ก่อนหน้านี้ อี แจ-ยอง เคยถูกศาลเกาหลีใต้ตัดสินเมื่อปี 2017 ว่ามีความผิดฐานติดสินบนนักการเมือง และความผิดฐานยักยอกเงิน ตลอดจนการปกปิดข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงิน เป็นเหตุให้เขาได้รับโทษจำคุกอย่างน้อย 2 ครั้ง ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกรณีพิเศษเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว รายงานข่าวระบุว่า บอร์ดบริหารของซัมซุง แสดงความเชื่อมั่นว่า อี แจ-ยอง มีความเหมาะสมที่จะก้าวขึ้นมานำพาบริษัทก้าวข้ามสภาพแวดล้อมอันผันผวน
“อีลอน มัสก์” คุม “ทวิตเตอร์” ปุ๊บ เชิญผู้บริหารชุดเก่าออกปั๊บ
"สาลิกา"เตรียมทุ่มค่าเหนื่อยรั้ง "กิมาไรส์"
การประกาศแต่งตั้ง อี แจ-ยอง ให้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ อี คุน-ฮี บิดาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อปี 2020 และส่งผลให้ อี แจ ยอง กลายเป็นประธานบริหารของกลุ่มบริษัทซัมซุง กรุ๊ป คนแรกในรอบกว่า 3 ปี
เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อี ได้รับการปล่อยตัวเป็นกรณีพิเศษจากประธานาธิบดี มูน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ในขณะนั้น และอีถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ หลังจากเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำเป็นเวลา 207 วัน ขณะที่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี ยุน ซ็อก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้คนปัจจุบัน ได้ลงนามในเอกสารอภัยโทษ โดยให้เหตุผลว่า อี แจ - ยอง เป็นบุคคลที่สามารถสร้างคุณูปการทางด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล และสมควรได้รับ “โอกาสที่สอง’ ถึงแม้คดีความทางกฏหมายของเขา จะมีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 8,600 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 228 ล้านบาท
การก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานบริหารกลุ่มบริษัทซัมซุง ของอี แจ-ยองในครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายของบริษัท ที่มีผลกำไร ลดฮวบต่ำลงไปมากถึงร้อยละ 31 ในไตรมาสที่สาม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ อี ได้ออกมากล่าวยอมรับผิดพร้อมกับขอโทษต่อบรรดาบอร์ดบริหารของซัมซุงกรุ๊ป ที่เรื่องอื้อฉาวของเขาทำให้บริษัทต้องเสื่อมเสียและได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา