นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ Russia today ของรัสเซียว่า ขณะนี้ปฎิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน ไม่ได้มุ่งเป้าเพียงแค่พื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนอีกต่อไป พร้อมระบุว่า เป้าหมายทางการทหารล่าสุดของรัสเซียอยู่ที่พื้นที่ทางตอนใต้ ภูมิภาคเคอร์ซอนเคอร์ซอน และซาปอริซเซีย (Zaporizhzhya) ซึ่งเวลานี้กองทัพรัสเซียได้ครอบครองดินแดนส่วนหนึ่งของทั้งสองภูมิภาคเอาไว้ได้แล้ว
"เยอรมนี" เตรียมส่งขีปนาวุธประสิทธิภาพสูงให้ยูเครนเพิ่ม
เซเลนสกี ปลด จนท.ระดับสูง หลังพบช่วยเหลือรัสเซีย | 18 ก.ค.65 | รอบโลก DAILY
ทั้งนี้นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟระบุว่า ยุทธศาสตร์ของรัสเซียเปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่ชาติตะวันตกได้ส่งมอบอาวุธพิสัยไกลให้กับยูเครน ทำให้รัสเซียจะต้องผลักดันกองกำลังยูเครนให้ออกไปจากพื้นที่แนวหน้ามากขึ้น เพื่อรับประกันความมั่นคงของรัสเซีย
นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังกล่าวหาว่า ชาติตะวันตกกำลังให้การสนับสนุนยูเครน เพื่อขยายความเป็นปรปักษ์ต่อรัสเซีย ซึ่งการกระทำของชาติตะวันตกถือความโกรธแค้น และอยากให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง โดยอาวุธพิสัยไกล ซึ่งชาติตะวันตกจัดหาให้ยูเครน จะทำให้การปฎิบัติการทางภูมิศาสตร์ของรัสเซียต้องขยายวงออกไปไกลกว่าเส้นที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน
ทั้งนี้นายเซอร์เกย์ยังพูดถึงเรื่องการเจรจาสันติภาพด้วย โดยบอกว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย และยูเครนเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลแล้วในตอนนี้ พร้อมชี้ว่า ช่วงที่รัสเซียและยูเครนได้หารือกันถึงข้อตกลงที่มีความเป็นไปได้เกี่ยวกับการยุติการต่อสู้ในเดือนมีนาคม โดยความพร้อมของรัสเซียที่จะยอมรับข้อเสนอของยูเครนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเดือนนั้น แต่ขณะนี้พื้นที่ทางภูมิศาสตร์แตกต่างออกไปแล้ว
ความเคลื่อนไหวของรัสเซียมีขึ้น หลังจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยรายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ระบุว่า รัสเซียกำลังวางแผนผนวกดินแดนอื่น ๆ ของยูเครนโดยใช้วิธีเดียวกับที่เคยใช้ตอนผนวกคาบสมุทรไครเมียเมื่อปี 2014 พร้อมระบุอีกว่าเวลานี้ีรัสเซียได้เริ่มแต่งตั้งและประจำการเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสายโปรรัสเซียในพื้นที่ต่าง ๆ ที่กองทัพรัสเซียยึดครองได้แล้ว และคาดว่าจะมีการใช้อำนาจเพื่อเปิดการทำประชามติผนวกดินแดนต่าง ๆ ของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งการทำประชามติอาจจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดในเดือนกันยายน หรืออีกสองเดือนข้างหน้า
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางฝั่งชาติตะวันตก หลังการประชุมออนไลน์กับ 50 ประเทศในกลุ่มของกระทรวงกลาโหมยูเครน เสร็จสิ้น ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงข่าว โดยพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ไม่ได้สร้างความแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะที่ผ่านมาสหรัฐฯพูดมาโดยตลอดว่าวัตถุประสงค์ของประธานาธิบดีปูตินคืออะไร แต่ชาวรัสเซียต่างหากที่ต้องประหลาดใจ ที่ถูกประธานาธิบดีปูตินโกหกมาโดยตลอด
ส่วนสถานการณ์ในยูเครน เวลานี้มีรายงานว่ารัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครน รวมถึงภูมิภาคเคอร์ซอนและเมืองซาปอริซเซียทางตอนใต้เอาไว้ได้แล้ว และยังรุกคืบเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ โดย พลเอกมาร์ค มิลลีย์( Mark Milley) ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ ยังยืนยันว่าเวลานี้ในภูมิภาคดอนบาสยังไม่พ่ายแพ้ต่อกองทัพรัสเซีย
นอกจากนี้ พลเอกมาร์ค มิลลีย์ แถลงการณ์ว่า ยูเครนใช้ระบบจรวดปืนใหญ่โจมตีฐานบัญชาการและควบคุมของรัสเซีย และเครือข่ายการขนส่งต่างๆ ซึ่งการโจมตีเหล่านี้ทำให้ความสามารถทางทหารของรัสเซียลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้สหรัฐฯและชาติพันธมิตรได้ส่งระบบยิงจรวด HIMARS 12 เครื่องให้กับยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน 20 รายการที่ชาติตะวันตกได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งไปช่วยเหลือยูเครน รวมถึงฝึกฝนการใช้ระบบยิงจรวดให้กับกองทัพยูเครนอีก 200 นายด้วย
