ระหว่างการประชุมของสภาความมั่นคงรัสเซียเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ยืนยัน ว่าการยิงขีปนาวุธโจมตีหลายพื้นที่ของยูเครนเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะกรุงเคียฟเป็นการตอบโต้เหตุโจมตีด้วยการระเบิดรถบรรทุกบนสะพาน “เคียร์ช” ที่เชื่อมต่อระหว่างคาบสมุทรไครเมียเข้ากับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย
โดยประธานาธิบดี ปูติน เตือนว่า หากเกิดการก่อวินาศกรรมจากฝ่ายยูเครนอีก รัสเซียจะดำเนินการตอบโต้ด้วยความรุนแรงในระดับที่เทียบเท่ากับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นกับรัสเซีย
ยกระดับความตึงเครียด! รัสเซีย-เบลารุสสนธิกำลัง จัดทัพร่วมสู้ยูเครน
"ปูติน" ชี้ ยูเครนอยู่เบื้องหลัง ก่อการร้ายถล่มสะพานไครเมีย
ขณะที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้ประณามรัสเซียและแสดงความเสียใจต่อชาวยูเครนที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่รัสเซียระดมยิงขีปนาวุธถล่มหลายพื้นที่ของยูเครน
โดยทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดี ไบเดน ได้ให้สัญญากับ ประธานาธิบดีเซเลนสกีว่าสหรัฐฯ จะมอบอาวุธที่ยูเครนจำเป็นต้องใช้สำหรับการสู้รบ รวมทั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัยให้แก่ยูเครน และ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี ไบเดน ยังยืนยันว่าสหรัฐและชาติพันธมิตร จะดำเนินมาตรการตอบโต้รัสเซียต่อไปเพื่อลงโทษการก่ออาชญกรรมสงครามและการกระทำผิดต่างๆ
ขณะที่ ประธานาธิบดี เซเลนสกี ระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับความร่วมมือกับสหรัฐฯในการป้องกันประเทศ พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯใช้บทบาทความเป็นผู้นำกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรม หรือ G7 ในการใช้มาตรการที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อรัสเซีย
รัสเซียใช้ขีปนาวุธทั้งหมด 84 ลูกยิงใส่เรา ระบบป้องกันภัยทางอากาศสกัดมันได้ 43 ลูก โดรนที่รัสเซียส่งมา 24 ลำ ถูกยิงตก 13 ลำ และหลังจากการโจมตีระลอกแรก ผมได้รับรายงานเกี่ยวกับการส่งโดรนพลีชีพ "Shahed" ของอิหร่าน เข้ามาโจมตีเราทุก ๆ 10 นาทีเขาบอกอีกว่า "ไม่มีใครจะมาข่มขู่ยูเครนได้ ตรงกันข้ามเราจะเป็นปึกแผ่นมากขึ้น รัสเซียไม่สามารถหยุดยูเครนได้ การก่อการร้ายเช่นนี้ทำให้เรามั่นใจว่ารัสเซียจะต้องถูกกำราบ ในตอนนี้ผู้รุกรานไม่สามารถเอาชัยในสนามรบได้แล้ว นั่นคือสาเหตุให้พวกเขาหันไปใช้การสร้างความหวาดกลัวแทน"
โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่าเหตุรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีหลายเมืองของยูเครนเมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน ขณะที่ นายกรัฐมนตรี เดนิส ชมิฮาล (Denys Shmyhal) ของยูเครน เปิดเผยว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นทำให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 11 แห่ง ในภูมิภาคทั่วยูเครนได้รับความเสียหาย โดย ชมิฮาล ระบุว่าเป้าหมายของรัสเซียคือต้องการทำให้ชาวยูเครนหวาดกลัว และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ยืนยันว่าจะไม่ทำลายยูเครนได้
ส่วน คิรีโล ทิโมเชนโก (Kyrylo Tymoshenko) รองผู้อำนวยการสำนักประธานาธิบดียูเครนได้โพสต์คลิปวิดีโอขอร้องประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าให้น้อยลงในช่วงเวลาระหว่าง 17.00 น ถึง 22.00 น. เนื่องจากสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายพลังงานได้รับความเสียหายจากขีปนาวุธรัสเซีย
ขณะที่ในวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย ที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติจะลงมติเกี่ยวกับการที่รัสเซียผนวกดินแดนยูเครน 4 แห่งเป็นของตัวเอง ซึ่งประกอบไปด้วย โดเน็ตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริสเซีย และ เคอร์ซอน ซึ่งก่อนการประชุม ผู้นำหลายประเทศโดยเฉพาะในทวีปยุโรปได้ประณามรัสเซียจากเหตุยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในยูเครน
โดยนาย อันโตนิโอ กูเตียเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้เป็นการยกระดับความรุนแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้และเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำว่าพลเรือนคือฝ่ายที่สูญเสียมากที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียส่งกำลังทหารรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา