แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจัดการแถลงข่าวร่วมกับสมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตอีก 4 คน ที่ร่วมเดินทางเยือนเอเชียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพโลซี ย้ำว่าการเยือนไต้หวันของเธอและคณะมีจุดประสงค์เพื่อแสดงถึงมิตรภาพและแสดงให้เห็นว่าจีนไม่สามารถโดดเดี่ยวไต้หวันได้
"เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์กับไต้หวัน เราจะไม่ปล่อยให้จีนโดดเดี่ยวไต้หวัน พวกเขาขัดขวางไม่ให้ไต้หวันเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก และความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่ไต้หวันสามารถสร้างประโยชน์ได้"
"ค่าเงินแข็ง" เปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.35 บาทต่อดอลลาร์
จีนกร้าวจะไม่ทนต่อ "กิจกรรมแบ่งแยกดินแดน" ในไต้หวัน
"จีนอาจขัดขวางไต้หวันได้ แต่พวกเขาไม่สามารถขัดขวางเราไม่ให้ไปไต้หวันได้ เราจะไม่ปล่อยให้จีนทำแบบนี้ได้"
นอกจากนี้ เพโลซี ยังพูดถึงการที่จีนจัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงเป็นเวลาหลายวันเพื่อตอบโต้การเยือนไต้หวันของเธอ โดยเพโลซี ระบุว่าว่าจีนกำลังพยายามทำให้การเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวันเป็นสิ่งปกติใหม่ หรือ นิวนอร์มัล ซึ่งสหรัฐต้องไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ขณะที่ นาย หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เตือนประเทศต่างๆ ควรระมัดระวังแนวโน้มอันตราย 3 ประการ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการ์ใช่วงแคบไต้หวัน
แนวโน้มแรกคือการที่สหรัฐและช่ติพันธมิตรอาจเติมเชื้อไฟความขัดแย้งด้วยการยกระดับความเคลื่อนไหวทางทหารในภูมิภาคและพยายามก่อวิกฤตที่เลวร้ายกว่าเดิม
แนวโน้มที่ 2 คือ กองกำลังที่ต่อสู้เพื่อเอกราชไต้หวันอาจประเมินสถานการณ์ รวมทั้งศักยภาพของตัวเองผิดพลาด ทำให้ตัดสินใจเลือกหนทางผิดๆ ด้วยการเดินหน้าแยกตัวเป็นประเทศเอกราช และแนวโน้มที่ 3 คือ นักการเมืองของบางประเทศ ที่ต้องการหาผลประโยชน์ทางการเมืองด้วยการเดินทางเยือนไต้หวันเหมือนกับ เพโลซี ซึ่ง หวัง อี้ เตือนว่าการกระทำแบบนี้จะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์กับจีน และ ทำลายกฎบัตรสหประชาชาติอย่างร้ายแรง
ขณะที่ กองบัญชาการภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ออกแถลงการณ์ระบุว่า "ปฏิบัติการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบเกาะไต้หวันของกองทัพ ได้เสร็จสิ้นลงด้วยความสำเร็จ โดยสามารถทดสอบสมรรถนะในการรบของทางกองทัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ดี กองบัญชาการภาคตะวันออกของจีนย้ำว่าจะยังคงเฝ้าจับตาการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันต่อไป และจะยังคงทำการฝึกซ้อมและเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ รวมทั้งทำการลาดตระเวนอย่างเป็นประจำเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสู้รบในช่องแคบไต้หวันเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน"
ส่วนสำนักงานกิจการไต้หวันในจีนระบุว่า พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวัน ที่นำโดยประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ต้องเปลี่ยนแนวทางเพื่อลดความตึงเครียด
โดยแถลงการณ์ดังกล่าวนับเป็นสมุดปกขาวฉบับแรกที่ตีพิมพ์นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนขึ้นสู่อำนาจ โดยรายงานระบุว่า ประธานาธิบดี ไช่ทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นด้วยการปฏิเสธที่จะยอมรับว่าทั้งสองฝ่ายอยู่ภายใต้หลักการ “จีนเดียว”
รายงานดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่จีนทำการซ้อมรบอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนรอบเกาะไต้หวัน หลังจากที่นางเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งรวมถึงแนวโน้มที่จะทำการยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวัน สมุดปกขาวยืนยันว่า จีนไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังในการรวมชาติ โดยเป็นการย้ำจุดยืนที่ยาวนานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่พร้อมใช้ทุกทางเลทอกที่จำเป็น
ส่วนเมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการซ้อมรบเพื่อต่อต้านการรุกรานจากกองทัพจีน ซึ่งจัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงรอบๆเกาะไต้หวันเช่นกัน
โดยคลิปดังกล่าวแสดงภาพของเรือรบจากทั้งไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ที่แล่นเข้าหากันในระยะประชิดในช่องแคบไต้หวัน โดยเรือรบของจีนมีทั้งเรือฟริเกต “อานหยาง” และเรือ “หม่าอานซาน”
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่ากองทัพจีนกำลังจำลองสถานการณ์การใช้เรือรบ เครื่องบิน และ โดรน ในปฏิบัติการโจมตีไต้หวัน ขณะที่แหล่งข่าวซึ่งใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่าการพิจารณายกเลิกมาตรการกำแพงภาษีสินค้าจีนเปิดเผยว่าการซ้อมรบของกองทัพจีนในพื้นที่รอบๆไต้หวัน
ทำให้รัฐบาลของ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปลี่ยนความคิดที่จะยกเลิกกำแพงภาษีสินค้าจีนบางรายการ โดยรัฐบาลสหรัฐฯจะยังไม่ตัดสินใจเรื่องดังกล่าวในเวลานี้ แม้คณะทำงานของไบเดนกำลังพยายามหาวิธีลดค่าครองชีพของประชาชน ซี่งหนึ่งในวิธีแก้ไขที่มีการนำเสนอคือยกเลิกการใช้กำแพงภาษีสินค้าจีนบางส่วน ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ดอน เผย“อดีตปธน.ศรีลังกา”อยู่ไทยได้ไม่เกิน 90 วันหากไม่สร้างปัญหา