สิ่งที่น่าสนใจกว่าการสิ้นสุดปฏิบัติการในเฟสแรกตอนนี้ก็คือ ปฏิบัติการเฟสสองในภูมิภาคดอนบัสที่ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายก็ยังไม่สามารถคาดเดาแบบร้อยเปอร์เซ็นว่าผู้นำรัสเซียจะทำอย่างไรต่อไป
คีรีโร บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมของยูเครน ได้โพสต์ข้อความในเทเลแกรมของกระทรวงกลาโหมยูเครนโดยระบุว่า ปฏิบัติการขั้นต่อไปของรัสเซียคือ การทำให้ยูเครนเป็นเกาหลี2 ด้วยการแบ่งยูเครนออกเป็นสองส่วน เหมือนที่เกิดขึ้นในสงครามเกาหลีช่วงทศวรรษ 1950
เจอข้อครหาหนักทั้งคู่ ทหารยูเครนยิงเชลยศึก-ทหารรัสเซียข่มขืนพลเรือน
รัสเซียยึดนาฬิกาหรู “โอเดอมาร์ส ปิเกต์” ตอบโต้สวิตเซอร์แลนด์คว่ำบาตร
เพราะอะไร? เพราะผู้นำรัสเซียไม่ได้อยู่ในจุดที่สามารถยึดทั้งประเทศได้แล้ว
พล.ต.มิก ไรอัน อดีตนายพลชาวออสเตรเลียได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ให้ความเห็นคล้าย ๆ กับบูดานอฟว่ามีความเป็นไปได้ที่เราอาจได้เห็นรัสเซียเคลื่อนย้ายสรรพาวุธและสรรพกำลังไปยังพื้นที่ทางตะวันออกแทน
ใจความในทวิตเตอร์จำนวนหลายข้อความของเขาระบุว่ารัสเซียไม่สามารถเอาชนะยูเครนในระยะสั้นแบบที่ทำในจอร์เจียได้ เพราะยุทธศาสตร์ของรัสเซียนั้นไม่ดี รวมถึงรัสเซียได้ประเมินยูเครนต่ำเกินไป
การบุกทางทิศเหนือ ใต้ ตะวันออกของยูเครน ไม่สามารถทำให้รัสเซียบรรลุเป้าหมายในการยึดกรุงเคียฟและเปลี่ยนรัฐบาลได้ แผนต่อไปคือการมุ่งสู่โดเนตสก์และลูฮันสก์เพื่อช่วงชิงพื้นที่ อาจเพื่อแยกดินแดนหรือหนักกว่านั้น คือเตรียมยึดเพื่อเปิดการเจรจารอบใหม่
นักวิชาการมองว่าในเกมการเจรจาครั้งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หากฝ่ายใดยึดพื้นไว้ในครอบครองได้มาก อำนาจในการต่อรองก็จะสูงกว่า
เดวิด อารัคฮาเมีย หนึ่งในทีมเจรจาของยูเครน เปิดเผยบนเฟซบุ๊กว่าการเจรจาแบบตัวต่อตัวระหว่างตัวแทนของฝ่ายรัสเซียและยูเครน จะเกิดขึ้นที่ตุรกี ระหว่างวันนี้ไปจนถึงวันพุธ ที่นครอิสตันบูล และทางรัสเซียตอบตกลงแล้ว และจะเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ ( 29 มี.ค.)
การเจรจาในครั้งนี้กลับไปจัดที่ตุรกีเหมือนเดิมด้วยเหตุผลที่ว่า ตุรกีเป็นคนกลางที่ทั้งสองฝ่ายสามารถเชื่อใจได้ เพราะทั้งรัสเซียและยูเครนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตุรกี
รัสเซียเป็นเพื่อนในสนามรบของตุรกีเมื่อครั้งสมัยสงครามซีเรีย ในขณะที่ยูเครนคือลูกค้าอาวุธโดรนคนสำคัญ ตุรกีบริหารความสัมพันธ์กับทั้งสองฝ่ายอย่างดี และพยายามเสนอเป็นตัวเป็นคนกลางมาตลอด ทำให้ทั้งสองฝ่ายไว้ใจ แม้ตุรกีจะเป็นสมาชิกนาโต
ประเด็นที่สำคัญมี 2 เรื่อง คือ
1. ความเป็นกลางของยูเครน และหลักประกันด้านความมั่นคง
2. พื้นที่ที่รัสเซียอยากได้ คือ ไครเมียและยูเครนตะวันบริเวณแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์
ในข้อแรกชัดเจนแล้วว่า ผู้นำยูเครนยอมคุยเรื่องนี้
โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวีดีโอคอลกับสื่ออิสระแห่งหนึ่งของรัสเซีย ก่อนออกมาเปิดเผยส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ โดยเฉพาะประเด็นการเจรจา
ผู้นำยูเครนระบุว่า พร้อมพูดคุยกับรัสเซียในประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ การวางตัวเป็นกลางของประเทศยูเครน ซึ่งหมายรวมไปถึงสถานะของชาติที่ไม่มีนิวเคลียร์
เซเลนสกีย้ำว่าต้องมีหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับยูเครนด้วย และก่อนทำข้อตกลงยินยอมจะต้องมีการทำประชามติภายในประเทศยูเครนก่อน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยูเครนจะไม่พูดคุยคือเรื่องทำให้ยูเครนเป็นประเทศปลอดทหาร หรือปลอดนาซี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีมูล ไม่มีเหตุผล โดยบอกว่าเขาเองยังไม่เข้าใจว่าทำไมรัสเซียจึงยกเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง
นอกเหนือจากเรื่องสถานะความเป็นกลางของยูเครนที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วจากผู้นำรัสเซียว่าต้องการอะไร
อีกเรื่องที่คาดว่าจะเป็นหัวข้อหลักในการพูดคุยคือ เรื่องดินแดนที่รัสเซียจะขอต่อรองเพื่อเอามาเป็นของตัวเองให้ได้
มีรายงานว่า รัสเซียต้องการได้ดอนบัสทางตะวันออกและอาจต่อเนื่องไปเมืองทางใต้ด้วย ซึ่งรวมถึง มาริอูปอล เคอร์ซอน
เอาประเด็นเรื่องดอนบัสทางด้านตะวันออกก่อน ในภูมิภาคดอนบัสขณะนี้พื้นที่ 1 ใน 3 ตรงแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์อยู่ในความครอบครองของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียเป็นคนหนุนหลัง
ประเด็นนี้เซเลนสกีพูดว่า เขาเข้าใจดีกว่าการเอาพื้นที่ทั้งหมดกลับมาเป็นของยูเครนเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพราะนั่นอาจหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 เขาบอกว่ายูเครนจึงต้องการหาจุดประนีประนอมในข้อพิพาทดินแดนแห่งนี้
ตีความกันว่า ยูเครนอาจยอมยกโดเนตสก์และลูฮันสก์ให้กับรัสเซีย แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของดอนบัส
ประเด็นก็คือ รัสเซียจะยอมเอาแค่นี้หรือไม่ เพราะสิ่งที่รัสเซียต้องการมากกว่านั้น นอกจากต้องการทั้งแคว้นดอนบัสแล้ว รัสเซียยังต้องการเมืองทางใต้ด้วย และนี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมรัสเซียยังคงโจมตีอย่างหนักทางด้านนั้น