เปิดใจ “ต๋อย เซมเบ้” ใช้งานต่อสู้ โรครุมเร้า
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
“ต๋อย เซมเบ้” นักพากย์การ์ตูนชื่อดัง เปิดใจสาเหตุฮึดสู้คืนสู่วงการนักพากย์ หลังป่วยปางตาย ลั่นงานคือพลังบวกของชีวิต

พลังคลื่นเต่า สะท้านฟ้า!!!!!!!! แค่อ่านประโยคนี้...เสียงและภาพก็ลอยมาชัดเจน ว่าคือเสียงของ “น้าต๋อย เซมเบ้” สุดยอดนักพากย์ขวัญใจทุกเพศทุกวัย เมื่อรู้ว่าแฟนการ์ตูนคิดถึงเราเลยไม่พลาดที่จะขอพูดคุยเปิดใจกับนักพากย์รุ่นเก๋า วัย 63 แบบเอ็กซ์คูลซีฟ ที่มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ “บางกอกซิตี้ หมายเลข36” โดยเริ่มจากการถามไถ่ถึงอาการป่วยที่หลายคนเป็นห่วง
“สุขภาพก็ขึ้นๆลง แล้วแต่อากาศ ถ้าอากาศหนาวงูสวัดก็จะขึ้น ตอนนี้รักษาอาการงูสวัดและโรคไซนัสอักเสบอยู่ เป็นตลอดชีวิตรักษาไม่ได้ การดูแลตัวเองก็กินยาตามที่หมอสั่ง พยายามเดินมากๆ เพราะตอนนี้ปัญหาเรื่องขาชา เพราะงูสวัดทำให้กลางคืนนอนไม่ได้ ตื่น 8 ครั้ง ภูมิคุ้มกันยังไม่ดีพอ อาการงูสวัสเลยยังเล่นงานอยู่ นี่ก็ 4 ปีแล้วตั้งแต่ผ่าตัดมา ตอนนี้ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน 50% เหลือแค่งูสวัดที่รบกวนอยู่มากๆแค่นั้นเอง ส่วนไซนัสก็เป็นมา 10 ปีแล้ว”
งานคือพลังบวก งานคือความสุข แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย
“อาการป่วยไม่กระทบกับงาน เพราะถ้าขึ้นไปทำงานก็จะลืมความเจ็บปวด บางคนบอกน้าต๋อยแก่แล้วไม่น่าทำงานแล้ว คือตอนที่อยู่กับบ้านเฉยๆจิตมันตก ก็เลยเลือกที่จะทำงาน ใครจ้างที่ไหนก็ไปหมด ช่วงเวลาที่ไปมันมีความสุข ช่วงที่เบรกงานไปนั้นเป็นเพราะเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นมีอาการไซนัสรุนแรง เลยลาออกการช่อง9 เพราะพากย์การ์ตูนไม่ไหว แต่ที่อื่นยังพอพากย์ไหวเพราะพากย์คนเดียว บวกกับว่าช่วงนั้นไม่ค่อยอยากรับงานเพราะเรื่องของสุขภาพ ก็หยุดงานไปหลายปีทีเดียว จนกระทั่งผ่าตัด ก็เคยคิดว่าจะหยุดแล้ว แต่อยู่บ้านแล้วท้อแท้ สิ้นหวัง พอไปทำงานปุ๊ปมันเหมือนมีความสุข ถึงงานจะยากยังไงก็มีความสุข งานคือพลังบวก บางครั้งถ้าว่างงานฟรีก็ไปทำให้”
การ์ตูนอาจจะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเด็กๆ แต่สำหรับ “ต๋อย เซมเบ้” การ์ตูนคือความอยู่รอด!!!
“สำหรับตัวผมเอง การ์ตูนคือความอยู่รอดในชีวิต การ์ตูนสร้างให้ผมเป็น “น้าต๋อย เซมเบ้” ในปัจจุบันนี้ แล้วยังสร้างให้ผมมีชีวิตรอด ในช่วงที่เจ็บปางตาย นึกตัวการ์ตูนที่ชื่อ “ซุน โงกุน” ใน “ดราก้อนบอล” ผมพากย์การ์ตูนเรื่องนี้ ซึ่งตัวละครนี้สู้กับจอมวายร้ายเกือบจะตายอยู่แล้ว ร่อแร่มากๆ แต่ก็ฮึดแปลงร่างกายเป็น “ซุปเปอร์ไซย่า” ได้ ผมพากย์เรื่องนี้เอง ก็เลยคิดว่าผมจะฮึดสู้กับโรคร้ายไม่ได้เหรอ ผมก็เลยฮึดสู้กับมัน การ์ตูนมีทั้งข้อดีและข้อเสียกับเด็ก เพราะความรุนแรงก็มี สำหรับฉากต่อสู้ที่รุนแรงคุณพ่อคุณแม่ก็เตือนเด็กๆได้ แต่ข้อดีของการ์ตูนคือ “ฮีโร่” คอนเซ็ปต์ของการ์ตูนคือให้ทุกคนเป็นคนดี เช่น เซเลอร์มูน, ดราก้อนบอล และมันดีตรงที่ว่าทุกคนอยากเป็นพระเอก”
แม้ทุกวันนี้อะไรๆจะเปลี่ยนไป แต่ “น้าต๋อย” ยังยึดหลักการพากย์แบบเดิม
“ซุน โงกุน ,ไจแอนท์ ,หน้ากากทักซิโด้” คือ 3 เสียงที่ทำให้คนรู้จักผม ปัจจุบันผมเองยังยึดการพากย์เหมือนเดิม แม้วิธีการพากย์ปัจจุบันจะเปลี่ยนไป วงการพากย์ในอนาคต ผมว่าตอนนี้การพากย์มันลดน้อยลง ช่องก็จะซื้อหนังน้อยลง อาจจะเป็นเรื่องของจำนวนโฆษณาที่อาจจะลดลง เพราะสื่อมีเยอะขึ้น แต่ราคาที่ซื้อหนังนั้นยังเท่าเดิมหรือมากขึ้นนั่นเอง”
“ต๋อย เซมเบ้” นักพากย์มือหนึ่ง ไอดอลของนักพากย์รุ่นใหม่
“ผมไม่อยากเป็นมือหนึ่งของประเทศไทย เพราะว่ามือหนึ่งจริงๆสำหรับผมขอยกให้ “อารอง เค้ามูลคดี” คนนี้พากย์หนังเก่งมาก ฝีมือเหนือกว่าผมมาก อารองเป็นไอดอลของผม ผมชอบเสียงของอามาก ผมถือว่าผมเป็นมือทั่วๆไป จริงๆผมไม่ชอบให้ใครมาจัดอันดับผม ให้คนนึกถึงผมคือคนที่รักผมก็พอ ให้นึกถึงว่าผมเป็นเสียงที่ให้ความสุข และขอบคุณสำหรับเด็กรุ่นใหม่ที่มีผมเป็นไอดอล มีเด็กอายุ 24-25 ที่อยากเป็นนักพากย์ ค้นหาประวัติการทำงานของผม ศึกษาการทำงานของผม ก็เป็นสิ่งดี เพราะเขาจะได้รู้ว่าสิ่งที่ได้มาได้มาจากความยากลำบาก กว่าที่ผมจะเป็น “น้าต๋อย เซมเบ้” ได้ ผมควานหางาน ตื้องานมาตลอด งานฟรีก็ทำ โดนด่าก็ทำ ขับรถไปพากย์ที่ไกลๆแต่ได้เงินน้อยก็ทำ ฝากถึงทุกคนที่อยากจะทำอะไรก็แล้วแต่ขอให้ฝึกฝน ทุกอย่างไม่มีอะไรได้มาเอง”
อยากบอกกับทุกคนที่เป็นห่วงและยังคอยติดตามผลงานว่า “ขอบคุณครับ”
อ่านข่าวประเด็นฮอตวงการบันเทิงได้ทาง //www.pptvhd36.com/news/ข่าวบันเทิง
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้