จากกรณีเครื่องบินโดยสารโบอิง 737-800 ของสายการบิน ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตกกระแทกพื้นกลางหุบเขา ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศ หลังขึ้นบินได้ประมาณ 1 ชม. ซึ่งขณะเกิดเหตุ มีผู้โดยสาร และลูกเรือบนเครื่องรวม 132 คน
หลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง สั่งระดมสรรพกำลังที่มีอยู่ ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน ทีมนักดับเพลิง และผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่จุดตก พร้อมสั่งสอบสวนโศกนาฏกรรมครั้งนี้อย่างโปร่งใสและรวดเร็วที่สุด
เครื่องบิน "ไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์ส" ตก 133 ชีวิตยังไม่ทราบชะตากรรม
คนร้ายขับรถพุ่งใส่นักแสดงงานคาร์นิวัลเบลเยียม ดับ 6 ราย
ข้อมูลจากเว็บไซต์ ไฟลท์เรดาร์ ทเวนตี้โฟร์ (FlightRadar24) ระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวได้ลดระดับการบินอย่างรวดเร็วจากความสูง 8,870 เมตร เหลือ 982 เมตร ในระยะเวลาเพียง 3 นาที ก่อนที่ข้อมูลการบินจะยุติไปเมื่อเวลา 14.22 น. ตามเวลาท้องถิ่น
กรุงเคียฟประกาศเคอร์ฟิวอีกครั้ง หลังถูกระดมโจมตีหนัก
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินเริ่มตรวจสอบคลิปการตกที่มีการบันทึกไว้ได้ พบว่า เครื่องดิ่งลงสู่พื้นด้วยความเร็วในลักษณะเกือบตั้งตรง ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
จากการตรวจสอบพบว่า เครื่องบินลำดังกล่าวผ่านการใช้งานมาเพียง 6 ปีเท่านั้น และรุ่น 737-800 ก็เป็นรุ่นที่ได้รับความไว้วางใจ เนื่องจากมีประวัติด้านความปลอดภัยทางอากาศดีกว่ารุ่น 737 แม็กซ์ ที่ประสบเหตุตกในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 ครั้ง และเคยถูกระงับใช้งานทั่วโลก
ล่าสุด โบอิงออกแถลงการณ์ว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือในการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น และได้ประสานกับคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ แล้ว
ด้าน สายการบิน ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ออกมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือทุกคน โดยมีการเปลี่ยนเว็บไซต์เป็นสีขาวดำเพื่อไว้อาลัย แต่ยังไม่มีการระบุถึงจำนวนผู้เสียชีวิต หรือให้รายละเอียดอื่น ๆ และเบื้องต้น ทางสายการบินได้สั่งระงับการใช้งานเครื่องบินรุ่นนี้ทุกลำ
ทางการจีนเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตเครื่องบินตก
ส่วนความคืบหน้าภารกิจค้นหากู้ภัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายร้อยคนยังคงทำงาน เก็บกู้ซากเครื่องบินในจุดตก เป้าหมาย คือ ค้นหากล่องดำทั้ง 2 กล่อง ที่จะช่วยไขปริศนาการตกให้ได้ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูง ร่วมลงพื้นที่สังเกตการณ์ด้วยตนเอง