ยูเครน อพยพพลเรือนทั้งหมดออกจาก "โรงงานเหล็กอาซอฟสตอล" แล้ว
UNSC ออกแถลงการณ์ฉบับแรก สนับสนุนสันติภาพในยูเครน
เซอร์รี ไกได (Serhiy Gaidai) ผู้ว่าการภูมิภาคลูฮันสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังมีการสู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซีย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) เครื่องบินรบของรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านบิโลโฮริฟกา (Bilohorivka) ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านราว 90 คน รวมถึงเด็กและผู้หญิง ใช้เป็นที่หลบภัยการสู้รบ
โดยแรงระเบิดทำให้โรงเรียนพังถล่ม และติดไฟลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง จึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
เบื้องต้น มีการยืนยันพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ช่วยพลเรือน 30 คน ออกมาจากใต้ซากปรักหักพังได้อย่างปลอดภัย ในจำนวนนี้ 7 คน ได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีก 60 คน ยังสูญหาย ไม่ทราบชะตากรรม
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านใกล้เคียง ถูกระเบิดโจมตีด้วย มีรายงานคนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง 11 คน
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ฝั่งรัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นหรือยืนยันเรื่องการโจมตีดังกล่าว
ด้านสถานการณ์ในเมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด มีการยืนยันจากประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ว่า ภารกิจอพยพพลเรือนทั้งหมดออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลเสร็จสิ้นแล้ว จากนี้ จะให้ความสำคัญกับการอพยพเฟส 2 ต่อไป โดยมุ่งเป้าไปที่การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและหน่วยแพทย์ ตลอดจนเร่งรัดให้เกิดการเปิดเส้นทางเพื่อมนุษยธรรมสำหรับพลเรือนทั้งหมดในพื้นที่
"จิล ไบเดน" เยี่ยมผู้ลี้ภัยสงครามในยุโรป
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างภารกิจเยือนยุโรปตะวันออก อาทิ โรมาเนีย และสโลวะเกีย เพื่อเยี่ยมผู้ลี้ภัยสงครามยูเครน รวมถึงทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในประเทศเหล่านี้
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติชี้ว่า สงครามทำให้ชาวยูเครนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นแล้วกว่า 12 ล้านคน ในจำนวนนี้ 5 ล้าน 7 แสนคน อพยพหนีตายไปอยู่ตามประเทศเพื่อนบ้าน