จีนประท้วงในหลายเมืองใหญ่ ไม่พอใจ "โควิด-19 เป็นศูนย์"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จนถึงตอนนี้จีนเป็นประเทศขนาดใหญ่แห่งเดียวในโลกที่ยึดมั่นต่อการใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด หวังควบคุมให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำที่สุด หรือที่เรียกกันว่า “โควิดเป็นศูนย์”

แม้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงบอกว่านโยบายโควิดเป็นศูนย์คือความสำเร็จในการรักษาชีวิตประชาชน แต่ล่าสุด นโยบายนี้กลับทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงต่อต้านสี จิ้นผิง และพรรคคอมมิวนิสต์อย่างกว้างขวางในหลายเมือง รวมถึงในนครเซี่ยงไฮ้ โดยผู้ประท้วงจำนวนไม่น้อยเรียกร้องให้เขาลาออก

ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอด10 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่สี จิ้นผิง ขึ้นสู่อำนาจสะท้อนให้ว่านโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่ผู้นำจีนยกย่อง กำลังกลายเป็นชนวนทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจของเขาแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เส้นทางประท้วงใหญ่ในจีน ความไม่พอใจที่ลุกลามเป็นการขับไล่ “สี จิ้นผิง”

"สี จิ้นผิง"เส้นทางกระชับอำนาจสู่ว่าที่ผู้นำสมัยที่3

ความไม่พอใจต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ที่เปิดทางให้ทางการสามารถสั่งล็อกดาวน์กะทันหัน สั่งกักตัวยาวนานยืดเยื้อ และปูพรมตรวจหาเชื้อคนเป็นวงกว้าง ปรากฏขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

แต่ปรากฏการณ์ที่ประชาชนในหลายเมืองลุกขึ้นมาประท้วงแบบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจีนแผ่นดินใหญ่ อย่างน้อยก็ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ชนวนการประท้วงครั้งนี้มาจากความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งทางการระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บอีก 9 คน โดยสาเหตุเพลิงไหม้มาจากบริเวณส่วนต่อขยายของเต้ารับไฟฟ้าอันหนึ่ง 

หลังเกิดเพลิงไหม้ ก็มีการแชร์ภาพและคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้ผ่านโซเชียลมีเดียทั้งของจีนและต่างชาติตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจีนบอกว่าการล็อกดาวน์เข้มเป็นสาเหตุให้คนหนีออกจากตึกไม่ได้และการกู้ภัยทำได้ช้า  บางคนบอกว่าทุกโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นล้วนเลวร้ายกว่าเชื้อโอมิครอนที่ทางการพยายามควบคุม  

หลังเกิดเพลิงไหม้ที่อาคารอพาร์ทเมนต์ดังกล่าว ก็มีรายงานว่าประชาชนในเมืองอุรุมชีได้ออกมาชุมนุมประท้วงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยผู้ประท้วงตะโกนเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์

โดยเมืองอุรุมชีอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์มายาวนานกว่า 100 วันแล้ว แม้สื่อรัฐบาลจีนรายงานว่า อาคารที่พักดังกล่าวถูกจัดอยู่ในพื้นเสี่ยงต่ำ ผู้พักอาศัยสามารถเดินลงบันได้จากอาคารได้ แต่บีบีซีรายงานอ้างอิงผู้พักอาศัยคนหนึ่งที่บอกว่า แต่ละวันพวกเขาได้รับอนุญาตให้ออกจากที่พักของตัวเองได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยมีทางการเป็นผู้กำหนดควบคุมเวลา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เมืองอุรุมชีปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ามาตรการโควิดเป็นศูนย์คือสาเหตุที่ทำให้การกู้ภัยทำได้ช้า หัวหน้าหน่วยงานดับเพลิงเมืองอุรุมชียังโทษว่า ผู้พักอาศัยบางคนมีความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองในระดับต่ำ ซึ่งความเห็นนี้ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงแค่ในซินเจียง ความไม่พอใจนี้ก็ยังลามต่อไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ของจีนจนทำให้ประชาชนออกมาประท้วงต้านมาตรการควบคุมโควิดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกรุงปักกิ่ง เมืองซีอาน นานกิง อู่ฮั่น เฉิงตู และนครเซี่ยงไฮ้

โดยที่กรุงปักกิ่งมีรายงานว่านักศึกษาหลายร้อยคนที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้ชุมนุมประท้วงภายในมหาวิทยาลัย หลายคนชูกระดาษเปล่าสีขาวเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่พอใจต่อมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งการเลือกใช้กระดาษเปล่าสีขาวไม่มีข้อความ เป็นยุทธวิธีหนึ่งในการหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์หรือการถูกจับกุม

มีรายงานด้วยว่า นอกจากต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์แล้ว ความไม่พอใจของผู้ชุมนุมยังขยายไปสู่เรื่องระบบการปกครองและการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

นักศึกษาบางคนที่ร่วมชุมนุมในมหาวิทยาลัยชิงหัวยังได้ตะโกนเรียกร้องระบบนิติธรรมตามหลักประชาธิปไตย และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นด้วย

 ส่วนที่บริเวณถนนวงแหวนที่  3 ใกล้กับแม่น้ำเลี่ยงหม่า ในกรุงปักกิ่ง ก็มีประชาชนหลายร้อยคนไปชุมนุมกันเพื่อจุดเทียนรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ที่อุรุมชี แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านมาตรการโควิดเป็นศูนย์และการเซ็นเซอร์ด้วยการชูกระดาษขาวขึ้นมาระหว่างร่วมชุมนุม

ซึ่งรายงานระบุว่าที่บริเวณใกล้แม่น้ำเลี่ยงหม่า มีผู้ชุมนุมราว 1,000 คน ที่ไม่ยอมแยกย้ายโดยปักหลักประท้วงอยู่จนถึงช่วงเช้ามืดวันนี้

ผู้ชุมนุมในกรุงปักกิ่งหลายคนบอกว่า ไม่อยากได้การตรวจโควิด แต่อยากได้เสรีภาพ บางคนบอกว่าอยากให้มาตรการป้องกันโควิดอยู่บนพื้นฐานเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ และชาวจีนควรได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

ขณะที่บางคนก็บอกว่า การออกมาชุมนุมครั้งนี้เพื่อต้องการส่งเสียงเรียกร้องสิทธิของตัวเอง

ส่วนที่นครเซี่ยงไฮ้ เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนที่เคยผ่านการล็อกดาวน์นานกว่า 2 เดือนในปีนี้ ก็มีประชาชนออกมาจุดเทียนชุมนุมกันบริเวณถนน "อู่-ลู่-มู่-ฉี" ซึ่งเป็นถนนที่ตั้งชื่อตามเมืองอุรุมชี เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในอุรุมชี ก่อนที่การไว้อาลัยจะกลายเป็นการประท้วงต่อต้านมาตรการโควิดเป็นศูนย์ 

ผู้ชุมนุมในเซี่ยงไฮ้หลายคนชูกระดาษขาวแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ยกเลิกการล็อกดาวน์ทั้งในอุรุมชี ซินเจียง และทั้งประเทศจีน รวมถึงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกด้วย โดยบางคนบอกว่ามีคนจำนวนมากที่ต้องเสียชีวิตภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีสี

อย่างไรก็ดี จากภาพที่ปรากฏออกมาแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ประท้วงที่นครเซี่ยงไฮ้ดูจะตึงเครียดกว่าเมืองที่อื่น

เมื่อคืนนี้มีรายงานการปะทะระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมบางส่วนขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามทำให้ผู้ชุมนุมสลายตัว โดยปรากฏภาพตำรวจลากผู้ประท้วงบางคนออกมา

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าตำรวจได้นำตัวผู้ประชาชนจำนวนหนึ่งขึ้นรถบัสก่อนจะขับออกไปจากจุดประท้วง โดยไม่มีการให้รายละเอียดว่ารถบัสดังกล่าวมุ่งหน้าไปที่ไหน

ขณะเดียวกัน ยังปรากฏคลิปวิดีโอที่ตำรวจเซี่ยงไฮ้จับกุมนักข่าวบีบีซีคนหนึ่งที่กำลังทำข่าวการประท้วง

บีบีซีออกแถลงการณ์ระบุว่า นักข่าวที่ถูกจับกุมชื่อว่า ‘เอ็ด ลอว์เรนซ์’ เขาถูกตำรวจเซี่ยงไฮ้ควบคุมตัวหลายชั่วโมงก่อนได้รับการปล่อยตัวออกมา แต่ระหว่างที่ถูกจับกุมลอว์เรนซ์ยังถูกตำรวจเตะและทุบตี ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลต่อบีบีซีอย่างมาก

โดยบีบีซียังระบุว่า ทางการจีนยังไม่มีคำขอโทษหรือคำอธิบายอย่างเป็นทางการ มีเพียงการแจ้งของเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยตัวลอว์เรนซ์ออกมาซึ่งบอกว่า เขาถูกจับกุมด้วยความหวังดี เพื่อไม่ให้เขาต้องติดโควิดจากฝูงชน ซึ่งนี่เป็นคำอธิบายที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ

ขณะที่ในช่วงเช้าวันนี้ ทางการเซี่ยงไฮ้ยังได้ส่งตำรวจจำนวนมากประจำการบริเวณถนนอู่ลู่มู่ฉี ซึ่งเป็นจุดที่ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงยังมีการตั้งรั้วสูงตลอดแนวถนน และมีรายงานผู้ถูกจับกุมในบริเวณดังกล่าวอย่างน้อย 2 คน ในวันนี้

ทั้งนี้ เอเอฟพีรายงานล่าสุดว่า ทางการจีนได้เซ็นเซอร์ข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง คำค้นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นคำว่า “แม่น้ำเลี่ยงหม่า” หรือ “ถนนอู่ลู่มู่ฉี” ก็ถูกลบออกจากเวยโป๋ ซึ่งเป็นแพตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนด้วย

เช่นเดียวกับคลิปการประท้วงของนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ถูกลบออกจากวีแชท โดยขึ้นแจ้งเตือนว่าวิดีโอเหล่านี้มีเนื้อหาไม่เป็นไปตามข้อกำหนดหรือเป็นเนื้อหาอ่อนไหว 

ล่าสุด มีความเห็นจาก ‘จ้าวลี่เจียน’โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนที่บอกว่า รายงานเกี่ยวกับการประท้วงในกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง จีนดำเนินตามนโยบายโควิดที่มีพลวัต และปรับมาตรการให้เหมาะสมโดยพิจารณาตามความเป็นจริงของสถานการณ์ และเชื่อว่าด้วยการนำของพรรคและความร่วมมือของประชาชน การต่อสู้โควิดของจีนจะประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ ยังบอกว่าในโซเชียลมีเดียมี “ฝ่ายที่มีแรงจูงใจอันซ่อนเร้น” ที่พยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ไฟไหม้ในอุรุมชีเข้ากับมาตรการควบคุมโควิดของทางการ

และในขณะที่จีนยังเดินหน้านโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อเนื่อง ยอมแลกมาด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจมหาศาลเพื่อให้พยายามขจัดไวรัสให้หมดไป  แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้กลับสูงทำสถิติเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน

โดยทางการจีนระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้อยู่ที่ 40,052 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานซึ่งอยู่ที่ 39,506 ราย

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่ทางการระบุว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิดในจีนนับตั้งแต่เริ่มการระบาดอยู่ที่ 5,233  ราย ถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรและประเทศขนาดใหญ่อื่นๆ

ซึ่งนี่ทำให้รัฐบาลจีนยืนยันมาตลอดว่านโยบายโควิดเป็นศูนย์ช่วยปกป้องชีวิตคน และจำเป็นในการป้องกันไม่ให้ระบบสาธารณสุขล่มสลาย โดยก่อนหน้านี้ทางการจีนได้ประกาศแล้วว่า จะเดินหน้ายึดมั่นนโยบายนี้ต่อไป

มีนักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า จีนไม่น่าจะกลับมาเปิดประเทศได้ก่อนเดือนมีนาคมหรือเมษายนหน้า โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนยังต้องยึดนโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไป ก็คือการขาดแคลนวัคซีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนที่ระบาดได้ง่าย

เพราะในขณะที่ทั่วโลกยอมรับว่าวัคซีนชนิด mRNA มีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโควิด รวมถึงทำให้หลายประเทศสามารถเปิดประเทศ และหันมาใช้ชีวิตร่วมกับโควิดได้ แต่วัคซีนที่ใช้แพร่หลายในจีนยังเป็นวัคซีนเชื้อตาย ขณะที่รัฐบาลจีนก็ไม่ยอมรับรองวัคซีนจากต่างชาติ  

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวด็อยท์เชอเวลเลอ หรือ DW ของเยอรมนีรายงานว่า แม้บริษัทยาหลายแห่งของจีนได้เริ่มสร้างโรงงานเพื่อผลิตวัคซีน mRNA แต่การพัฒนาวัคซีน mRNA ของจีนก็ค่อนข้างช้า

ขณะที่การประท้วงล่าสุดถือเป็นแรงกดดันสำคัญของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ท่าทีที่ผ่านมาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงการสนับสนุนนโยบายโควิดเป็นศูนย์และเพิ่งบอกว่านี่เป็นความสำเร็จสำคัญ เขาผูกความสำเร็จของตัวเองเอาไว้กับนโยบายนี้ การจะยกเลิกหรือถอนกลับเมื่อเจอการประท้วงต้าน ก็อาจเป็นการตัดสินใจที่ยากสำหรับผู้นำจีน  

ขณะเดียวกัน เหตุการณ์การประท้วงทั่วจีนที่เกิดขึ้นได้ไม่ง่ายนัก รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น และท่าทีของรัฐบาลจีนต่อสถานการณ์ก็สร้างความรู้สึกไม่มั่นคงให้กับนักลงทุน

โดยรายงานระบุว่า ค่าเงินหยวนที่ซื้อขายกันนอกประเทศจีนวันนี้ตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในตลาดซื้อขายในเอเชีย โดยลดลงอยู่ที่ 7.24 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ 

ขณะเดียวกัน การประท้วงในจีนก็ทำให้หุ้นเอเชียปรับตัวลงในวันนี้ โดยดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงปรับตัวลงร้อยละ 4.16 ส่วนดัชนีซีเอสไอ 300  (CSI300 Index) ของจีนปรับตัวลดลงร้อยละ 2.22

ตลาดหุ้นนิเคอิของญี่ปุ่น ร่วงลงร้อยละ 0.76 ส่วนดัชนีหุ้นคอสปิของเกาหลีใต้ลดลงร้อยละ 1.35 ในช่วงเปิดตลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP ต่างประเทศ

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ