ตำรวจนอร์เวย์และนักเคลื่อนไหวชาวรัสเซียเปิดเผยว่า ขณะนี้ อันเดร เมดเวเดฟ อดีตหัวหน้ากองร้อยทหารรับจ้างวากเนอร์ (Wagner) องค์กรทหารเอกชนของรัสเซีย ได้หลบหนีจากรัสเซียไปยังประเทศนอร์เวย์ และกำลังยื่นเรื่องขอลี้ภัย
เอริค เวอุม โฆษกหน่วยรักษาความปลอดภัยตำรวจนอร์เวย์ แถลงว่า ทางกรมตำรวจฟินน์มาร์กจับกุมเมดเวเดฟได้ในเมืองพาสวิก แถบชายแดนนอร์เวย์เมื่อเวลา 01.58 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ (13 ม.ค.)
ส่องนวัตกรรมทางทหารยูเครน เบื้องหลังความสำเร็จต้านกองทัพรัสเซีย
กลยุทธ์หรือการเมือง ทำไมรัสเซียเปลี่ยนแม่ทัพทุกไตรมาส?
โหด! ทหารรับจ้างรัสเซีย “ถูกประหารด้วยค้อน” หลังแปรพักตร์ช่วยยูเครน
เวอุมยืนยันว่า “งานนี้อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของตำรวจท้องถิ่น แต่เมื่อได้รับรายงานดังกล่าวมา ในฐานะหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศ เราจะดำเนินการสืบสวนอย่างแน่นอน”
เมดเวเดฟให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์กับ วลาดิมีร์ โอเซคคิน หัวหน้าของ Gulagu.net กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนชาวรัสเซียว่า “ผมข้ามพรมแดนใกล้กับเมืองนิเคลของรัสเซีย และไปยังบ้านที่ใกล้บริเวณนั้นที่สุด ผมบอกสถานการณ์ของผมกับหญิงคนหนึ่ง ถึงภาษาอังกฤษผมจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็อยากขอความช่วยเหลือ”
เขากล่าวต่อว่า “ขณะที่ผมเดินอยู่บนถนน กองกำลังชายแดนและตำรวจก็ติดต่อมาหาและนำตัวผมไป ผมถูกสอบสวนและตั้งข้อหาข้ามดินแดนโดยผิดกฎหมาย แต่ก็ได้อธิบายทุกอย่างให้พวกเขาฟังพร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมผมถึงทำแบบนั้น มันมหัศจรรย์มากที่ผมมาที่นี่ได้”
ก่อนหน้านี้ เมดเวเดฟ เคยพยายามหลบหนีไปยังฟินแลนด์ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ล้มเหลว
ด้าน เยฟกินี พริโกซิน คนสนิทของปูติน ผู้ก่อตั้งวากเนอร์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เมดเวเดฟควรถูกนำตัวมาดำเนินคดีในฐานะอาชญากรสงคราม เขาปฏิบัติต่อนักโทษและเชลยสงครามในทางที่ไม่ดี”
ต่อมาเมดเวเดฟให้สัมภาษณ์กับโอเซคคินว่า “ผมไม่ได้ก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน ผมเซ็นสัญญากับวากเนอร์ในวันที่ 6 ก.ค. 2022 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการหมู่ที่ 1 หมวดที่ 4 ของกองร้อยจู่โจมที่ 7 เมื่อเหล่าเชลยและนักโทษที่ปฏิเสธการต่อสัญญากับกองทัพเริ่มมาอยู่ในมือเรา สถานการณ์ในวากเนอร์ก็เปลี่ยนไปมาก ฝ่ายบัญชาการไม่ได้ปฏิบัติต่อเราเหมือนมนุษย์ พวกเราถูกมองว่าเป็นแค่เครื่องมือในการทำสงครามเท่านั้น”
เขากล่าวต่อว่า “ผมกลัวโดนทางการเอาชีวิตหากสัญญาของผมสิ้นสุดลงและเลือกที่จะไม่เป็นทหารของวากเนอร์ต่อ เหมือนกรณีของ เยฟกินี นูซิน ที่ไม่อยากเป็นทหารของวากเนอร์ต่อเลยโดนประหารชีวิตต่อหน้ากล้องด้วยการใช้ค้อนทุบ ทุกสัปดาห์ทางการจะส่งเชลยและนักโทษมาหาเรามากขึ้น เราสูญเสียกำลังพลไปมาก เท่าที่ผมรู้ก็ประมาณ 15-20 คนแค่ภายในหมวดของเรา”
เมดเวเดฟเสริมว่า “พวกเขาส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่บริเวณสาธารณรัฐประชาชนลูฮานสก์ และประกาศว่าสูญหาย ซึ่งหากถูกแจ้งว่าสูญหาย ทางการจะไม่จ่ายเงินประกันให้กับญาติ ซึ่งพริโกซินก็อ้างว่าบรรดานักโทษดังกล่าวถูกยิงตายเพราะปฏิเสธที่จะต่อสู้หรือหันหลังให้กับกองทัพ นั่นทำให้ผมรู้สึกกลัวมาตลอด ผมไม่ได้ก่ออาชญากรรมสงครามเลย ผมเพียงปฏิเสธการเข้าร่วมซ้อมรบของกองกำลังวากเนอร์เท่านั้น”
จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ม.ค.) โอเซคคินเปิดเผยว่า “จริง ๆ ผมเริ่มช่วยเหลือเมดเวเดฟหลังจากได้รับการติดต่อจากเพื่อนของผมเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน พริโกซินสั่งให้ต่ออายุสัญญาทหารกลุ่มวากเนอร์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติตั้งแต่เดือน พ.ย. แต่เมื่อเมดเวเดฟปฏิเสธการต่อสัญญา เขาจึงถูกทุบตี จากนั้นก็ตัดสินใจออกจากวากเนอร์ เมื่อเขาตัดสินใจเช่นนี้ เขาจึงกลายเป็นที่ต้องการตัวของกองกำลังวากเนอร์และกองกำลังพิเศษของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของเขา”
โอเซคคินกล่าวต่อว่า “เขากลัวว่าจะถูกประหารชีวิตด้วยค้อนในลักษณะเดียวกับเยฟกินี นูซิน ผมในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเขาและปกป้องชีวิตของเขา ผมซื้อของที่จำเป็น เสื้อผ้า และโทรศัพท์ให้เขา”
เขาเสริมว่า “เราไม่ได้พยายามที่จะพิสูจน์การกระทำของเมดเวเดฟที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงครามกับกลุ่มวากเนอร์ แต่ควรทำความเข้าใจว่าเขาหนีจากกลุ่มวากเนอร์ในฐานะองค์กรก่อการร้ายที่สังหารทั้งชาวยูเครนและชาวรัสเซีย”
สำหรับกองทหารรับจ้างวากเนอร์ เป็นกองทหารรับจ้างที่ได้ชื่อว่าเป็นกองกำลังลับของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ควบคุมโดยพริโกซิน ออกปฏิบัติการเป็นกำลังหลักในการบุกยึดเมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกในสมรภูมิเมืองโซเลดาร์ (Soledar) นอกจากนี้ยังมีสมาชิกออกปฏิบัติการทั่วโลกนับตั้งแต่ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2014 ทั้งยังมีข่าวว่าก่ออาชญากรรมสงครามมากมายในแอฟริกา ซีเรีย และยูเครน
เรียบเรียงจาก CNN
ภาพจาก AFP