เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัสเซียในภูมิภาคซาโปริสเซีย ทางภาคใต้ของยูเครน ระบุว่าปฏิบัติการรุกคืบในขณะนี้ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ 2 เมืองคือโอริคิฟ (Orikhiv) และเมืองฮูลิไอโพล (Hulyaipole)
การสู้รบในแนวหน้าของทั้งสองเมืองนี้เป็นไปอย่างดุเดือด ซึ่งทหารรัสเซียสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แล้ว โดยนี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่กองทัพรัสเซียอ้างว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบในปฏิบัติการรุกคืบในภูมิภาคซาโปริสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 ภูมิภาคของยูเครนที่รัสเซียประกาศผนวกเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนเองตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว
เทน ฮาก หงุดหงิด แมนยู พลาดเสียประตูที่สามง่าย
“ธนกร” ปัดสั่ง ตร.ขับรถนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน ยินดีให้ตรวจสอบ
ขณะที่กองทัพยูเครนเปิดเผย ในรายงานสถานการณ์ประจำวัน เมื่อวานนี้ว่าชุมชน 15 แห่งในภูมิภาคซาโปริสเซียได้รับผลกระทบจากการถูกยิงโจมตีด้วยปืนใหญ่
โดยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ทางภาคใต้ของยูเครนค่อนข้างเงียบสงบ หลังจากรัสเซียถอนกำลังทหารออกจากเมืองเคอร์ซอน ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางภาคใต้ของยูเครน
ขณะที่นายวาเชสสลาฟ โวโลดิน (Vyacheslav Volodin) ประธานรัฐสภารัสเซียเตือนประเทศต่างๆ ว่า การส่งอาวุธหนักให้กับยูเครนจะกลายเป็นความเสี่ยงสิ่งที่ย้อนกลับไปทำลายประเทศเหล่านั้นเอง และจะนำไปสู่หายนะของโลก
โดย นายโวโลดิน ระบุว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ และ องค์กรสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตพยายามยึดครองดินแดนของรัสเซีย ก็จะถูกตอบโต้ด้วยอาวุธที่มีอานุภาพมากกว่า
สำหรับคำเตือนของ โวโลดิน มีขึ้นหลังจากที่พันธมิตรตะวันตกหลายประเทศประกาศจะส่งมอบอาวุธ และ ระบบป้องกันขีปนาวุธเพิ่มเติมให้แก่ยูเครนเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย
ขณะที่ พลเอกมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ ได้ประเมินสถานการณ์สงครามยูเครน หลังเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เยอรมนียังยืนยันปฏิเสธไม่อนุมัติการส่งรถถังรุ่นใหม่อย่างเลพเพิร์ด 2 ให้ยูเครน โดยระบุว่าเขาภายในปีนี้ ยังไม่เห็นโอกาสที่ยูเครนจะผลักดันรัสเซียออกได้ในทุกตารางนิ้ว
ส่วนกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ประเมินว่า รัสเซียมีแนวโน้มที่ต้องประเมินภัยคุกคามทางการทหารใหม่ในช่วงหลายปีหลังจากที่สงครามยูเครนสิ้นสุดลง โดยระบุว่ารัสเซียมีโอกาสสูงที่จะประสบปัญหากำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการขยายปฏิบัติการทางทหารตามแผนที่วางไว้
ต้นสังกัดสั่ง พักงาน “บิว จักรพันธ์” ไม่มีกำหนด เซ่นดราม่าร้อน
“อาร์เตต้า”ยันส่ง“ทรอสซาร์”ประเดิมดวล"แมนยู"