ต้องยอมรับว่า รอบการแสดงสด ( Live Show ) รอบตัดเชือกเวที “เดอะวอยซ์ 2018” เป็นรอบที่เค้นหัวใจอย่างมาก วีคที่แล้ว ( 18 ก.พ. 62 ) ว่าเข้มข้นดุเดือดแล้ว วีคนี้ ( 25 ก.พ. 62 ) ยิ่งเดือดมากกว่า เพราะจะมีเพียงอีก 4 คนเท่านั้นที่จะผ่านเข้ารอบไฟนอลเพื่อมีโอกาสได้เป็นแชมป์ “เดอะวอยซ์ 2018” หลังจาก “นิสนึง – ป๊อก – เล็ก – โจอี้” ผ่านเข้าไปรอแล้ว
“นิสนึง – ป๊อก – เล็ก - โจอี้” เผยความรู้สึก หลังเข้าสู่รอบไฟนอล “เดอะ วอยซ์ 2018”
ท่ามกลางบรรยากาศเสียงเชียร์ในห้องส่งและกำลังใจจากผู้ชมทางบ้าน ทำให้ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือทำโชว์ออกมาได้อย่างสุดความสามารถ และ 4 คนสุดท้ายที่ได้ไปต่ออย่าง เอ็มมี่ - วันเฉลิม หลวงประทุม , เซฟ - อภิสิทธิ์ สุริวงศ์ , ลูกปลา - อารียา โรจนดิษฐ์ และ แตงโม - สยาภา สิงห์ชู ต่างน้ำตาคลอเมื่อเราได้ถามถึงความรู้สึกถึงชัยชนะในรอบบนี้ รอบที่มาไกลเกินกว่าที่ฝันไว้
เอ็มมี่ - วันเฉลิม หลวงประทุม
“เอ็มมี่แข่งเป็นคนแรกไม่กดดันแต่ตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าความกดดันมันไปตั้งแต่เมื่อจันทร์ที่แล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะได้ร้องหรือเปล่า แต่จันทร์นี้คือรู้แน่ๆว่าได้ร้อง แต่ก็ยังตื่นเต้น การเตรียมตัวก็เตรียมมาเยอะพอสมควร เพราะว่ายังกลับไปทำการบ้านมาหนักกว่าเดิมจากที่ทำมาแล้ว เพราะว่าเราคิดว่าเราอยากเข้าไปให้เฮียโจอี้เห็น เพราะว่ากติกามันเดือดมาก ยังไงเราก็ต้องเข้ารอบให้เฮียให้ได้ ถ้าเข้าไม่ได้มันเหมือนว่าเฮียแกจะสตีลเรามาทำไม เราต้องทำให้เฮียภูมิใจในตัวเรา”
คำว่าสตีลมันแอบค้ำคออยู่นะ เพราะว่ารอบแบทเทิลชนะเข้ามาแล้ว ยังไงเรามายืนรอบไลฟ์ได้ ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด ให้เต็มความสามารถที่สุด จริงๆรอบนี้ก็มีหลายๆเพลงที่เลือกมา 3-4 เพลง แต่เฮียมาโดนเพลง “ผิดที่ไว้ใจ” มากๆ เพราะเป็นเพลงดราม่า แล้วเราเป็นคนที่ใส่อารมณ์เยอะมากๆกับเพลงดราม่า เฮียชอบก็เลยเอาเพลงนี้เลย การร้องจะเป็นเสียงผู้ชายตลอด เพราะว่าชอบร้องอารมณ์ผู้หญิงแต่ว่าเสียงโทนผู้ชาย อย่างที่คนหลายๆคนพูดว่า บางทีก็มองเสียงเป็นผู้หญิงเสียงใหญ่ บางทีก็มองเป็นเสียงผู้ชายอ่อนหวานอะไรอย่างนี้ คือมันเหมือนกับไม่มีเพศอะไรประมาณนั้นเลย
วินาทีที่ประกาศชื่อว่าเป็นเราก็ดีใจมากๆ แล้วก็ดีใจมากกว่าก็คือเห็นเฮียยิ้มแบบว่าดีใจมากๆ คือตรงนี้ ทำเพื่อเฮียจริงๆ อยากบอกว่าเฮียว่าหนูเข้าละนะดีใจกับหนูด้วย รอบต่อไปก็มีคนยืนแล้ว ยังไงก็เต็มที่แน่นอน และฝากถึงเพื่อนๆว่ายังไงขอเป็นตัวแทนจะเข้าไปยืนให้ทุกคนได้ภูมิใจ เพราะว่ายังไงเราเป็นเพื่อนกัน เราสนิทกัน ทุกๆคนมีความเก่ง ทุกๆคนมีความสามารถ มันเป็นโอกาสของเรา เป็นช่วงเวลาที่เราต้องทำ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าไปก็สู้ต่อไปละกัน อย่าเลิกร้อง และขาดไม่ได้เลยคือต้องขอขอบคุณทุกคนที่โหวตให้ ขอบคุณจริงๆที่รักในตัวตน รักในสิ่งที่เราเป็นแล้วก็รักในการแสดงของเรา ขอบคุณที่รักในเสียงเอ็ม รักในการทำโชว์ของเอ็มจริงๆ”
กับ 5 ปีที่รอคอย “เอ็มมี่” ผ่านเข้ารอบ “The Voice 2018” สำเร็จ
เซฟ - อภิสิทธิ์ สุริวงศ์
“สำหรับเพลง “ถามยาย” ที่เลือกเพลงนี้เพราะเป็นเพลงที่สะท้อนสังคมเลยแหละครับ ชี้ให้เห็นสังคมที่แบบเอาง่ายๆซิงเกิ้ลมัมครับ หรือว่าการที่มีปมปัญหาในใจ ปัญหาครอบครัวอะไรแบบนี้ ผมเลยหยิบเพลงนี้มาเพราะว่า มันมีส่วนในเพลงนิดหนึ่ง อาจจะตรงกับผม เลยรู้สึกว่าผมอินกับเพลงนี้มาก รอบนี้ผมเตรียมตัวเยอะมาก เตรียมตัวมาว่าจะใส่เต็มที่ มีเท่าไหร่ผมใส่หมด
จริงๆผมไม่รู้ว่าจะเจอกับใคร และจริงๆผมไม่อยากจะเจอกับใครนะ เพราะว่ามันมีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นเลย แต่ถ้าให้พูดตรงๆรอบนี้ถือว่าเป็นรอบที่ผมไม่มีความกดดันเลย แล้วก็เป็นรอบที่ผมมั่นใจมากที่สุดกว่าในทุกๆรอบที่ผ่านมา ผมไม่มีความตื่นเต้นในการที่ร้องเพลงในวันนี้ เพราะผมบอกตัวเองว่าต้องทำสุดความ สามารถที่ตัวเองมี ความหวังว่าทุกคนจะได้ยินในสิ่งที่ผมสื่อสารและได้ถ่ายทอดออกไป
ผมรู้สึกดีใจมากถึงมากที่สุดเลยครับ ที่ทุกคนได้ฟังหรือได้ดูโชว์ผมแล้วรู้สึกและก็ได้คิดไปกับสิ่งที่ผมได้เล่าออกไป ผมรู้สึกว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว การมาถึงรอบไฟนอลมันเกินไป มันเกินฝันเลยแหละ ผมคิดว่าผมฝันว่าผมอยากจะมายืนบนเวทีนี้ เอาแค่รอบบลายด์ก็พอแล้วไม่ต้องกดมาก็ได้ ผมเขินครับ ( ยิ้ม ) หรือว่าตอนส่งคลิปมาผมขอแค่ได้เข้าไปร้องสดๆก็พอ แต่มันกลับมาถึงตรงนี้เลยเหรอ ผมก็ยังงงๆอยู่ ยังงงกับตัวเองอยู่จนถึงทุกวันนี้ ผมอยากบอกตัวเองว่าเราต้องพัฒนาตัวเองขึ้นไป เราต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อได้ส่งความสุขให้ท่านผู้ชมทุกๆคนได้รับฟังกัน ได้ดูโชว์ของผมอย่างมีความสุข รอบไฟนอลจะใส่ให้เต็มที่
ผมอยากขอบคุณทุกคะแนนโหวต ที่ส่งให้ผมมาถึงตรงนี้ ขอบคุณ “โค้ชก้อง” ที่หันมาในวันนั้น ผมดีใจมาก ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลย ผมรู้สึกดีมาก ผมรักพี่ก้องมากๆนะครับ จุ๊บๆครับ ( ยิ้ม ) ผมจะทำให้ดีที่สุดทำให้เต็มที่ในฐานะลูกทีมโค้ชก้อง สำหรับพี่ๆในทีม ผมอยากจะบอกว่าพวกพี่ๆไม่ต้องเป็นห่วงเลย ผมจะทำให้มันดีที่สุด ก็รู้ๆกันอยู่ครับ รักพี่ๆทุกคนครับ มาดูผมในรอบสุดท้ายด้วยนะ”
“สำหรับเพลง “งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง” เป็นโชว์ที่ลูกปลาดีใจที่สุดที่ได้ร้องเพลงนี้ เพราะว่าเป็นเพลงที่พวกเราได้ช่วยกันทำจริงๆ คือเราเอาไอเดียมารวมตรงกลางจริงๆว่าเราอยากทำอะไร พี่ป๊อบก็เอาให้ทำ พี่ป๊อบก็มีส่วนช่วยเยอะมากด้านอารมณ์ ถ้าหนูไม่ได้พี่ป๊อบหนูไม่รู้ว่าจะทำเพลงนี้ออกมายังไง เพราะว่าเพลงนี้มันค่อนข้างไบโพล่ามาก มันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ก็ดีใจมากที่ได้เพลงนี้มาร้อง ก็ทำออกมาได้เท่านี้หนูก็ภูมิใจกับผลงานมากๆ
ที่ “พี่ป๊อบ” ร้องไห้คือตอนแรกหนูไม่เห็นว่าพี่ป๊อบร้องไห้ แต่ว่าหนูรู้สึกว่าหนูร้องไห้ในใจ คือมันเห็นภาพเคลื่อนตลอดว่าเราอยากเล่าอะไรให้คนดูฟัง แล้วพอเปิดตามาเห็นพี่ป๊อบร้องไห้ มันยิ่งแบบว่า โอ๊ย....โค้ชเรา เพราะปกติไม่เคยเห็นพี่ป๊อบร้องไห้ และเพลงนี้หนูเต็มร้อยมากๆไม่เคยร้องเพลงอะไรแล้วรู้สึกเต็มที่ขนาดนี้หรือมันออกมาสมบูรณ์แบบตามที่เราคิดขนาดนี้มาก่อน
“ป๊อบ ปองกูล” ร้องไห้กลางรายการ “เดอะวอยซ์ 2018”
แม้หนูจะเคยผ่านเวทีประกวดมาบ้าง แต่การเวทีนี้เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ เหมือนรีเซ็ตทุกอย่างใหม่ในการร้องปกติ คือตอนเด็กๆเราก็ร้องเพลง แค่ชอบร้องเพลง พอโตขึ้นแล้วเราเริ่มรู้จักคำว่า Emotional มากขึ้น คือเราอยู่กับเพลงมาตลอดเราเลยรู้ว่าการพัฒนาอารมณ์มันขนาดไหน ในตอนนี้แล้วหนูก็ดีใจที่หนูรู้สึกว่ามีครบแล้วในด้านอารมณ์แล้วก็ด้านเสียง ถึงแม้ว่าไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่หนูรู้สึกว่าหนูได้บาลานซ์มันดีแล้ว แต่ถ้าถามว่าคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน สำหรับวันนี้หนูให้ 100 เต็ม เพราะว่ามันไม่เคยดีเท่านี้เลยสำหรับตอนซ้อม
อยากบอกเพื่อนๆในทีมและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนว่า หนูจะทำให้เต็มที่ หนูเชื่อว่าทุกคนมีความฝันมาก แล้วก็เชื่อว่าทุกคนทำเต็มที่กับทุกโชว์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม แต่ว่าหนูก็จะทำเต็มที่ของหนูไม่ให้ทุกคนได้ผิดหวัง และหนูขอขอบคุณทุกๆคะแนนโหวต มันสำคัญกับหนูมากจริงๆ เพราะตั้งแต่ประกวดร้องเพลงมาหนูจะแพ้รอบโหวตตลอด หนูไม่คิดว่าหนูจะมีศักยภาพให้ทุกคนโหวตได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ชนะโหวตและขอบคุณที่ชอบเพลงที่หนูร้องนะคะ”
“การแข่งขันวันนี้จริงๆหนูพยายามจะทิ้งความกดดันไปให้หมด แต่ว่าด้วยความที่หนูตั้งใจและก็อยากทำให้โค้ชภูมิใจ แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่หนูอยากจะทำต่อในรอบต่อไปมันก็เลยทำให้ตื้นตัน แล้วพอรู้ว่าเป็นตัวหนูไปต่อมันก็ยิ่งแบบว่า..ทำได้แล้ว หนูไม่คิดว่าปีนี้หนูจะมาไกลได้ขนาดนี้ด้วยอายุแค่นี้ แล้วคนเก่งเยอะมากๆ ตอนออกมาร้องเพลงหนูกดดันนะคะ เพราะ “ครูหนึ่ง” ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี แล้วในห้องส่งก็มีเสียงตอบรับที่ดีมาก
ในใจหนูคือ หนูคิดว่าเราสองคนนั้นคนละแบบกัน ด้วยโชว์คนละรูปแบบ แต่หนูก็คิดว่าหนูทำดีที่สุดแล้ว แต่มันก็มีความตื่นเต้นเข้ามาบ้างนะคะ คิดว่าคนดูก็คงชอบ ตอนประกาศผลหนูร้องไห้เพราะว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งความฝันของตัวหนู อยากทำให้โค้ชภูมิใจ วันนี้หนูทำให้พี่ป๊อบได้แล้ว ก็ตั้งใจอยากให้คนดูทั้งประเทศชอบ
หนูต้องขอบคุณ “พี่ป๊อบ” ที่เลือกหนูเข้ามาตั้งแต่วันแรก แล้วเขาทำให้อะไรที่มากกว่าคำว่าเป็นโค้ช จนถึงวันนี้ไม่ว่าจะการวางแผนหรือว่าเรื่องเพลงเรื่องอะไรของเขา เขาเอื้อต่อผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทีมคือเขารักทุกคนเหมือนครอบครัวเดียวกัน แล้วก็ต้องขอบคุณคนดู คุณพ่อ คุณแม่ คนดูทุกคนที่ทำให้หนูได้เข้ารอบต่อไป คนที่ทำให้หนูได้มีโอกาสที่จะโชว์ศักยภาพของตัวเองได้อีก การเข้ารอบไฟนอลเกินคาดสำหรับหนูมากๆ จริงๆหนูคิดว่าอยากเข้ามาหาประสบการณ์เฉยๆไม่จำเป็นต้องหวังสูงอะไรมากมาย อันนี้หนูว่ามันเป็นกำไรมากๆแล้วค่ะ”
ติดตามชมรายการ “The Voice 2018 เสียงจริง ตัวจริง” รอบไฟนอล ในวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2562 นี้ เวลา 20.15 - 22.00 น. ทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ใครจะเป็นแชมป์คนต่อไป คุณคือผู้ตัดสิน!
“เอ็มมี่-เซฟ-แตงโม-ลูกปลา” เฉือนเสียงร้องชนะใจผู้ชม เข้าสู่รอบไฟนอล “The Voice 2018”
พร้อมมาก!! 4 โค้ช – ลูกทีม การันตีความดุเดือด รอบการแสดงสด “เดอะ วอยซ์ 2018”
“โค้ชคิ้ม” สุดกลั้นน้ำตา “ป๊อก” ถอดหัวใจร้อง “คนไม่เอาถ่าน”
ใครเป็นใครในเวที “The Voice 2018” อีพีแรก
“ทีมป๊อบ” โค้ชน้องใหม่กับเส้นทางสู่รอบแสดงสด “The Voice 2018”
