สหรัฐฯ กลับลำ ส่งขีปนาวุธแบบจำกัดพิสัยให้ยูเครน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

รัสเซียยึดแคว้นลูฮันสก์ได้เกือบสมบูรณ์แล้ว หลังจากเข้าครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองซีเวโรโดเนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดท้ายของแคว้นนี้ได้ เป้าหมายต่อไปของรัสเซียคือ ยึดแคว้นโดเนตสก์ และประกาศชัยชนะอย่างสมบูรณ์ทางภาคตะวันออกของยูเครนในวันที่ยูเครนกำลังเสียเปรียบในสงคราม สหรัฐฯ ออกมาย้ำอีกครั้งว่าจะไม่ส่งขีปนาวุธพิสัยไกลไปให้ยูเครนตามที่ร้องขอ

ตั้งแต่เกิดสงครามขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยูเครนไม่เคยเผชิญกับแรงกดดันเท่านี้มาก่อน รัสเซียกำลังได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆในสงครามเฟส 2 โดยโฟกัสไปที่แนวการสู้รบในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ 2 แคว้นสำคัญคือ โดเนตสก์และลูฮันสก์

เมืองซีเวโรโดเนตสก์ในแคว้นลูฮันสก์คือ ฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพยูเครนที่ต่อต้านรัสเซีย เมืองนี้มีประชากรราว 80,000 คน

รัสเซียจ่อบังคับ "ชาวเมืองเคอร์ซอน" ใช้เงินรูเบิล

รัสเซียกลายเป็นชาติที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุด

รัสเซียล้อมเมืองนี้ไว้นานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว และยังระดมโจมตีอย่างหนักด้วยขีปนาวุธแบบไม่เลือกเป้า เพื่อทำลายล้างทุกจุดแบบราบคาบ กลยุทธ์ดังกล่าวเรียกว่า กลยุทธ์ผลาญภพ

นี่ไม่ใช่วิธีใหม่ รัสเซียเคยใช้วิธีนี้ในเมืองมาริอูปอลทางตอนใต้เมื่อช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดมีรายงานว่า รัสเซียได้โจมตีโรงงานผลิตสารเคมีในเมืองซีเวโรโดเนตสก์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ที่ภูมิภาคดอนบาสอีกครั้ง

โดยเฉพาะที่เมืองซีเวโรโดเนตสก์ว่าวิกฤตและยากลำบากมากสำหรับยูเครน เพราะรัสเซียโจมตีแบบบ้าเลือด

มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียสามารถฝ่าแนวต้านของกองกำลังยูเครนและเข้าไปในเมืองซีเวโรโดเนตสก์ได้แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ขณะที่ทวิตเตอร์ของกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรระบุว่า ตอนนี้ รัสเซียยึดเมืองซีเวโรเดเนตสก์ได้ครึ่งเมืองแล้ว และกองกำลังที่เข้าไป มีกองกำลังของกลุ่มเชเชน ด้วย

ด้านผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ เปิดเผยว่า โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ภายในเมืองซีเวโรเดเนตสก์เกือบทั้งหมดได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตี ส่วนที่อยู่อาศัยของประชาชนกว่าร้อยละ 60 ได้รับความเสียหายหนักเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้หมายความว่า รัสเซียยึดแคว้นลูฮันสก์ได้เกือบสมบูรณ์แล้ว

 รัสเซียเริ่มยึดพื้นที่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้การรุกคืบจะช้า แต่ก็สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนยุทธวิธีการรบของรัสเซียจากการ ‘กระจายกำลังเพื่อยึดพื้นที่’ มาเป็น แผน ‘รวมกำลังแล้วยึดพื้นที่ทีละน้อย’

เป้าหมายต่อไปของรัสเซียคือ การรุกคืบยึดแคว้นโดเนตสก์ให้ได้ และถ้ายึดได้จะเท่ากับว่า รัสเซียมีชัยเหนือยูเครนในแนวรบด้านตะวันออกโดยสมบูรณ์

เมื่อวานนี้ รัสเซียได้โจมตีเมืองสลาเวียนสก์ ในแคว้นโดเนตสก์ด้วยขีปนาวุธ ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 6 ราย

การระดมโจมตีอย่างหนักกินขอบเขตไปถึงแคว้นคาร์คีฟที่อยู่ใกล้ๆกัน ทำให้เด็กและผู้หญิงต้องหนีตาย พวกเขาต้องเดินทางฝ่าอันตรายมายังจุดที่กาชาดสากลรอรับเพื่อพาออกนอกพื้นที่

นี่คือ สัญญาณว่ารัสเซียกำลังขยับเป้าหมายมาเพื่อยึดแคว้นโดเนตสก์ และทำให้ยูเครนต้องออกมาร้องขอให้สหรัฐฯ ส่งอาวุธที่มีศักยภาพสูงเพื่อสกัดรัสเซียไม่ให้ยึดทั้งภูมิภาคได้

โดยสิ่งที่ยูเครนอยากได้มากที่สุดขณะนี้คือ ระบบยิงจรวดต่อเนื่องหลายลูกแบบพิสัยไกลหรือ MLRS เพราะอาวุธที่ยูเครนใช้เป็นหลักในตอนนี้คือ ปืนใหญ่ฮาวอิตเซอร์ 777 ซึ่งมีพิสัยการยิงเพียง 25 กิโลเมตร ไม่เพียงพอในการรับมือกับรัสเซียอีกต่อไป

เมื่อ 2 วันก่อนสำนักข่าว Washigton Post รายงานว่า สหรัฐอาจส่ง MLRS ให้กับยูเครน โดยอาจจะเป็น MLRS รุ่น M270 ซึ่งมีพิสัยการยิงถึง 300 กิโลเมตร

นั่นทำให้รัสเซียออกมาประกาศทันทีว่า หากสหรัฐฯ ส่งอาวุธตัวนี้ให้ยูเครนจริงจะถือว่าเป็นการล้ำเส้นอย่างร้ายแรง และรัสเซียจะตอบโต้ทันที

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จึงออกมาชี้แจงเรื่องนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งระบบยิงขีปนาวุธที่มีพิสัยไกลไปถึงรัสเซียให้กับยูเครน

ล่าสุดวันนี้ แครีน ฌอง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดแถลงข่าว และออกมาย้ำอีกครั้งว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีรัศมีทำการเกินขอบเขตชายแดนของยูเครนให้กับยูเครนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่องการส่งอาวุธ

โดยสหรัฐฯ ประกาศว่าจะส่งระบบยิงจรวดต่อเนื่องหลายลูกแบบพิสัยไกลหรือ MLRS ให้กับยูเครนแล้ว โดยรุ่นที่จะส่งให้ไม่ใช่รุ่น M270 แต่เป็นรุ่น ไฮมาร์ส (Himars)

ไฮมาร์ส หรือ High Mobility Artillery Artillery Rocket System เป็นเครื่องยิงจรวดหลายหัวชนิดลำกล้องเบา ซึ่งมีระยะและความแม่นยำในการโจมตีสูง โดยอาวุธตัวนี้ถูกพัฒนาโดยกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงปี 1970

ไฮมาร์สมีระยะพิสัยที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของหัวรบที่บรรจุ โดยไฮมาร์สสามารถทำพิสัยได้ไกลถึง 300 กิโลเมตรเมื่อใช้ร่วมกับหัวจรวดชนิด ATACMS หรือ Army Tactical Missile System

อย่างไรก็ตาม ระบบที่สหรัฐฯ จะส่งให้ยูเครนจะไม่มีพิสัยทำการไกลขนาดนั้น ตรงกับที่โฆษกทำเนียบขาวระบุไว้คือ จะไม่ส่งขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีรัศมีทำการเกินขอบเขตชายแดนของยูเครน ให้อย่างแน่นอน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ระบบยิงขีปนาวุธไฮมาร์สที่สหรัฐจะส่งให้ยูเครนมีพิสัยการยิงประมาณ 50 ไมล์ หรือราว 80 กิโลเมตรเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ยูเครนใช้ยิงโจมตีเข้าแผ่นดินรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลให้สงครามลุกลามบานปลาย

แต่ถึงจะยิงได้ไกลแค่ 80 กิโลเมตรก็ดีกว่าฮาวอิตเซอร์ที่ยูเครนใช้อยู่ ซึ่งยิงได้ไกล 25 กิโลเมตร

ต้องรอดูว่า ไฮมาร์สจะเปลี่ยนเกมสงครามในดอนบาสได้หรือไม่ เหมือนกับที่ปืนใหญ่ฮาวอิตเซอร์-777 เคยเปลี่ยนเกมทำให้ยูเครนกลับมาได้เปรียบในสมรภูมิคาร์คีฟมาแล้ว

Bottom-AllStar2 Bottom-AllStar2

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ