นาโต เชื่อ รัสเซียจะใช้ผลประชามติควบ 4 ดินแดนยูเครน เป็นข้ออ้างยกระดับต่สู้

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นาโต เชื่อ รัสเซียจะใช้ผลประชามติควบรวม 4 ดินแดนยูเครน เป็นข้ออ้างฝนการการยกระดับการต่อสู้ "โวลดิเมียร์ เซเลนสกี" ผู้นำยูเครน มั่นใจนานาชาติ จะไม่ให้การยอมรับประชามติ

4 ดินแดนของยูเครน ประกอบด้วย ลูฮันสก์กับโดเนตสก์ในดอนบาส  ทางภาคตะวันออก  และเคอร์ซอนกับซาโปริซเซีย ทางภาคใต้  เริ่มจัดการการลงคะแนนเสียงประชามติเข้าร่วมเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย เมื่อวานนี้ (23 ก.ย. 65) ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้พูดถึงเรื่องนี้ และการเกณฑ์ผู้คนในดินแดนที่รัสเซียยึดครองไว้ไปร่วมรบกับกองทัพรัสเซีย โดยระบุว่า นอกจากจะเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายของยูเครนแล้ว ยังเป็นอาชญากรรมต่อชาติ และต่อกลุ่มคน

ยูเอ็นค้านดินแดนยูเครน โหวตผนวกร่วมรัสเซีย

มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่รัสเซียจะยิง “นิวเคลียร์” ใส่ยูเครน?

เริ่มแล้ว! การลงประชามติขอผนวกดินแดนเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

เซเลนสกี ยืนยันว่า การจัดประชามติเหล่านี้เป็นเพียงแค่การจัดฉาก รวมทั้งแสดงความมั่นใจว่านานาชาติจะไม่ให้การยอมรับ และจะประณามความเคลื่อนไหวครั้งนี้

นอกจากนี้ การจัดประชามติที่เกิดขึ้นยังสร้างความกังวลให้กับพันธมิตรตะวันตก โดย เยน สโตเลนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เชื่อว่ารัสเซียจะใช้ดินแดนแหล่านี้สร้างความชอบธรรมในการเดินหน้าโจมตียูเครนต่อไป โดยใช้เป็นข้ออ้างในเรื่องการปกป้องพื้นที่ที่รัสเซียเป็นเจ้าของ สโตเลนเบิร์ก ยังย้ำว่าวิธีการที่ดีที่สุดในการยุติสงครามคือการเสริมศักยภาพการสู้รบให้ยูเครนไปจนกว่ารัสเซียจะยอมรับการเจรจาด้วยเงื่อนไขที่ยูเครนสามารถยอมรับได้ และไม่ส่งผลต่ออธิปไตยและความเป็นประเทศอิสระของยูเครน

ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากทางการยูเครนว่าการออกเสียงประชามติในทั้ง 4 ดินแดนที่รัสเซียยึดครองอยู่ ได้มีทหารติดอาวุธถูกส่งไปตามบ้านเรือนของประชาชนเพื่อเก็บบัตรลงคะแนน โดยที่เมืองเคอร์ซอน ได้มีทหารรัสเซียไปประจำการที่หีบบัตรเลือกตั้งบริเวณกลางเมืองเพื่อทำหน้าที่รวบรวมบัตรลงคะแนนเสียง

ขณะที่คณะกรรมการตรวจสอบอิสระระหว่างประเทศของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า มีหลักฐานที่สามารถยืนยันถึงอาชญากรรมสงครามที่ก่อขึ้นโดยทหารรัสเซียระหว่างการสู้รบในยูเครน และได้นำรายงานเรื่องนี้เสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติแล้วเมื่อวานนี้

โดยเอริก มอส หัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบ กล่าวว่า การโจมตีด้วยระเบิดของรัสเซียทำให้มีประชาชนยูเครนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุดตามที่สหประชาชาติได้ทำสถิติไว้ และว่า คณะกรรมการชุดนี้พบการสังหารประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ 16 เมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เดินทางไปตรวจสอบ มอส ระบุว่า ผู้เสียชีวิตมีลักษณะคล้ายกัน เริ่มจากการถูกควบคุมตัวไว้และมีร่องรอยการถูกประหารชีวิต เช่น ถูกมัดมือไพล่หลัง ถูกยิงที่ศีรษะ และถูกปาดคอ เป็นต้น

ขณะเดียวกันยังมีการสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มากกว่า 150 คน ซึ่งทั้งหมดให้การตรงกันเกี่ยวกับการถูกทหารรัสเซียละเมิดและทำทรมาน บางคนเปิดเผยว่าถูกส่งตัวไปยังเรือนจำในรัสเซียและถูกทุบตี ช็อตด้วยไฟฟ้า และการทรมานด้วยวิธีต่าง ๆ

นอกจากนี้ พบว่าผู้ที่ถูกทหารรัสเซียล่วงละเมิดทางเพศนั้นมีอายุตั้งแต่ 4 ขวบ จนถึง 82 ปี ซึ่งมีหลักฐานว่าเด็กจำนวนมากถูกข่มขืน ทรมาน และถูกจับตัวไว้ อีกทั้งยังมีเด็กหลายคนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยระเบิด ส่วน เจ้าหน้าที่การทูตของกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ขอให้มีการจัดตั้งคณะอนุญาโตตุลาการพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่ตัดสินคดีการก่ออาชญากรรมต่อชาวยูเครนในครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่ารัสเซียต้องถูกลงโทษจากสิ่งที่เกิดขึ้น

สำหรับความคืบหน้าการระดมกำลังสำรองรัสเซีย 300,000 นายเพื่อสนับสนุนการสู้รบในยูเครน โดยเมื่อวานนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศ ให้นายจ้างรวบรวมรายชื่อพนักงานที่เข้าเกณฑ์ถูกเรียกตัวไปเป็นกำลังพลสำรองและส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ ตามคำสั่งของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ที่ต้องการระดมกำลังพลสำรองเพื่อไปร่วมสงครามในยูเครน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมระบุในวันพุธว่า มีบางอาชีพจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกเรียกตัวไปเป็นกำลังสำรอง ได้แก่ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อาชีพเกี่ยวกับระบบการเงิน และนักข่าวที่ทำงานให้กับสื่อของรัฐบาล คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้เกิดการประท้วงตามเมืองใหญ่หลายแห่งในรัสเซีย รวมถึงที่กรุงมอสโก และนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีผู้ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 1,400  คน ขณะที่ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ชายต่างพอกันเดินทางออกจากประเทศทั้งทางอากาศและทางบกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน รัฐบาลเยอรมนีเปิดเผยว่าจะเสนอความคุ้มครองให้กับชาวรัสเซียที่หนีการระดมพลของรัฐบาลรัสเซีย แต่จะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป แต่หลายประเทศในยุโรป ซึ่งรวมถึงประเทศที่อยู่ติดกับรัสเซีย อันได้แก่ ประเทศในแถบทะเลบอลติกและฟินแลนด์ กำลังดำเนินการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของประชาชนชาวรัสเซียอยู่

อย่างไรก็ตามการเดินทางทางอากาศนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งตั้งแต่รัสเซียส่งกองทัพบุกยูเครนตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากหลายประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือสั่งห้ามสายการบินของรัสเซียบินเข้าเขตน่านฟ้าตน

ขณะที่ เที่ยวบินไปยังประเทศที่ชาวรัสเซียไม่ต้องใช้วีซ่า เช่น ตุรกี เซอร์เบีย และเมืองดูไบของสหรัฐฯอาหรับเอมิรเตส์  มีรายงานข่าวว่า ขายหมดทุกที่นั่งตั้งแต่วันพฤหัสบดีแล้ว

 

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ