เปิดภาพหลักฐานอาชญากรรมสงคราม ทหารรัสเซียยิงพลเรือนจากข้างหลัง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

หลักฐานอาชญากรรมสงคราม กล้องวงจรปิดจับภาพขณะทหารรัสเซียยิงพลเรือนยูเครนที่ไม่มีอาวุธ 2 คนจากด้านหลังจนเสียชีวิต

สื่อต่างประเทศได้รับวิดีโอหลักฐานที่จะถูกนำไปใช้ในการสอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามของทหารรัสเซีย โดยเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจากโชว์รูมขายรถยนต์แห่งหนึ่งย่านชานเมืองเคียฟของยูเครน ขณะทหารรัสเซียยิงพลเรือนที่ไม่มีอาวุธ 2 คนจนเสียชีวิต

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งสองรายนั้นสามารถระบุตัวตนได้ คนแรกคือเจ้าของโชว์รูมขายรถยนต์ ซึ่งครอบครัวไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ อีกคนคือ เลโอนิด โอเลกซีโยวิช แพลตส์ คุณปู่วัย 68 ปีที่ทำงานเป็นยามที่นั่น

“เคอร์ซอน” เรียกร้องขอผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

สหราชอาณาจักรลงนามในข้อตกลงความมั่นคง ปกป้องสวีเดน-ฟินแลนด์

หน.ข่าวกรองสหรัฐฯ เผย รัสเซียเตรียมสู้ยืดเยื้อ-เป้าหมายไม่ใช่แค่ดอนบาส

ยูเลีย ลูกสาวของเลโอนิด กล่าวว่า “พวกเขาเป็นเพชฌฆาต ... มันแย่มาก เพราะพ่อของฉันเป็นพลเรือนธรรมดา เขาอายุ 68 ปี เป็นชายที่ไม่มีอาวุธและรักสงบ”

ภาพจากกล้องวงจรปิดระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 16 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่รัสเซียกำลังพยายามบุกโจมตีกรุงเคียฟเพื่อยึดเมืองหลวงยูเครนให้ได้

วิดีโอมีภาพจากหลายมุมจากกล้องหลายตัวที่อยู่รอบ ๆ โชว์รูม และถึงแม้จะไม่มีเสียง แต่ภาพก็คมชัด แสดงให้เห็นการฆ่าคน 2 คนที่ไม่มีอาวุธ

โดยก่อนเกิดเหตุ ทหารรัสเซีย 5 นายมาถึงโชว์รูม และพยายามบุกเข้าไป โดยยิงปืนใส่กุญแจล็อกและทุบกระจก

เมื่อเจ้าของโชว์รูมเข้าไปใกล้พร้อมยกมือขึ้นเพื่อแสดงท่าทียอมจำนน ทหารรัสเซียก็หยุดและดูเหมือนจะค้นหาอาวุธในตัวเขา จากนั้นเลโอนิดก็มาถึงและถูกค้นตัวด้วย ทั้งสองสนทนากับทหารรัสเซียพักหนึ่ง ก่อนที่ทหารจะหันหลังกลับไป และผู้เสียชีวิตทั้งสองก็เดินกลับไปที่ป้อมยาม จากนั้นทหารรัสเซียอย่างน้อย 2 นายก็หันกลับมาเปิดฉากยิงจนพลเรือนทั้งสองล้มลงกับพื้น

นอกจากการสังหารแล้ว ทหารรัสเซีย 5 นายยังบุกเข้าไปในโชว์รูม รื้อค้นลิ้นชักและโต๊ะทำงาน ชายคนหนึ่งหยิบหมวกจากชั้นวางแล้วนำมาสวมเล่น และมีชาย 2 คนหยิบเครื่องดื่มมาดื่มเหมือนฉลอง

ขณะที่ทหารกำลังบุกค้นโชว์รูม เลโอนิดยังไม่สิ้นใจ เขาพยายามกลับไปที่ป้อมยาม และโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือ ทำให้กองกำลังอาสาสมัคร ซึ่งเป็นกลุ่มพลเรือนยูเครนที่ลุกขึ้นมาจับอาวุธ รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ

กองกำลังอาสาสมัครมาถึงและยิงต่อสู้กับทหารรัสเซีย ขณะที่บางส่วนพยายามจะไปให้ถึงตัวเลโอนิด ซึ่งท้ายที่สุดเลโอนิดก็สิ้นใจ

“พวกเขาต้องได้รับการตัดสินโทษ ... ฉันหวังว่าจะมีศาลระหว่างประเทศ ฉันหวังว่าไม่เพียงแต่ยูเครน แต่คนทั้งโลกจะได้ทราบเกี่ยวกับอาชญากรรมของพวกเขา” ลูกสาวของเลโอนิดกล่าว

อัยการของยูเครนกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวกำลังถูกสอบสวนว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม

นอกจากเคสที่เกิดขึ้นในโชว์รูมแห่งนี้แล้ว อัยการยูเครนยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ เชลยศึกชาวรัสเซียใน 3 คดี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสังหารหรือข่มขืนพลเรือน กำลังจะถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามแล้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนเริ่มขึ้น

อิรินา เวเนดิกโทวา อัยการสูงสุดยูเครน บอกว่า นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้น มีการบันทึกคดีอาชญากรรมสงครามในยูเครนมากกว่า 10,700 คดี

คดีแรก สิบเอก วาดิม ชีซิมาริน หัวหน้าหน่วยรถถังรัสเซียวัย 21 ปี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของยูเครน คาดว่าจะเป็นคนแรกที่ถูกไต่สวนคดีอาชญากรรมสงครามในข้อหาฆาตกรรมพลเรือนยูเครนวัย 62 ปี

มีการกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ชีซิมารินได้ต่อสู้อยู่ในภูมิภาคซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน และได้สังหารพลเรือนคนหนึ่งในหมู่บ้านชูปาคิฟกา เขายังถูกกล่าวหาว่า ขโมยรถร่วมกับทหารอีก 4 นายขณะพยายามหลบหนีกองกำลังยูเครน แล้วระหว่างนั้นได้ยิงชายที่ไม่มีอาวุธที่กำลังขี่จักรยานจนเสียชีวิต

โฆษกสำนักงานใหญ่อัยการยูเครนกล่าวว่า “อัยการและทีมสอบสวนของหน่วยสืบราชการลับยูเครน (SBU) ได้รวบรวมหลักฐานเพียงพอแล้วเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเขาในการละเมิดกฎหมายและประเพณีของสงคราม รวมกับการฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า สำหรับการกระทำเหล่านี้ เขาควรต้องโทษจำคุก 10-15 ปีหรือจำคุกตลอดชีวิต”

คดีที่ 2 ที่จะถูกพิจารณาคดีคือ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ทหารรัสเซีย 2 นาย ที่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ ใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องขนาด 122 มม. ยิงใส่บ้านเรือนและอาคารพลเรือนในหมู่บ้านโคซาชา โลปาน ภูมิภาคคาร์คิฟ และยังถูกกล่าวหาว่าโจมตี “สถาบันการศึกษา” ในเมืองเดอร์กาชิฟ ภูมิภาคคาร์คิฟด้วย

ในคดีสุดท้ายที่อาจจะได้รับการพิจารณาคดีคือ ในเดือน มี.ค. ทหารชื่อ มิคาอิล โรมานอฟ ซึ่งมีรอยสักรูปหมีขนาดใหญ่ที่หน้าอก ถูกกล่าวหาว่า ได้บุกเข้าไปในบ้านแห่งหนึ่งในหมู่บ้านในภูมิภาคโบรวาร์สกี ฆ่าชายเจ้าของบ้าน แล้วข่มขืนภรรยาวัย 33 ปีซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อหน้าลูกชายวัย 4 ขวบของเหยื่อ “โดยข่มขู่เธอและลูกด้วยความรุนแรงและอาวุธ”

ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครสามารถจับตัวโรมานอฟได้ เวเนดิกโทวากล่าวว่า “ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน บางทีเขาอาจจะยังสู้รบอยู่ บางทีเขาอาจตายไปแล้ว เราไม่รู้ แต่เราต้องการดำเนินคดีกับเขา ... เราต้องการแสดงให้อาชญากรเหล่านี้เห็นว่า เราจะหาพวกเขาจนพบ และเราจะป้องกันไม่ให้ใครในพื้นที่อื่น ๆ ต้องเจอเรื่องแบบนี้อีก”

 

เรียบเรียงจาก CNN / The Guardian

ภาพจาก CNN

สรุปเหรียญ ซีเกมส์ 2021 ล่าสุด ประจำวันจันทร์ที่ 23 พ.ค. 65
โปรแกรมซีเกมส์ 2021 ของนักกีฬาไทย ประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ค. 65
โควิดไทย 10 จังหวัดสูงสุด ร้อยเอ็ด 253 ราย ชลบุรี 248 ราย

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ