ธนาคารโลกเผย รัฐประหารเมียนมากระทบประชาธิปไตย-การพัฒนาประเทศ
ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน ให้สัมภาษณ์พิเศษ ความเห็นต่อการ การรัฐประหารในประเทศเมียนมา โดยย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมฝากถึงประชาชน ว่า ถ้าอยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยก็ต้องไม่สนับสนุนเผด็จการ นอกจากนี้ยังมองว่า การก่อรัฐประหารครั้งนี้อาจส่งผลให้ถูกนานาประเทศคว่ำบาตร
เป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรก ของ พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน หรือ RCSS หลัง ประเทศเมียนมาเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ ซึ่งช่วงเกิดเหตุเป็นจังหวะเดียวกันที่ พล.อ.เจ้ายอดศึก อยู่ที่บ้านในจ.เชียงใหม่ ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้สื่อข่าวได้ เบื้องต้น ย้ำจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยและขอคัดค้าน การยึดอำนาจประกาศภาวะฉุกเฉินของกองทัพเมียนมา
เพราะ มองว่า การกระทำของกองทัพ จะส่งผลกระทบกับข้อตกลงหยุดยิง ระหว่าง รัฐบาลเมียนมากับกองกำลังกลุ่มชาติพันธ์ที่เข้าร่วมทั้ง 10 กลุ่มชาติพันธ์ รวมถึงจะกระทบต่อการขับเคลื่อนประเทศให้เข้าสู่ประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังย้ำว่า กลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆก็มีจุดยืนคล้ายกัน คือไม่เห็นด้วยกันการรัฐประหารที่เกิดขึ้น
“ประชาธิปไตยถอยหลัง” ทั่วโลกร่วมประณาม ทหารยึดอำนาจในเมียนมา
พล.อ.เจ้ายอดศึก เชื่อว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้กองทัพตัดสินใจยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD เพราะ ต้องการรักษาอำนาจของกองทัพไว้ รวมถึงกังวลว่า การเติบโตของประชาธิปไตยจะแทรกซึมและทำให้กองทัพสั่นคลอน พร้อมกันนี้มองว่า กองทัพควรปล่อยตัวนางอองซานซูจีและผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด และ ใช้วิธีการเจรจาด้วยสันติวิธี นอกจากนี้ยังฝากถึง กองทัพเมียนมาว่า การรัฐประหารสร้างความแตกแยกและความน่าเชื่อถือ ขอให้แก้ไขโดยเร็ว อย่าให้นานาชาติเข้ามากดดันคว่ำบาตร เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ
ส่วนหลังจากนี้พล.อ.เจ้ายอดศึก บอกว่า จะรอดูท่าทีของรัฐบาลเฉพาะกาล ที่ก่อตั้งโดยกองทัพเมียนมา ว่า จะมีแนวทางอย่างไรกับ ข้อตกลงหยุดยิงและกระบวนการสันติภาพที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ ยังขอสื่อสาร ถึงกลุ่มชาติพันธุ์และนานาชาติ ว่า เมียนมาจะมีความเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน ย้ำว่า ไม่ควรสนับสนุนเผด็จการ
ต่างชาติ ขู่ กลับมาคว่ำบาตรเมียนมา อีกครั้ง