ผู้นำตุรกี โทรหา “ปูติน” เปิดเส้นทางขนส่งทะเลดำอีกครั้ง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นอกจากเกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธที่คาดว่าจะเป็นชนิดข้ามทวีป (ICBM) แล้ว เกาหลีเหนืออาจเข้าไปมีส่วนพัวพันกับสงครามการรุกรานยูเครนที่ยืดเยื้อยาวนานมากว่า 9 เดือน และอาจทำให้สงครามครั้งนี้มีความสลับซับซ้อนขึ้นไปอีก หลังจากที่สหรัฐฯ ออกมาแฉว่าเกาหลีเหนือส่งอาวุธให้รัสเซีย เพื่อไว้ใช้ในการโจมตีทางอากาศใส่ยูเครน

วันนี้ 3 พ.ย. เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางสหรัฐฯ มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือกำลังส่งอาวุธไปให้แก่รัสเซีย โดยอาวุธที่ส่งไปนั้นเป็นกระสุนปืนใหญ่จำนวนมาก

ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ระบุเพิ่มเติมว่า เกาหลีเหนือจะต้องได้รับโทษจากการส่งอาวุธเช่นเดียวกับอิหร่าน และตอนนี้สหรัฐฯ กำลังพิจารณาวิธีการในการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับเกาหลีเหนือรอบใหม่อยู่

สื่อสหรัฐฯอ้างผู้นำรัสเซียหารือใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสมรภูมิยูเครน

มหาเศรษฐีรัสเซียสละสัญชาติ ลั่น “ไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับประเทศนี้”

ขณะที่มีข่าวลือออกมาอย่างหนาหูในช่วงนี้ว่าบรรดาชาติพันธมิตรของรัสเซียไม่ว่าจะเป็นอิหร่านหรือเกาหลีเหนือ กำลังเตรียมจัดส่งอาวุธให้รัสเซีย ทางฝั่งรัสเซียเองก็ยังคงโจมตียูเครนทางอากาศอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดทางฝั่งยูเครนออกมาเปิดเผยว่า รัสเซียเริ่มโจมตีในพื้นที่ทางภาคใต้ยูเครน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือขนส่งธัญพืช

คนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้คือ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน โดยระบุว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธร่อนจากเกาะงู และขีปนาวุธลูกดังกล่าวได้แล่นผ่านเหนือน่านฟ้าตรงบริเวณที่เป็นเส้นทางขนส่งธัญพืช

นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังได้ตำหนิรัสเซียว่า พฤติกรรมของรัสเซียเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นด้านสินค้าเกษตร เพราะทุกครั้งที่รัสเซียโจมตีหรือข่มขู่เรื่องการส่งออกธัญพืช ตลาดจะเกิดความตกใจและราคาอาหารจะปรับตัวสูงขึ้น พร้อมย้ำว่าถ้ารัสเซียไม่เข้ารุกรานยูเครน โลกอาจไม่ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านอาหาร

ก่อนจะปิดท้ายประเด็นนี้ว่าการรุกรานยูเครนของรัสเซียคือสาเหตุที่ทำให้ตลาดโลกผันผวน

นอกจากเรื่องการโจมตีด้วยขีปนาวุธแล้ว อีกประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการขนส่งธัญพืชที่หลายฝ่ายให้ความสนใจคือ การระงับข้อตกลงเส้นทางการเดินเรือเพื่อขนส่งธัญพืชในทะเลดำของรัสเซีย

เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ประกาศระงับข้อตกลงดังกล่าวไป โดยกล่าวหาว่ายูเครนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักร ใช้โดรน 16 ลำโจมตีกองเรือของรัสเซีย บริเวณท่าเรือเมืองเซวัสโตปอลในทะเลดำ

ผลจากระงับข้อตกลงดังกล่าว ทำให้เรือขนส่งธัญพืชหลายสิบลำที่กำลังแล่นออกจากท่าเรือในยูเครน ต้องไปหยุดและจอดทอดสมอรออยู่กลางทะเลดำ บริเวณน่านน้ำก่อนถึงช่องแคบบอสฟอรัสของตุรกี เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยในการเดินเรือ

หลังจากที่รอคอยมา 4 วัน ล่าสุดตอนช่วงเช้าของเมื่อวานตามเวลาท้องถิ่น เรือเหล่านี้สามารถกลับมาสัญจรได้อีกครั้ง

ภาพเรือขนส่งเมล็ดทานตะวัน ที่ออกมาจากเมืองเชียร์โนมอร์สก์ ทางตอนใต้ของยูเครน กำลังข้ามช่องแคบบอสฟอรัส เพื่อเดินทางไปยังบริเวณทะเลเมดิเตอร์ดิเนียน ก่อนจะออกสู่น่านน้ำสากล เพื่อเดินเรือไปส่งธัญพืชที่ท่าเรือของประเทศอียิปต์ 

การที่เส้นทางการเดินเรือเพื่อขนส่งธัญพืชในทะเลดำสามารถกลับมาใช้ได้อีกครั้ง เป็นผลงานความพยายามของเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกี

หลังจากที่เขาได้ต่อสายตรงโทรหาผู้นำของรัสเซียประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก่อนที่จะออกมาแถลงข่าวว่า เส้นทางเดินเรือกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวจากประธานาธิบดีปูตินออกมาเช่นกัน

โดยผู้นำรัสเซียได้แถลงว่า สาเหตุที่รัสเซียจำเป็นต้องระงับข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพราะการโจมตีของฝั่งยูเครน และทางรัสเซียต้องการหลักประกันจากยูเครนว่าจะไม่โจมตีกองเรือของรัสเซียในทะเลดำ

นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียบอกว่าตอนนี้ตนเองได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมกลับเข้าสู่ข้อตกลงดังกล่าวแล้ว หลังจากที่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีแอร์โดอานของตุรกี และได้รับคำมั่นจากยูเครนว่าจะไม่โจมตีกองเรือของรัสเซียในทะเลดำอีก

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีปูตินย้ำว่ารัสเซียมีสิทธิในการถอนตัวจากข้อตกลงได้ทุกเมื่อ หากฝั่งยูเครนละเมิดสัญญา

แม้การขนส่งจะเป็นไปตามปกติแล้ว แต่ประเด็นเรื่องการโจมตีกองเรือรัสเซียในทะเลดำยังเป็นประเด็นที่รัสเซียต้องการคำตอบ เนื่องจากฝั่งรัสเซียเชื่อว่า การโจมตีของยูเครนครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญของสหราชอาณาจักรหนุนหลังอยู่

ทำให้มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกมารายงานว่า ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้เชิญเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำรัสเซียเข้ามาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เดโบราห์ บรอนเนิร์ต เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำรัสเซียได้เดินทางไปยังกระทรวงการต่างประเทศตามคำเชิญเพื่อชี้แจงเรื่องนี้

เมื่อเธอเดินทางไปถึงกระทรวงการต่างประเทศ บริเวณด้านหน้าของกระทรวงมีชาวรัสเซียจำนวนหนึ่งเดินทางมาชูป้ายประณามและประท้วงเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร

โดยคนรัสเซียเหล่านั้นถือป้ายว่า อังกฤษเป็นรัฐก่อการร้าย ไม่เอารัฐก่อการร้ายอังกฤษ

สื่อท้องของรัสเซียรายงานว่า เดโบราห์ได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียอยู่ประมาณ 30 นาที แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการ

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ