เจ้าหน้าที่กู้ภัยจีนหลายร้อยชีวิตเดินหน้าค้นหากล่องดำกล่องที่ 2 ซึ่งเป็นกล่องบันทึกข้อมูลการบิน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาทั้งวัน
โดยฝนและน้ำที่ท่วมขังในจุดเกิดเหตุ เป็นอุปสรรคต่อการค้นหาผู้เคราะห์ร้าย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำ รวมถึงมีการปรับพื้นที่ สร้างถนนชั่วคราว ความยาว 500 เมตร เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางและลำเลียงอุปกรณ์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังนำแพไม้ไผ่มาวางตามเส้นทาง เพื่อให้ง่ายต่อการสัญจร เนื่องจากถนนมีสภาพเป็นดินโคลนจากฝนตก
ขณะที่ชาวบ้านและคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างในพื้นที่ ก็อาสาช่วยขนอุปกรณ์ และเสบียงอาหารเข้าไปในพื้นที่อีกแรง เนื่องจากถนนหนทางบนเขาค่อนข้างแคบ
ในระหว่างการสำรวจพื้นที่ เจ้าหน้าที่พบเศษซากเครื่องบินเพิ่มเติม รวมถึงเริ่มพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดถูกส่งมอบให้ทีมสอบสวนแล้ว
อย่างไรก็ตาม นับจนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิต และไม่ลงความคิดเห็นในประเด็นที่ว่าทุกคนบนเครื่องเสียชีวิตยกลำ แม้ว่าความหวังในการพบผู้รอดชีวิตจะริบหรี่มากแล้วก็ตาม
ส่วนกล่องดำกล่องแรก ที่พบเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) สภาพภายนอกเสียหายค่อนข้างมาก จนทำให้ต้องใช้เวลาตรวจสอบนานหลายชั่วโมง ล่าสุด สำนักงานบริหารการบินพลเรือนของจีน (CAAC) ยืนยันแล้วว่าเป็นกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (CVR) ซึ่งขณะนี้ ทีมสอบสวนในกรุงปักกิ่งเริ่มทำการตรวจสอบแล้ว โดยพบว่าหน่วยความจำภายในได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยและยังอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ และคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการดาวน์โหลดข้อมูลและประมวลผล
สำหรับกล่องดำหรือกล่องบันทึกการบิน ไม่ได้เป็นสีดำตามชื่อ แต่เป็นสีส้มสะท้อนแสงเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา มีน้ำหนักราว 4.5 กก. ประกอบด้วย 2 กล่อง คือ กล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (CVR) จะบันทึกเสียงพูดของนักบิน รวมทั้งเสียงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในห้องนักบิน
อีกกล่อง คือ กล่องบันทึกข้อมูลการบิน (FDR) ซึ่งจะบันทึกสภาวะในระหว่างที่เครื่องขึ้นบินไว้อย่างละเอียด ทั้งความเร็ว ระดับความสูง ตำแหน่งปีก และทิศทางของเครื่อง จึงมีส่วนสำคัญในการไขปริศนาว่าเพราะเหตุใดเที่ยวบิน MU 5735 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 132 คน จึงตกในแนวดิ่งบนภูเขาในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน ระหว่างเดินทางจากเมืองคุนหมิง ไปยังเมืองกว่างโจว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลการติดตามเที่ยวบินแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินโบอิงลำนี้ เดินทางด้วยความเร็วเกือบเท่ากับความเร็วเสียง ก่อนตกลงสู่พื้นดิน
ภาพ AFP