเป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ตนเข้มแข็งตลอดไม่จำเป็นต้องเสียน้ำตาก็ได้ แต่เป็นทั้งชีวิตที่ตนสร้างมา ลำไยก็พลาดก็ผ่านไป หลังจากนี้ก็ทำงานก็ไม่มีอะไร น้องก็จะได้ตั้งใจทำงาน ตนยอมกลืนเลือดเองทั้งลำไย ทั้งไหทองคำก็ต้องเดินต่อไป ตนยอมเจ็บ ยอมเสียน้ำตาออกรายการ ไม่ใช่เรื่อง ตนเป็นอัศวิน เป็นนักรบซึ่งต้องมีบาดแผล แต่มีภาพฝังในยูทูบตลอดชีวิต มันก็เจ็บปวด ให้มันผ่านไป ก็เข้าใจ ขอบคุณพี่หนุ่มที่ให้มันลงเอยดีๆ
หลังจากนั้น ค่อยให้ลำไยมาแสดงความรับผิดชอบ ขอโทษออกสื่อ แถลงข่าวอะไรก็ว่าไป แต่ผมก็ปกป้ององค์กรได้แค่นี้ ก็ทำดีที่สุดแล้ว มันก็ต้องตามวิถี ต้องจบอย่างนี้แหละ ก็ได้ ก็ดีจะได้สบายใจ ตั้งใจทำงาน น้องก็จะได้ไม่ตกเป็นเป้า สิ่งที่มันพลาดไป หลุดไปในสื่อต่างๆ ไม่ว่า AI หรือรูปหน้าเหมือน ก็ต้องน้อมรับ คนเราก็มีแค่นี้ ชื่อเสียงเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
ส่วนเรื่องของบอสที่คนบอก ลอยตัวหรือเปล่า บอสเองก็ต้องมีบทลงโทษ ผมฝาก 1. บอสถูกให้ออกจากไหทองคำแน่นอน หรือจะมีบทลงโทษอะไรต่อไปทางคดี ฝากทางฝั่งอาจารย์ดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนทางนี้ถ้าต่อไป มีประเด็นที่ไม่ถูกไม่ควรออกมา หนูรู้ใช่ไหมว่าจะเป็นเป้าแรก อาจารย์ก็มีสิทธิใช้สิทธิ์ของเขาได้อยู่ตามข้อกฎหมายที่บันทึกข้อตกลงไว้ หนุ่ม กรรชัยกล่าว