นั่นเป็นเพราะว่า ยูเครนคือประเทศที่ผลิตและส่งออกอาหารรายสำคัญอันดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะอาหารหลักอย่างข้าวสาลี
ในสภาวะสงคราม เกษตรกรยูเครนยังพยายามเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ปลูกไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดสงคราม และเก็บเกี่ยวผลผลิตเหล่านั้นได้ไม่น้อยกว่าช่วงเวลาปกติ
แต่ปัญหาก็คือ ยูเครนไม่สามารถส่งออกผลผลิตนั้นได้ เนื่องจากท่าเรือในเมืองโอเดสซ่าที่ตั้งอยู่บนทะเลดำถูกกองเรือของรัสเซียปิดล้อมเอาไว้
"เยอรมนี" เตรียมส่งขีปนาวุธประสิทธิภาพสูงให้ยูเครนเพิ่ม
ยูเครน ผนึกกำลังสู้สุดใจ งัดกลยุทธ์ตอบโต้รัสเซียทุกวิถีทาง
ผลผลิตจากยูเครนที่ขาดหายไปกำลังกระทบกับความมั่นคงทางอาหารของโลก แต่ล่าสุดมีรายงานว่า กองทัพเรือของรัสเซียในทะเลดำเริ่มถอยห่างออกจากท่าเรือของเมืองโอเดสซาแล้วหลังจากถูกยูเครนระดมโจมตีด้วยจรวดและโดรน
กองทัพเรือของยูเครนเปิดเผยว่า กองเรือของรัสเซียในทะเลดำ เริ่มล่าถอยออกจากชายฝั่งของยูเครนแล้ว โดยขณะนี้อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 100 กิโลเมตร
หลังจากยูเครนระดมโจมตีด้วยจรวดและโดรนเพื่อยึดพื้นที่ในทะเลดำฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือกลับคืนมา ทะเลดำเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญของการทำสงครามของรัสเซียในครั้งนี้
โดยทะเลดำตั้งอยู่ใจกลางระหว่างประเทศบัลแกเรีย โรมาเนีย ยูเครน รัสเซีย จอร์เจียและตุรเคีย ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลสำคัญของโลกอย่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ที่นี่เป็นศูนย์กลางการท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก เพราะเป็นที่ตั้งของท่าเรือกว่า 30 แห่ง เป็นท่าเรือน้ำอุ่นที่สามารถเดินเรือได้ตลอดทั้งปี
แม้ว่ารัสเซียจะมีพื้นที่ติดกับทะเลดำ แต่บริเวณดังกล่าวไม่มีท่าเรือน้ำอุ่น หากรัสเซียต้องการเดินเรือไปยังทะเลอื่นต้องใช้ทางออกแถบขั้วโลกเหนือที่เรียกว่าอาร์ติกเซอร์เคิลซึ่งเป็นทะเลน้ำแข็ง ซึ่งไม่สะดวกและค่าใช้จ่ายสูง
ที่ผ่านมารัสเซียจึงอยากครอบครองท่าเรือที่อยู่ในทะเลน้ำอุ่น และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัสเซียเข้าผนวกไครเมียเมื่อปี 2014
นอกเหนือจากเหตุผลด้านเศรษฐกิจและการค้าแล้ว การขยายอิทธิพลในทะเลดำของรัสเซียเป็นเรื่องทางการทหารด้วย
เนื่องจากนาโตได้เข้ามาตั้งสาธารณูปโภคทางทหารในบริเวณทะเลดำ เช่นการตั้งฐานทัพในประเทศโรมาเนีย
ก่อนหน้าการเปิดฉากสงครามกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียขนเรือจำนวนมากมาประจำการบนทะเลดำ เพื่อใช้เป็นฐานในการโจมตียูเครนจากทางใต้ โดยกองเรือของรัสเซียในทะเลดำนำโดยเรือธงที่ชื่อ มอสคาวา แต่เรือลำดังกล่าวถูกขีปนาวุธของยูเครนทำลายไปเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามกองเรือของรัสเซียยังไม่ถอนตัวจากที่นั่น มีรายงานว่าขณะนี้ยังมีเรือของรัสเซียอีกกว่า 60 ลำประจำการบนทะเลดำ
โดยกองเรือนี้มีตั้งแต่เรือฟริเกต เรือทำลายทุ่นระเบิด เรือยกพล จนถึงเรือดำน้ำรุ่นไคโลโปรเจค 636.3 ที่มีอยู่ 6 ลำ
นอกจากใช้เป็นฐานการโจมตีเมืองชายฝั่งทะเลดำของยูเครนแล้ว กองเรือเหล่านี้ยังถูกใช้เพื่อปิดกั้นเส้นทางการขนส่งสินค้าทางการเกษตรออกจากท่าเรือเมืองโอเดสซาของยูเครนด้วย
โดยปกติ ยูเครนส่งออกสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวสาลีและธัญพืชผ่านทางทะเลดำประมาณ 5 ล้านตันต่อเดือน
สหประชาชาติคาดการณ์กันว่าขณะนี้มีสินค้าทางการเกษตรกว่า 20 ล้านตันติดค้างอยู่ที่ท่าเรือต่างๆในยูเครน ที่ผ่านมามีความพยายามขนส่งสินค้าเหล่านี้ทางบก เช่น ทางรถหรือทางรถไฟผ่านไปทางประเทศโรมาเนีย แต่ก็เต็มไปด้วยอุปสรรคจากการสู้รบและที่สำคัญมีค่าใช้จ่ายสูง
ทั้งนี้ที่ผ่านมาสินค้าทางการเกษตรกว่าร้อยละ 90 ของยูเครนใช้การขนส่งทางเรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังสั่นคลอนความมั่นคงอาหารโลก คนจำนวนมากโดยเฉพาะประเทศยากจนกำลังจะอดตาย
เมื่อวานนี้ ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปได้ประกาศว่า รัสเซียกำลังใช้เรื่องของอาหารเป็นอาวุธในการประหัตประหารผู้บริสุทธิ์ อีกคนที่ออกมาพูดคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
โดยเขาระบุว่า รัสเซียกำลังใช้อาหารเป็นอาวุธด้วยการปิดไม่ให้ยูเครนส่งออก มีหลักฐานชัดเจนด้วยว่า รัสเซียได้ยึดพื้นที่การเกษตรของยูเครน รวมไปถึงการขโมยผลผลิตของยูเครนกลับประเทศเพื่อนำไปขายต่อด้วย
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของรัสเซียเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้ เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้กล่าวในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียว่า ท่าเรือในเมืองมาริอูปอลและเมืองเบอร์เดียนสก์พร้อมที่จะใช้ส่งผลผลิตทางการเกษตรได้แล้ว
ที่ผ่านมามีความพยายามเจรจาให้รัสเซียเปิดทางในทะเลดำให้ยูเครนส่งออกสินค้าได้ โดยตัวกลางในการพูดคุยคือตุรเคีย เพราะอะไร ทำไมต้องตุรเคียในบรรดาประเทศที่ติดกับทะเลดำ
ตุรเคียน่าจะได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สุด เพราะจุดยุทธศาสตร์สำคัญคือ ช่องแคบบอสฟอรัส และช่องแคบดาร์ดาเนล ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมทะเลดำเข้ากับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอยู่ในความครอบครองของตุรเคีย
ภายใต้อนุสัญญามองเทอรซ์ปี 1936 ตุรเคียมีอำนาจในการควบคุมเรือที่จะผ่านเข้าออกทะเลดำผ่านทางสองช่องแคบนี้
อย่างไรก็ตาม การเจรจาให้รัสเซียเปิดทางในทะเลดำดูเหมือนจะไม่ได้ผล และสิ่งที่ยูเครนพยายามทำตอนนี้คือการยิงขีปนาวุธเข้าใส่เพื่อให้กองเรือรัสเซียถอยห่างออกไปและนี่คืออีกหนึ่งในเหตุผลที่ยูเครนต้องการระบบยิงขีปนาวุธในระยะที่ไกลขึ้น