เริ่มกันที่ภาพยนตร์ ดีจังโก้ อันเชนด์ (Django Unchained) ปี 2012 หนังพีเรียดเล่าเรื่องการค้าทาสและการล่าค่าหัวในอเมริกาใต้ ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo Dicaprio) ที่ขึ้นชื่อว่าอินกับบทบาทสุดๆ มาแสดงนำในบทเจ้าของฟาร์มผู้เหยียดผิวสุดเหี้ยมโหด โดยในเรื่องเขาได้ทุบโต๊ะเข้าอย่างแรง เพราะไม่พอใจที่คู่สนทนาลุกออกจากเก้าอี้ แต่ที่ไม่คาดคิดคือเลือดที่ไหลอาบมือไม่หยุดเพราะถูกเศษแก้วตำ แต่กระนั้นก็ไม่ทำให้นักแสดงชั้นแนวหน้าหลุดจากคาเร็กเตอร์ไปได้ แถมเขายังเอาเลือดจากมือ ป้ายหน้าทาสผิวดำ ภรรยาของ ดีจังโก้ (Django) เพื่อขู่ให้อีกฝ่ายทำตามข้อตกลงให้ได้ ตอกย้ำถึงความซาดิสต์ของตัวละครได้เป็นอย่างดี
ส่วนอีกเรื่องที่ถือเป็นฉากเด็ดสุดเจ็บตัวกับ บีอิง จอห์น มัลโควิช (Being John Malkovich) ปี 1999 ภาพยนตร์ดราม่าคอมเมดี้แฟนตาซี ไฮไลต์ของหนังนอกจากการเล่าเรื่องสุดประหลาด ยังอยู่ที่ฉากระเบิดอารมณ์ของจอห์น ซึ่งอารมณ์สุดโกรธได้มาด้วยความบังเอิญ ที่นักแสดงตัวประกอบขี้เมาตะโกนใส่เขาว่า "เฮ้ มัลโควิช คิดให้เร็วๆ หน่อย" และปากระป๋องเบียร์ใส่หัวเขาเข้าอย่างแรง ทำให้ผู้กำกับภาพยนตร์ สไปก์ โจนส์ (Spike Jonze) ได้ฉากเด็ดสุดเจ็บตัวที่ช่างเข้ากับสถานการณ์อย่างเหมาะเจาะ ซึ่งผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลจากเวทีออสการ์ถึง 3 สาขา รวมทั้งสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมในปีนั้นอีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องสุดท้าย ที่ได้ทั้งฉากสวยๆ แฝงไปด้วยความหมาย พร้อมกับฉากเด็ดสุดเจ็บตัวที่ได้มาด้วยความบังเอิญภายในเรื่องเดียวกัน นั่นก็คือ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ เดอะ ทู ทาวเวอร์ (The Lord of the Rings The Two Towers) ปี 2002 และฉากเด็ดสุดเจ็บตัวในเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ อารากอน แสดงโดย วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) เตะหมวกเหล็กพร้อมระเบิดอารมณ์เพราะหลงคิดไปว่า เมอร์รี่ (Merry) กับ ปิ๊ปปิ้น (Pippin) ฮอบบิตทั้ง 2 ได้ชะตาขาดไปแล้ว ซึ่งแท้จริงการตะโกนร้องออกมาของ วิกโก มาจากการเตะหมวกเหล็กจนนิ้วเท้าหักไป 2 นิ้ว และที่เขาทรุดเข่าลง ก็เพราะยืนต่อไม่ไหวนั่นเอง