กำลังตำรวจเข้าประจำการดูแลความเรียบร้อยตามสถานที่ต่างๆ ในกรุงปักกิ่ง ที่ถูกใช้เป็นจุดชุมนุมของประชาชนคัดค้านมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมไวรัสโควิด-19 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีร่ายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ยกระดับความมั่นคงในเมืองอื่นๆ รวมทั้งเซี่ยงไฮ้ เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัว พร้อมทั้งได้ปรับเพิ่มความเข้มงวดของการตรวจคัดกรองเนื้อหาบนสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ประชาชนเห็นภาพการชุมนุม และสนทนาเกี่ยวกับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ชาวจีนโวย ถูกห้ามหนีจากแผ่นดินไหว เพราะ “ล็อกดาวน์โควิด-19” อยู่
ซินเจียง - มองโกเลีย เผชิญคลื่นความเย็น อุณหภูมิลดฮวบถึง 30 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีการชุมนุมเกิดขึ้นในประเทศจีนเมื่อวานนี้ แต่ประชนและชาวจีนในหลายประเทศได้จัดกิจกรรมให่กำลังใจ รวมทั้งแสดงพลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์
ส่วนที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 200 คน ที่มีบางส่วนเป็นชาวจีน ได้ไปรวมตัวกันที่ศาลาว่าการของเมือง พร้อมตะโกนเรียกร้องเสรีภาพให้กับประชาชนในประเทศจีน
เช่นเดียวกับที่ประเทศอังกฤษ ประชาชนจำนวนมากรวมตัวกันที่บริเวณด้านนอกของสถานทูตเอกอัคราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอนในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ เพื่อเรียกร้องรัฐบาลจีนยุตินโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ ซีโร่โควิด
ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้เช่นกัน โดย นาย จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว แถลงว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ติดตามและสนับสนุนการชุมนุมโดยสงบของพลเมืองชาวจีนที่ไม่พอใจมาตรการล็อกดาวน์ แต่ สหรัฐฯยังไม่พบว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นกระทบต่อระบบการผลิตสินค้าแต่อย่างใด
ส่วนความร่วมมือในด้านวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เคอร์บี เปิดเผยว่าขณะนี้จีนยังไม่มีการร้องขอหรือแสดงความสนใจที่จะนำเข้าวัคซีนจากสหรัฐฯ นอกจากสหรัฐฯ แล้วยังมีเยอรมนี ที่ออกมาให้ความคิดเห็นต่อการประท้วงในประเทศจีนเช่นกัน โดยทีมโฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่ากำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งการใช้กำลังควบคุมการชุมนุมด้วย