สธ. ประกาศ 5 ประเทศอาเซียน พื้นที่โรคติดต่ออันตราย
วัคซีนโควิด-19 กว่า 1 ล้านโดสจากจีนเดินทางถึงอินโดนีเซีย
ทางการอินโดนีเซียระบุว่า จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนวัย 18-59 ปี ถัดจากเจ้าหน้าที่การแพทย์ เพราะเชื่อว่า การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน กลุ่มที่ออกไปพบปะสังสรรค์กับผู้คนมากกว่า จะทำให้ควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า
นอกเหนือจากนี้ กลุ่มคนหนุ่มสาวคือวัยทำงาน หากคนกลุ่มนี้มีภูมิคุ้มกันก็หมายความว่า พวกเขาจะกลับมาทำงานได้เร็ว และส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและเศรษฐกิจโดยรวมอินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ขณะนี้ประมาณ 6,000 รายต่อวัน ส่งผลให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 770,000 ราย เสียชีวิตแล้วมากกว่า 22,000 ราย
วิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้อินโดนีเซียเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งแรกในรอบ 20 ปี จึงทำให้อินโดนีเซียตัดสินใจฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับกลุ่มวัยทำงานก่อน เพื่อหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ได้โดยเร็วที่สุด
แนวทางนี้ของอินโดนีเซียถือว่าสะท้อนการให้ความสำคัญกับกลุ่มประชากรที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ แม้ว่าหลายฝ่ายจะตั้งคำถามต่อแนวทางนี้ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญหลายรายชี้ว่า แต่ละประเทศย่อมมีแนวทางที่แตกต่างกันไปตามปัญหาของตัวเอง และในภาวะวิกฤตแบบนี้ ไม่มีประเทศไหน หรือใครที่รู้ว่าแนวทางไหนจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
วัคซีนตัวแรก ที่อินโดนีเซียเลือกให้คือวัคซีนที่ชื่อ CoronaVac ผลิตโดยบริษัทชิโนแวคของจีน โดยล๊อตแรกจำนวน 3 ล้านโดสถูกส่งมาถึงอินโดนีเซียตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม หรือเกือบ 1 เดือนมาแล้ว
ล่าสุดหน่วยงานด้านอาหารและยาได้ให้การรับรองวัคซีนตัวนี้แล้วและจะมีการเริ่มฉีดให้กับบุคคลากรทางการแพทย์และกลุ่มคนวัยทำงานในสัปดาห์หน้า
วัคซีน CoronaVac ที่อินโดนีเซียกำลังจะฉีดให้ประชาชนเป็นวัคซีนตัวเดียวกันกับที่นายกรัฐมนตรีของไทยบอกเมื่อวานว่า ได้สั่งมา 2 ล้านโดสเพื่อฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงก่อน โดยคาดว่าจะมาถึงไทยปลายเดือนกุมภาพันธ์
วัคซีนตัวนี้พัฒนาโดยบริษัท Sinovac ของประเทศจีน เป็นวัคซีนที่ใช้วิธีการฉีดเชื้อไวรัสที่ตายแล้วเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน หลักการเดียวกับวัคซีนที่พัฒนาโดย Oxford/แอสตราเซเนกา
วัคซีนของจีนตัวนี้จึงจัดเก็บได้ง่ายและสะดวก โดยสามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียสได้เป็นเวลา 6 เดือน
ขณะที่วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาใช้เทคโนโลยีอาร์เอ็นเอ (mRNA) หรือ การนำรหัสของดีเอ็นเอของไวรัสโควิด-19 มาแปลเป็นโปรตีน แล้วมาฉีดเข้าร่างกาย เพื่อให้ร่างกายรู้จักไวรัสชนิดนี้ และสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา วัคซีนนี้ต้องเก็บที่อุณหภูมิ -20 ถึง -70
บีบีซีอ้างอิง Lancet ซึ่งเป็นวารสารการแพทย์ชั้นนำที่มักจะตีพิมพ์ความก้าวหน้าและงานวิจัยทางการแพทย์ โดยระบุว่า จนถึงขณะนี้ มีเพียงข้อมูลการทดสอบวัคซีนตัวนี้ในระยะที่สองเท่านั้น เพราะการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนในขั้นสุดท้ายหรือขั้นที่ 3 ยังคงไม่เสร็จสิ้น โดยขณะนี้มีการทดสอบในขั้นนี้ที่ประเทศตุรกี บราซิล และอินโดนีเซีย
โดยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา สถาบันบูตันตัน ศุนย์วิจัยทางชีววิทยาและผู้ผลิตวัคซีนของบราซิลได้เปิดเผยผลการทดสอบวัคซีน CoronaVac ในขั้นที่สาม เป็นขั้นสุดท้ายที่ทำในอาสาสมัคร 13,000 คน โดยผลการทดสอบเบื้องต้นระบุว่า CoronaVac ของจีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิดมากกว่าร้อยละ 50 ในการแถลงข่าววันนั้น ดิมาส โควาว ผู้อำนวยการสถาบันบูตันตันบอกว่า นอกจากมีประสิทธิภาพแล้ว วัคซีนตัวนี้ยังปลอดภัย มีผลข้างเคียงไม่มากด้วย
ส่วนการทดสอบในคนขั้นสุดท้ายที่ประเทศตุรกี ผลเบื้องต้นออกมาชี้ว่า CoronaVac มีประสิทธิภาพในการป้องกันอยู่ที่ 91.25% ขณะที่ผลการทดสอบที่อินโดนีเซีย ข้อมูลเบื้องต้นออกมาอยู่ที่ 97%
วัคซีน Coronavax ของจีนได้รับการอนุมัติให้ใช้ในเป็นกรณีเร่งด่วยในประชากรกลุ่มเสี่ยงคือ บุคลากรทางการแพทย์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ซึ่งหลังฉีดมีรายงานคนที่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อาจมีไข้ ไม่สบายเนื้อตัว แต่ตัวเลขของคนที่มีอาการหลังฉีดวัคซีน อยู่ที่ไม่เกิน 5%
วัคซีนของจีนไม่ได้มี Coronavax ตัวเดียว มีอีกตัวที่กำลังฉีดในประชาชนคือ ตัวที่ผลิตโดยบริษัทชิโนฟาร์ม หรือ “China National Pharmaceutical Group Corp.” (CNPGC) โดยเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติจีน (NMPA)ได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนตัวนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะมีไม่มีการรายงานจากทางการถึงประสิทธิภาพของวัคซีน แต่สถาบันยาชีววัตถุปักกิ่ง (Beijing Institute of Biological Products) ระบุว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 79%
ตอนนี้ทางการจีนได้เริ่มฉีดวัคซีนตัวนี้ให้กับประชาชนในวงกว้างแล้ว ภาพของผู้คนที่รอขึ้นรถในเมืองใหญ่ๆของจีนทั้งในกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อเดินทางไปรับการฉีดวัคซีนยังศูนย์ต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วเมือง วัคซีนได้ฉีดให้ประชาชนขณะนี้เป็นวัคซีนของบริษัทชซิโนฟาร์ม หยาง เสี่ยวหมิง ประธานบริษัทชซิโนฟาร์มระบุว่า วัคซีนตัวนี้ใช้ผลิตจากเชื้อตาย วัคซีนมีการศึกษาวัจัยและพัฒนาวัคซีนประมาณ 30 ตัว แต่ที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดคือ Coronavac และ ชซิโนฟาร์ม
อย่างไรก็ตามทั้งสองตัวยังไม่มีรายงานที่สมบูรณ์เกี่ยวกับการทดสอบขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมัน ตอนนี้มีหลายประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนของจีน Coranavac ก็มีอินโดนีเซีย บราซิล รวมถึงไทย
ส่วนของชิโนฟาร์ม ก็มีหลายประเทศใช้ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เริ่มการฉีดวัคซีนของทางซิโนฟาร์มให้ประชาชนแล้ว