นครมุมไบเช้านี้เต็มไปด้วยความจอแจ วุ่นวาย คนนับพันยืนเข้าคิวยาวเหยียดอยู่ริมถนน เจ้าหน้าทยอยแจกบัตรคิวให้ทีละคน และทันทีที่ประตูเปิด คนก็พากันวิ่งกรูข้าไป
ไม่ใช่การเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือเทศกาลบันเทิง แต่คือการต่อแถวเพื่อเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 สิ่งที่ชาวอินเดียต้องการมากที่สุดในเวลานี้
อินเดียกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองที่รุนแรงขั้นวิกฤต มีคนติดเชื้อมากกว่า 3 แสนรายต่อวัน และเสียชีวิตมากกว่า 3,000 รายต่อวัน
วิกฤตขาดแคลนวัคซีนอินเดีย ขณะที่ยอดติดเชื้อพุ่ง
ฝ่ายค้านอินเดียขอให้ล็อกดาวน์ ติดเชื้อทะลุ 20 ล้านคน
วัคซีนจึงคือความหวังในการต่อสู้กับภัยคุกคามที่มองไม่เห็น อินเดียต้องเร่งกระจายวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้างให้เร็วที่สุด เพื่อยับยั้งการระบาดของโควิด-19 และป้องกันไม่ให้ระบบสาธารณสุขของประเทศล่มสลาย ตั้งแต่ต้นปี 2021 อินเดียทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชนตามลำดับความสำคัญ
กลุ่มแรกคือกลุ่มเสี่ยงที่สุด ได้แก่ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า บุคลากรทางการแพทย์ และคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ตามมาด้วยประชาชนที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป รวมไปถึงคนที่มีโรคประจำตัว
และเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา อินเดียได้เริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในการกระจายวัคซีน เพราะเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรอินเดียราว 1,400 ล้านคน คือกลุ่มคนหนุ่มสาวอายุไม่เกิน 35 ปี แต่อุปสรรคสำคัญที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ ขณะนี้มีวัคซีนไม่เพียงพอ
อินเดียระงับฉีดวัคซีนโควิดหลังขาดแคลนหนัก
ย้อนไปต้นเดือนเมษายน อินเดียเคยแจกจ่ายวัคซีนได้มากถึง 4 ล้าน 5 แสนโดสต่อวัน แต่ช่วงปลายเดือนกลับลดลงเหลือราว 2 ล้าน 3 แสนโดสต่อวัน และปัจจุบันมีเพียง 12 รัฐ จากทั้งหมด 36 รัฐและดินแดนสหภาพเท่านั้นที่มีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชน
ที่นครมุมไบมีศูนย์ฉีดวัคซีนเกือบ 200 แห่ง แต่ทางการต้องปิดศูนย์ฉีดเกือบทุกแห่ง เหลือเพียง 5 แห่งที่ยังเปิดให้บริการได้ โดยแต่ละแห่งเหลือวัคซีนในสต๊อกเพียง 200 โดสเท่านั้น
ทั้งผู้สูงอายุที่มาฉีดวัคซีนเข็มที่สองตามนัด และคนหนุ่มสาวที่มาครั้งแรก ล้วนกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง
เช่นเดียวกับที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศ ทางการต้องออกมาประกาศว่า พวกเขาไม่มีวัคซีนเหลือแล้ว
อินเดียสั่งลบทวีตด่า รบ.ล้มเหลวรับมือโควิด-19
หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า อินเดียขาดแคลนวัคซีนได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ประเทศนี้คือที่ตั้งของสถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยร้อยละ 60 ของวัคซีนที่คนทั่วโลกใช้อยู่ถูกผลิตโดยสถาบันเซรั่มแห่งนี้
และการระบาดของโควิด 19 ก็เช่นกัน สถาบันเซรั่มแห่งอินเดียถูกคาดหวังว่าจะเป็นโรงงานผลิตวัคซีนหลักเพื่อแจกจ่ายไปทั่วโลก โดยตั้งแต่ปีที่แล้วมหาวิทยาลัย Oxford และบริษัทแอสตราเซเนกา ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้สถาบันเซรั่มแห่งอินเดียเพื่อผลิตวัคซีนต้านโควิดที่ชื่อ โควิชิลด์
ปัจจุบันสามารถผลิตวัคซีนโควิชิลด์ได้มากกว่า 60-70 ล้านโดสต่อเดือน เพียงพอสำหรับประชาชนราว 30-35 ล้านคน ไม่มากเลยเมื่อเทียบกับประชากรที่มีเกือบ 1,400 ล้านคน
ล่าสุด อดาร์ ปูณาวัลลา ซีอีโอของสถาบันเซรั่มเปิดเผยว่า โรงงานจะเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนเป็น 100 ล้านโดสต่อเดือนเร็วๆ นี้ แต่เนื่องจากการผลิตวัคซีนคือกระบวนการที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง การเพิ่มกำลังผลิตชั่วข้ามคืนจึงเป็นไปไม่ได้
นั่นหมายความว่าอินเดียอาจต้องเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนวัคซีนอย่างรุนแรงไปจนถึงเดือนกรกฎาคม กว่าวัคซีนจะผลิตได้มากพอ
หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้อินเดียขาดแคลนวัคซีนก็คือความชะล่าใจของรัฐบาลภายใต้การปกครองของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ที่ไม่เชื่อคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการระบาดระลอกสอง และไม่เตรียมพร้อมสั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้า เพื่อให้โรงงานมีเวลาผลิตเพิ่ม
ด้านผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากอินเดียต้องการแจกจ่ายวัคซีนให้ประชาชนอายุ 18 ขึ้นไปทุกคน อินเดียต้องกระจายวัคซีนวันละ 7 ล้าน 5 แสนโดส มากกว่าที่อินเดียทำอยู่ถึง 3 เท่า
วิกฤตที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะภายในประเทศ แต่มันยังส่งผลกระทบต่อการแจกจ่ายวัคซีนทั่วโลกด้วย เพราะวัคซีนโควิชิลด์ของสถาบันเซรั่ม คือวัคซีนหลักของโครงการ COVAX โครงการแจกจ่ายวัคซีนให้ประเทศยากจนขององค์การอนามัยโลก
โดยก่อนหน้านี้สถาบันเซรั่มเตรียมจัดส่งวัคซีนกว่า 200 ล้านโดสให้แก่ 92 ประเทศภายใต้โครงการ COVAX แต่ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา การขนส่งวัคซีนให้โครงการ COVAX ล่าช้า เพราะรัฐบาลอินเดียประกาศระงับการขนส่งวัคซีนออกนอกประเทศ เพื่อสำรองวัคซีนให้คนในประเทศก่อน
ปัจจุบันอินเดียมีวัคซีนอีกสองตัวที่ได้รับการอนุมัติแล้ว คือ โคแวคซิน ของภารัต ไบโอเทคของอินเดีย และสปุตนิก วี ของรัสเซีย ที่เตรียมเพิ่มกำลังการผลิต
ส่วนนานาชาติก็เตรียมส่งวัคซีนเพื่อช่วยเหลืออินเดียเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า กว่าความช่วยเหลือจะเดินทางมาถึงอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน เพราะอย่างสหรัฐฯ ที่ระบุว่าจะส่งวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข้ามาเสริมทัพ ก็เพิ่งจะเริ่มผลิตล็อตใหม่
ขณะนี้อินเดียเหลือวัคซีนในมือแค่ 10 ล้านโดส ท่ามกลางการระบาดที่แพร่กระจายอย่างรุนแรง รวดเร็วนาทีนี้โรงงานวัคซีนโลกไม่อาจช่วยใครได้
ความช่วยเหลือจากทุกชาติกำลังส่งไปยังอินเดีย วิกฤตเกิดขึ้นกับประเทศเดียวก็จริง แต่ผลกระทบกระเพื่อมถึงทั่วโลก