ลูกชายเผด็จการ “มาร์กอส” คะแนนนำในโพลเลือกตั้ง ปธน.ฟิลิปปินส์
ปธน.ฟิลิปปินส์ ลั่นแบนไก่ชนออนไลน์
หน่วยเลือกตั้งในฟิลิปปปินส์ได้เปิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.00 น. าตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 05.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย และจะเปิดต่อเนื่องไปจนกระทั่งปิดหีบในเวลา 19. 00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของฟิลิปปินส์
สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 มารอเข้าคิวอย่างกันเนืองแน่นในหลายหน่วยเลือกตั้งด้วยกัน โดยคาดว่า จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ครั้งนี้จะมีมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ส่วนการเลือกตั้งมีขึ้นท่ามกลางหน่วยรักษาความมั่นคงกว่า 60,000 นายที่คอยลาดตระเวนและประจำตามจุดเลือกตั้งต่างๆ เพื่อดูแลความปลอดภัย
ล่าสุด โพลสำรวจความนิยมพบว่า ในเวลานี้ เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ หรือบองบอง มีคะแนนนำรองประธานาธิบดีโรเบรโด้อยู่เล็กน้อย
ในเช้าวันนี้บองบองออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้ว โดยเขายังคงได้รับความนิยมในกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เกิดหลังยุคที่พ่อของเขาปกครองฟิลิปปินส์อย่างเผด็จการโดยเชื่อว่า มากอสจูเนียซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการ สว และ สส จะสามารถทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากความยากจนได้
“เพนกวินจักรพรรดิ” ขั้วโลกใต้ เสี่ยงสูญพันธุ์ เมื่อธารน้ำแข็งกำลังละลาย
มาร์กอสจูเนียร์ อายุ 64 ปีจบการศึกษาจากอังกฤษและเริ่มเข้าสู่การเมืองตั้งแต่พ่อยังอยู่ในอำนาจโดยเป็นรองนายกเทศมนตรีเมือง โลคอส นอร์เต ทางตอนเหนือและเป็นฐานเสียงที่สำคัญของตระกูลมาร์กอสมาจนถึงปัจจุบัน บองบองได้กล่าวปกป้องการปกครองในสมัยพ่อโดยพยายามชี้ให้เห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจแต่เลี่ยงที่จะพูดถึงการบริหารจัดการผิดพลาดและการทุจริต ถึงแม้เขาจะยอมรับเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสมัยพ่อแต่ก็อ้างว่าตอนนั้นตัวเขายังอายุน้อยเกินไปในการที่จะร่วมรับผิดชอบกับสิ่งที่พ่อทำ
มาร์กอสจูเนีย ได้กลับมาฟิลิปปินส์เมื่อปี 1991 หลังจากที่ลี้ภัยไปฮาวายพร้อมกับครอบครัวหลังจากที่พ่อของเขาคือประธานาธิบดีมาร์กอสถูกโค่นอำนาจ ที่ผ่านมาตระกูลมาร์กอสได้พยายามกู้ภาพลักษณ์ซึ่งแปดเปื้อนจากการปกครองของพ่อที่ใช้กฎอัยการศึกรวมถึงความร่ำรวยหลายหมื่นล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่าได้มาจากการทุจริตและใช้ผลประโยชน์ของชาติ บองบอง พยายามสร้างภาพในการเป็นผู้นำที่จะสร้างเอกภาพในประเทศ
ขณะที่บรรดานักสังเกตการณ์การเมืองระบุว่าการที่บองบองมีคะแนนนิยมนำมาจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์และพยายามที่จะเขียนประวัติศาสตร์ใหม่เกี่ยวกับประวัติตระกูลมากอส
ด้านเลนี่ โรเบรโด้ รองประธานาธิบดีหญิงคนปัจจุบันที่มีอายุ 56 ปี เธอเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเป็นผู้วิจารณ์คนสำคัญในนโยบายสงครามยาเสพติด การใกล้ชิดกับจีนและการจัดการกับโควิด โดยเธอได้หาเสียงที่จะตั้งรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว
แต่นักวิชาการมองว่า ยังพอมีโอกาสสำหรับ โรเบรโด้ในการตีตื้น เพราะการสำรวจความนิยมอาจไม่สะท้อนข้อมูลในสถานการณ์จริงในห้วงเวลาจริงเนื่องจากผู้สนับสนุนโรเบรโด้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากการรณรงค์หาเสียงล่าสุดที่มีประชาชนมาร่วมหลายหมื่นคน รวมไปถึงการประกาศเปลี่ยนจุดยืนมาสนับสนุนโรเบรโด้ของบรรดานายกเทศมนตรี ผู้สมัคร ผู้ว่าการและนักการเมืองในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ยูเครนมอบเหรียญรางวัลให้ “เพทรอน” สุนัขสืบหาวัตถุระเบิดขวัญใจชาวเน็ต