ยาโมลนูพิราเวียร์ หรือยาเม็ดต้านโควิด-19 เป็นอีกความหวังหนึ่งที่จะมาช่วยในการรักษาและต้านโควิด-19 ในอนาคต ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด บริษัทผู้ผลิตอย่าง เมอร์ค แอนด์ โค ประกาศว่า ได้ส่งเอกสารไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) เพื่อยื่นขอให้พิจารณาอนุมัติ ยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐ เพื่อใช้รักษาการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลการศึกษาพบว่า ได้ผลดีในผู้ป่วยระยะเริ่มต้น ถึง ปานกลาง ถึง ในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคโควิด-19 รุนแรง และเพื่อลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาล
ผลทดลองใช้ยาต้านโควิด-19 "โมลนูพิราเวียร์" พร้อมไทม์ไลน์นำเข้าใช้ในไทย
นายกฯออสเตรเลีย ประกาศซื้อยาเม็ดต้านโควิด 3 แสนชุด
แอสตร้าเซนเนก้าเผยยาแอนติบอดีลดป่วยหนัก-ตาย 50%
เกาหลีใต้พบ "ปัญหารอบเดือน" หลังฉีดวัคซีนโควิด-19
จากผลการศึกษาทางคลินิกระยะที่ 3 พบว่า ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น โรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อโควิด-19 เมื่อได้ ยาโมลนูพิราเวียร์ ในปริมาณ 800 มิลลิกรัมวันละ 2 เวลา เช้า - เย็น ตั้งแต่เริ่มมีอาการจนถึงระดับอาการปานกลาง เป็นระยะเวลา 5 วัน พบว่า ลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาล 50% และไม่มีผู้เสียชีวิต และพบว่ามีประสิทธิภาพในการต้านโควิด-19 กับทุกสายพันธุ์ (อู่ฮั่น อัลฟา เดลตา และเบตา)
ซึ่งการทดลองทางคลินิกในระยะที่ 3 นี้ได้ทำการศึกษาในประเทศต่างๆ เช่น อาร์เจนตินา บราซิล แคนาดา ชิลี โคลอมเบีย อียิปต์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กัวเตมาลา อิสราเอล อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ โปแลนด์ รัสเซีย แอฟริกาใต้ สเปน สวีเดน ไต้หวัน ยูเครน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามหาก FDA อนุมัติการใช้ ยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว คาดว่าจะผลิตยาได้ สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 10 ล้านคนภายในสิ้นปี 2564 และจะเพิ่มกำลังการผลิตในปี 2565 ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศที่ทำการเจรจาสั่งซื้อ ยาโมลนูพิราเวียร์ แล้วเช่นกันรวมถึงไทย และนับเป็นยาชนิดรับประทานตัวแรกที่ใช้ต้านไวรัสโควิด-19
ที่มา : https://www.merck.com/