"เซเลนสกี" โทรหานายกฯอินเดีย เสนอสูตรสันติภาพ G20 ปีหน้า


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เข้าสู่เดือนที่ 11 ของสงครามในยูเครน ตอนนี้รัสเซียและยูเครนยังคงต่อสู้กันอย่างหนัก โดยเฉพาะที่เมืองบัคมุต ในแคว้นโดเนตสก์

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เกิดเหตุโจมตีด้วยโดรนขึ้นอีกครั้ง ที่ฐานทัพในนครซาราตอฟ ทางตอนกลางของประเทศรัสเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 รอบหนึ่งเดือน

อย่างไรก็ดี แม้จะมีการต่อสู้และโจมตีเกิดขึ้นอย่างรุนแรง แต่ก็มีสัญญาณของการสันติภาพออกมาเป็นระยะๆ โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้นำรัสเซียออกมาส่งสัญญญาณว่าพร้อมเจรจาสันติภาพกับทุกฝ่าย

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ ( 26 ธ.ค.) ผู้นำยูเครนก็ได้พูดถึงเรื่องสูตรสันติภาพเช่นกัน

รัสเซียส่งสัญญาณเตรียมเปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปอีกครั้ง

สหรัฐฯ ไม่สนรัสเซีย ส่งระบบ“แพทริออต”ให้ยูเครน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้โทรศัพท์หา นเรทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย โดยเป้าหมายหลักในการพูดคุยกันในครั้งนี้คือ เพื่อขอให้อินเดียที่จะเป็นประธานการประชุม G20 ในวาระปี 2023 ผลักดันสูตรสันติภาพ

หลังจากการพูดคุยทางโทรศัพท์เสร็จสิ้น ผู้นำยูเครนก็ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ยูเครนได้ประกาศสูตรสันติภาพนี้ในการประชุม G20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อกลางเดือนที่แล้ว และทางยูเครนหวังว่าอินเดียจะเข้ามามีบทบาทในการผลักดันวาระนี้ต่อไป

โดยตอนนี้ ร่างของสูตรสันติภาพของผู้นำยูเครนมีทั้งหมด 10 ข้อ ซึ่ง 4 ข้อหลักๆ คือ รัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน ฟื้นฟูบูรณภาพทางดินแดนของยูเครน บูรณะความเสียหายในยูเครน และการสร้างหลักประกันให้แก่ยูเครนอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว

ด้านรัฐบาลอินเดียได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ผู้นำทั้งสองได้พูดคุยกันเรื่องโอกาสและความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างทั้งสองชาติในอนาคต

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีโมดียังได้ย้ำถึงลำดับความสำคัญของอินเดียในฐานะเจ้าภาพของการประชุม G20 พร้อมย้ำจุดยืนชัดเจนว่า อินเดียสนับสนุนให้รัสเซีย-ยูเครน หยุดการสู้รบและกลับมาพูดคุยสันติภาพ พร้อมกับใช้วิธีการทางการทูตในการแก้ปัญหา

อย่างไรก็ดี การเรียกร้องของผู้นำยูเครนที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางจุดยืนที่ยังคลุมเครือของทางอินเดียต่อสงครามการรุกรานยูเครนในครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมา อินเดียไม่เคยประณามการกระทำของรัสเซียในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) และพยายามกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับรัสเซียมากขึ้น

ในขณะที่สหรัฐฯ และบรรดาชาติตะวันตกพยายามคว่ำบาตรรัสเซียจากการขายน้ำมันและทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อจำกัดแหล่งเงินทุนในการทำสงครามยูเครน แต่ทางอินเดียกลับเป็นผู้ซื้อน้ำมันลดราคาจากฝั่งรัสเซีย

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาอินเดียได้นำเข้าน้ำมันจากบริษัทอูราล (Ural) ของรัสเซียในราคาต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ซึ่งเป็นระดับราคาที่ชาติตะวันตกนำมาใช้จำกัดราคาน้ำมันรัสเซีย

ส่งผลให้ขณะนี้อินเดียได้กลายเป็นผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียรายใหญ่อันดับ 2 รองจากจีน หลังจากราคาพลังงานในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น

การยกหูโทรหาผู้นำอินเดียเพื่อพูดคุยเรื่องสูตรสันติภาพของประธานาธิบดียูเครน เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียออกมาพูดว่า ตนเองพร้อมเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อยุติสงคราม

อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า อะไรคือเจตนาที่แท้จริงของทางฝั่งผู้นำรัสเซียหลังจากออกมาพูดเรื่องสันติภาพ

เรื่องนี้มีนักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นไปในทิศทางที่คล้ายกันว่า การออกมาพูดถึงเรื่องสันติภาพของผู้นำรัสเซียในครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาเพื่อยุติสงครามในยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ แต่เป็นการพยายามซื้อเวลาเพื่อสั่งสมกำลังและอาวุธ เตรียมเปิดศึกรอบใหม่

มาร์ค ซาฟชุค สมาชิกจากกลุ่ม Ukrainian Volunteer Journalist Initiative ได้ให้ความเห็นขณะที่ให้สัมภาษณ์กับซีทีวี นิวส์ (CTV News) ของแคนาดาว่า รัสเซียไม่ได้ต้องการสันติภาพระยะยาว แต่ต้องการเวลาเพื่อไปสั่งสมอาวุธเพิ่ม

มาร์คอธิบายจุดยืนในเรื่องนี้ว่า โลกไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่รัสเซียพูดได้ โลกต้องสังเกตสิ่งที่รัสเซียกำลังทำ โดยสิ่งที่รัสเซียกำลังทำในตอนนี้คือ ผู้นำรัสเซียไปเยือนบริษัทอาวุธและเร่งให้ผลิตอาวุธเพื่อส่งไปยังแนวหน้าของสนามรบในยูเครน

นี่คือหลักฐานที่ชัดเจนว่าทางฝั่งประธานาธิบดีปูตินเองไม่ได้ต้องการจะยุติสงคราม หากผู้นำรัสเซียต้องการยุติสงครามจริง สิ่งแรกที่ผู้นำรัสเซียต้องทำคือ หยุดโจมตีและถอนทหารออกจากยูเครน เพื่อเปิดทางสำหรับการเจรจา 

นักวิเคราะห์รายนี้ย้ำว่า ประธานาธิบดีปูตินไม่สามารถถอนทหารเพื่อเปิดการเจรจาได้ เนื่องจากเป้าหมายของผู้นำรัสเซียคือการยึดยูเครนทั้งหมด สิ่งเดียวที่รัสเซียทำได้คือ การทุ่มเงินและกำลังพลเพื่อพิชิตยูเครน

อย่างไรก็ดี ทางฝั่งยูเครนไม่เชื่อคำพูดของผู้นำรัสเซียและเตรียมรับมือไว้แล้ว โดยสิ่งเดียวที่จะรับประกันสันติภาพระยะยาวของยูเครนได้คือ การทำลายกองทัพรัสเซีย

มีอีกความเห็นหนึ่งจาก ฮานนา ชีเลส (Hanna Shelest) ผู้อำนวยการโครงการความมั่นคงศึกษา ของยูเครน ปริซึม (Ukraine Prism) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ศึกษาด้านความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศ

เธอได้ให้ความเห็นเรื่องสันติภาพกับแนวคิดของฝั่งยูเครนไว้อย่างน่าสนใจว่า เงื่อนไขสันติภาพที่ผู้นำรัสเซียพูดถึงและต้องการคือ สันติภาพที่ยูเครนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หรือรัสเซียต้องได้ผลประโยชน์แห่งชาติหรือไม่เสียอำนาจอธิปไตย

นี่หมายถึงการเจรจาที่จะเกิดขึ้น ทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าแคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน เป็นของรัสเซียไม่ใช่ของยูเครน ซึ่งทางฝั่งยูเครนมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ยินยอมในเรื่องนี้

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโครงการความมั่นคงศึกษาระบุว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีไม่เคยปฏิเสธการเจรจาสันติภาพ โดยผู้นำรัสเซียเจรจาแบบต่อหน้ากับผู้นำยูเครนครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 และไม่เคยร่วมวงเจรจาสันติภาพอีกเลย

นี่จึงนำไปสู่คำถามที่ว่า ประธานาธิบดีปูตินต้องการอะไรจากการเจรจากันแน่ ซึ่งถ้าไปดูการกระทำของรัสเซียในเวลานี้ เช่น การเยือนโรงงานอาวุธ การซ้อม

พฤติกรรมของฝั่งรัสเซียชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ฝั่งรัสเซียต้องการคือ การหยุดยิง เพื่อระดมสรรพาวุธและกำลังพลเพื่อโจมตียูเครนอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ ตลอดจนต้องการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร เพื่อลดแรงกระทบทางเศรษฐกิจ

ฮานนา ชีเลส ระบุว่า สิ่งที่ยูเครนต้องการจากการเจรจาสันติภาพที่จะเกิดขึ้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสูตรสันติภาพที่ผู้นำยูเครนเคยในที่ประชุม G20 ที่บาหลี ซึ่งเป็นทางเดียวที่ทำให้รัสเซียได้รับโทษกับสิ่งที่ทำลงไปและสร้างความยุติธรรม ตลอดจนสันติภาพระยะยาวให้ยูเครน

ก่อนที่เธอย้ำปิดท้ายว่า ยูเครนไม่ต้องการสนธิสัญญาหยุดยิงและต้องการหลักประกันด้านความมั่นคงที่เป็นรูปธรรม และปัญหาของการเจรจาในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของความคิดต่างขั้วของทั้งสองฝั่ง เพราะนี่ไม่ใช่ความไม่ลงรอยทางธุรกิจ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการรุกรานประเทศอื่น ซึ่งมีเพียงแค่เหยื่อและผู้รุกราน เราต้องไม่พูดจุดยืนและพูดว่าใครคือผู้ที่ทำผิดและควรได้รับโทษเช่นใด ถ้าทุกฝ่ายและทุกคนเริ่มจากจุดตั้งต้นนี้ จะเป็นเรื่องง่ายในการเข้าใจว่าสันติภาพที่ยูเครนต้องการหมายถึงอะไร

ในขณะที่ผู้นำของทั้งสองฝ่ายกำลังพูดถึงเรื่องสันติภาพ ตอนนี้การสู้รบในพื้นที่ก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด โดยทั้งสองฝ่ายปะทะกันอยู่ที่เมืองบัคมุต เมืองยุทธศาสตร์สำคัญในแคว้นโดเนตสก์

เมื่อวานนี้ ผู้นำยูเครนได้อธิบายสถานการณ์ในแนวหน้าของสนามรบที่เมืองบัคมุตว่า ยากลำบากและหนักหนาสาหัสมาก เพราะรัสเซียได้ทุ่มสรรพกำลังมายังแนวรบนี้ เพื่อหาเรื่องราวของชัยชนะไปประกาศต่อสาธารณชน

อย่างไรก็ดี ทางฝั่งยูเครนก็พยายามตั้งรับและโจมตีกลับเป็นระยะๆ โดยทหารยูเครนในพื้นที่บอกว่า รัสเซียทุ่มกำลังเพื่อมารบในแนวรบนี้อย่างเต็มที่ แต่ทางยูเครนสามารถรับมือได้

ขณะเดียวกัน ทหารบางส่วนบอกว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ ไม่อยากให้ทุกคนลืมว่า ทหารยูเครนกำลังต่อสู้อย่างหนักอยู่ที่เมืองบัคมุตเพื่อปกป้องประเทศและทวีปยุโรปโดยรวม

นอกจากแนวรบที่บัคมุตแล้ว วันนี้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุโดรนโจมตีฐานทัพอากาศเอนเกลส์ ในนครซาราตอฟทางตอนกลางของรัสเซียออกมา หลังจากคร่าชีวิตทหารรัสเซียไปถึง 3 นาย

นี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่บันทึกภาพช่วงเวลาที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียยิงสกัดโดรน ที่พุ่งเข้าโจมตีฐานทัพอากาศเอลเกลส์ของรัสเซีย โดยขณะที่ยิงสกัดในภาพจะเห็นเป็นแสงวาบออกมา

นอกจากนี้ ยังมีภาพถ่ายทางอากาศของฐานทัพอากาศแห่งนี้ออกมา แสดงให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงสกัดโดรนตก

การโจมตีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีซ้ำครั้งที่ 2 ในรอบเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น โดยที่เป้าหมายเป็นสนามบินแห่งนี้ เนื่องจากเป็นที่เก็บเครื่องบินรบทิ้งระเบิดรุ่นสำคัญของรัสเซีย อย่างตูโปเลฟ ตู-ไนน์ตี้ไฟว์ เอ็มเอ็ส แบร์ (Tu-95 MS Bear) และ ตูโปเลฟ ตู-วันซิกส์ซีโร่ แบล็กแจ็ค (Tu-160 Blackjack)

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ต่างประเทศ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ