เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) เจ้าหน้าที่เมือง มาริอูปอล (Mariupol) เมืองท่าสำคัญริมทะเลดำ ทางตอนใต้ของยูเครน เปิดเผยว่า กระบวนการอพยพประชาชนที่ตกค้างในพื้นที่ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากตลอดระยะเวลา 5 ชั่วโมง ของการประกาศหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งมีขึ้นเพื่อเปิดทางให้ชาวเมืองกว่า 4 แสนคน เดินทางออกจากพื้นที่สู้รบ ทหารฝั่งรัสเซียเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง และยังคงโจมตีถล่มเมืองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางการต้องระงับแผนการอพยพพลเรือนออกไปก่อน
แผนอพยพประชาชนชะงัก หลัง "ยูเครน" อ้าง "รัสเซีย" ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
"ปูติน" ลั่นประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน เท่ากับเข้าร่วมความขัดแย้ง
ฝั่งยูเครน กล่าวโทษรัสเซีย ว่าเป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ส่วนกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวหากองกำลังชาตินิยมยูเครนในพื้นที่ว่าเป็นฝ่ายขัดขวางการอพยพ โดยยืนยันว่ารัสเซียนั้นเคารพข้อตกลงหยุดยิง แต่ยูเครนกลับฉวยโอกาสที่การสู้รบยุติลงชั่วคราว เสริมกำลังให้กับฝ่ายตนเอง
ด้านนายกเทศมนตรีเมืองอารีอูปอลเปิดเผยว่า มีการประกาศหยุดยิงอีกครั้งในวันนี้ (6 มี.ค.)
คำสั่งหยุดยิงเริ่มตั้งแต่ 10.00 - 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนการเปิดช่องทางสำหรับการอพยพ จะเริ่มขึ้นในเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะใช้รถบัสเป็นพาหนะหลักในการอพยพ ส่วนคนที่มีรถส่วนตัว สามารถขับตามขบวนรถบัส และรถของสภากาชาด ออกจากพื้นที่ได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีรายงานว่าแผนอพยพล้มเหลวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจากเริ่มมีการละเมิดหยุดยิงอีกครั้ง
สำหรับเมืองมาริอูปอล ถูกกองทัพรัสเซียเข้าปิดล้อมมานานหลายวันแล้ว ซึ่งหากยึดครองเมืองนี้ไว้ได้ รัสเซียก็จะได้เมืองยุทธศาสตร์ออกสู่ทะเลดำเพิ่มอีกแห่ง
ขณะที่สภาพภายในเมืองเต็มไปด้วยความเสียหาย ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้มา 5 วันแล้ว และเริ่มขาดแคลนน้ำประปา มีรายงานว่าประชาชนต้องเอาหิมะที่ตกมาต้มเพื่อทำให้เป็นน้ำดื่มน้ำใช้ สัญญาณโทรศัพท์ไม่สามารถใช้การได้
เจ้าหน้าที่ไม่มีโอกาส แม้แต่จะออกไปช่วยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเก็บศพผู้เสียชีวิตจากการสู้รบ เนื่องมีการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
ภาพจากโซเชียลมีเดียยังเผยให้เห็นบรรยากาศความวุ่นวายในห้างสรรพสินค้าของเมือง หลังชาวเมืองส่วนหนึ่งบุกเข้าไปปล้นสะดม และขโมยข้าวของในร้านต่างๆ
นอกจากที่มารีอูปอลแล้ว เมื่อวานนี้ เมือง โวลโนวากา (Volnovakha) ทางภาคตะวันออก ก็มีการประกาศหยุดยิงเพื่อให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เช่นกัน แต่สุดท้ายแผนอพยพก็ล้มเหลวในเวลาอันสั้น เพราะรัสเซียยิงโจมตีเมืองไม่หยุดยั้ง มีรายงานว่า มีประชาชนเพียง 400 คน จากทั้งหมดกว่า 21,000 คน ที่สามารถอพยพจากเมืองได้สำเร็จ
สหรัฐฯ หารือโปแลนด์ ส่งเครื่องบินรบให้ยูเครน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังประสานกับรัฐบาลโปแลนด์ เพื่อนบ้านที่อยู่ทางตะวันตกของยูเครน รวมถึงพันธมิตรนาโต (NATO) อื่น ๆ ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการจัดหาเครื่องบินรบให้กับกองทัพยูเครน
โดยสหรัฐฯ อาจทำข้อตกลงให้โปแลนด์ส่งเครื่องบินรบสมัยสหภาพโซเวียต ที่โปแลนด์มีอยู่ ให้กับยูเครน แลกกับเครื่องบินขับไล่ F-16 ของสหรัฐฯ
สาเหตุที่กองทัพยูเครนต้องใช้เครื่องบินรบที่ผลิตจากรัสเซีย เนื่องจากเคยผ่านการฝึกอบรมและมีความคุ้นเคยกับระบบมากกว่า
เกษตรกรยูเครนช่วยยึดรถถัง-ยุทโธปกรณ์จากรัสเซีย
นอกจากความช่วยเหลือจากนานาชาติแล้ว ยังมีภาพความร่วมมือร่วมใจของชาวยูเครนให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
โดยภาพที่เผยแพร่ในโลกโซเชียล เผยให้เห็นความพยายามของชาวนาและเกษตรกรในยูเครน ที่ช่วยกันยึดและขโมยรถถังและยุทโธปกรณ์จากกองทัพรัสเซียทุกครั้งที่มีโอกาส
จากภาพจะเห็นว่า เกษตรส่วนใหญ่จะใช้รถแทรกเตอร์ของตนเอง ลากรถถังกลับบ้าน
ใครที่ไม่มีแทรกเตอร์ ก็จะใช้วิธีขี่มอเตอร์ไซค์ ลากยุทโธปกรณ์ที่มีขนาดเล็กลงมากลับบ้าน