เจ้าหน้าที่รัสเซียในเมืองเคอร์สก ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนยูเครน 100 กิโลเมตร เปิดเผยภาพควันไฟหนาทึบลอยขึ้นจากสนามบินแห่งหนึ่งในช่วงเช้าวันอังคาร หลังจากถูกโจมตีด้วยโดรน ขณะที่มีรายงานว่าถังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ในบริเวณนั้นเกิดเพลิงไหม้ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
การส่งโดรนโจมตีเมื่อวานนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในระยะเวลา 2 วัน หลังจากเมื่อวันจันทร์ ทางการรัสเซียยืนยันว่า โดรนของยูเครนซึ่งผลิตในยุคสหภาพโซเวียตได้โจมตีฐานทัพอากาศสองแห่งที่อยู่ห่างจากพรมแดนยูเครนหลายร้อยกิโลเมตร
ศาลพิพากษา 2 บริษัทของ “ทรัมป์” 17 กระทง ปมเหตุโกงภาษี สร้างหลักฐานเท็จ
สภาพอากาศวันนี้! ไทยตอนบนอากาศเย็นตอนเช้า เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนัก
คือ ฐานทัพอากาศเองเกลส์ ที่มีฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพรัสเซียประจำการหลายลำ และฐานทัพอากาศไรยาซาน ไม่ไกลจากกรุงมอสโก
แต่ทางด้านยูเครนยังไม่ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีทั้ง 3 ครั้ง แต่หากยูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) นับว่าเป็นการจู่โจมที่รุกล้ำเข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้มากที่สุดนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่ารัสเซียได้สั่งลดจำนวนเครื่องบินขับไล่ที่ส่งเข้าไปยังน่านฟ้ายูเครนอย่างเห็นได้ชัด จนน่าจะเหลือเพียงพอที่จะทำ “ภารกิจไม่กี่สิบครั้งต่อวัน เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่ 300 ครั้งต่อวันก่อนหน้านี้ รวมทั้งพบว่ารัสเซียสูญเสียอากาศยานปีกแข็งไปแล้วไม่น้อยกว่า 60 ลำด้วย
ส่วนเหตุผลที่ทำให้รัสเซียลดภารกิจการโจมตีทางอากาศนั้น กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากหลายปัจจัยทั้งความเสี่ยงที่จะถูกตอบโต้ด้วยระบบต่อต้านอากาศยานของยูเครน ข้อจำกัดของชั่วโมงทำการบินของเครื่องบินรัสเซีย และสภาพอากาศที่เลวร้ายลงในช่วงฤดูหนาวนี้
ส่วน นาย เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงกระทรวงการคต่างประเทศ สหรัฐฯ ยืนยันว่าสหรัฐไม่มีการช่วยเหลือ หรือส่งเสริมให้ยูเครนดำเนินการโจมตีข้ามพรมแดน และอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุในรัสเซียไม่ได้มาจากสหัฐฯ โดย ไพรซ์ย้ำว่าสหรัฐฯให้การสนับสนนุนยูเครนในด้านการป้องกันอธิปไตยของตนเองเท่านั้น
ขณะที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่า ทั้งสองประเทศจะยอมเข้าสู่การเจรจาสันติภาพ โดย นาย ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ยืนยันว่า รัสเซียจะไม่ยอมเจรจาจนกว่ายูเครนและชาติตะวันตกจะยอมรับอธิปไตยเหนือดินแดนของยูเครนที่รัสเซียยึดครองมาได้ และรัสเซียบรรลุตามเป้าหมายภายใต้ "ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร"
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเรื่องการแลกเปลี่ยนตัวประกันแล้ว โดยคาดว่า อาจมีการสลับตัวนักโทษระหว่างกันไม่ต่ำกว่า 60 คน
ส่วนการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียูที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวานนี้ ฮังการีใช้สิทธิในการวีโต หรือ ยับยั้งมาตรการมอบเงินช่วยเหลือยูเครนจำนวน 18,000 ล้านยูโร หรือกว่า 600,000 ล้านบาท
โดยนาย มิฮาลีย์ วาร์กา (Mihaly Varga) รัฐมนตรีว่าการการะทรวงการคลังฮังการี ได้ย้ำจุดยืนของรัฐบาลฮังการีที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้กรอบความร่วมมือการก่อหนี้ร่วมกันของชาติสมาชิกเพื่อนำไปช่วยเหลือยูเครน อย่างไรก็ตาม วาร์กาย้ำว่าฮังการีจะให้ความช่วยเหลือยูเครนในระกับทวิภาคี
สำหรับการใช้สิทธิ์ดังกล่าวของฮังการีเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดยั้งกับเพื่อประเทศสมาชิกอียู 26 ประเทศ ที่กล่าวหารัฐบาลฮังการีว่ามีพฤติกรรมบ่อนทำลายประชาธิปไตยนำไปสู่การระงับงบประมาณที่กำหนดจัดสรรให้แก่ฮังการีเพื่อนำไปฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดยจนถึงขณะนี้ฮังการีเป็นประเทศสมาชิกเพียงชาติเดียวที่แผนการใช้จ่ายเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจยังไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งหากผ่านพ้นกำหนดเส้นตายในสิ้นปีนี้ไป กฎหมายของอียูระบว่างบประมาณที่ได้รับจัดสรรจะหายไปถึง 70%