ส่งมอบ “โบอิง 747” ลำสุดท้าย ปิดตำนาน “ราชินีแห่งท้องฟ้า”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐฯ ส่งมอบเครื่องบินรุ่น 747 ลำสุดท้ายเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดตำนาน 53 ปี เครื่องบิน “จัมโบ้ เจ็ต” รุ่นแรกของโลก

หลายสิบปีก่อน เครื่องบินโดยสาร โบอิง 747” เคยเป็นดาวเด่นของอุตสาหกรรมการบิน เพราะเป็นอากาศยานที่มีขนาดใหญ่โตมหึมา และมีถึง 4 เครื่องยนต์ จนได้รับฉายาว่า จัมโบ้ เจ็ต รุ่นแรกของโลก

แต่ยุคของ โบอิง 747” ดำเนินมาถึงจุดจบ หลังบริษัท โบอิง ยุติสายการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ และได้ส่งมอบเครื่องลำสุดท้ายให้กับ แอตลาส แอร์สายการบินขนส่งสินค้าของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ท่องเที่ยวฟื้น Grab โชว์ตัวเลขคนใช้บริการเพิ่ม 45%

กองทัพสหรัฐฯ ยิงบอลลูนสอดแนมต้องสงสัยเป็นของจีนตก

โดยมีพนักงานของโบอิงหลายพันคน ซึ่งรวมถึงทีมที่เคยพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้ มาร่วมชมการส่งมอบครั้งสุดท้ายจากโรงงานผลิตในรัฐวอชิงตัน พวกเขาบอกว่า

"รู้สึกหวนนึกถึงอดีต เมื่อเห็นว่านี่คือเครื่องหมายเลข 1574 เพราะผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เครื่องหมายเลข 1 ผ่านเรื่องราวมามากมาย"

"เมื่อคุณได้ร่วมพัฒนาลำแรกของรุ่น ส่วนลำที่ 2 ก็อยู่ที่พิพิธภัณฑ์การบินไปแล้ว ตอนนี้คุณเลยอยากมาดูลำสุดท้าย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมมาที่นี่ รู้ไหมมันเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผม"

ย้อนกลับไปช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 ฮวน ทริปเป (Juan Trippe) ผู้ก่อตั้งสายการบินแพน อเมริกัน เวิลด์ แอร์เวย์ส หรือแพนแอม อยากเพิ่มจำนวนที่นั่งบนเครื่องบินโดยสาร เพื่อลดต้นทุนต่อเที่ยว จึงออกปากท้าวิลเลียม แอลเลน อดีตประธานของโบอิง ระหว่างไปทริปตกปลาด้วยกัน

ทริปเปตั้งโจทย์ให้โบอิงออกแบบเครื่องบินที่จุผู้โดยสารได้มากกว่าเครื่องบินรุ่นไหน ๆ ที่โลกเคยมีมา เพื่อรองรับการเดินทางทางอากาศที่เริ่มแพร่หลายจากกลุ่มคนมีเงิน มาสู่คนทั่วไปมากขึ้น

แอลเลนสนใจไอเดียนี้ จึงให้ โจ ซัตเตอร์ วิศวกรมือหนึ่งของโบอิง มาเป็นหัวหน้าทีมพัฒนารุ่น 747 ใช้เวลาเพียง 28 เดือน ก็ทำสำเร็จ จนสามารถนำเครื่องขึ้นทดสอบบินได้ในวันที่ 9 ก.พ.ปี 1969

แน่นอนว่า สายการบินแพนแอม เป็นสายการบินแรกที่นำเครื่องบินรุ่นนี้มาให้บริการ เริ่มจากเส้นทางนิวยอร์ก-ลอนดอน ซึ่งเที่ยวบินแรกเกิดขึ้นในวันที่ 22 ม.ค.ปี 1970

ในสมัยนั้น โบอิง 747 เป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราสะดวกสบาย และได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งท้องฟ้า” ด้วยขนาดลำตัวที่กว้างขวาง จนมีสองทางเดินบนเครื่อง รองรับผู้โดยสารได้ 350-400 คน และยังมีห้องโดยสาร 2 ชั้น

ความพิเศษของโบอิง 747 นั้น ทำให้ โบอิง 707 ที่เคยเป็นพาหนะหลักของทุกสายการบิน ดูเล็กลงไปเลยทีเดียว

อีกทั้ง เหตุการณ์สำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์ ทั้งในยามสงครามและยามสงบ ล้วนมีเครื่องบินตระกูล 747 เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยโบอิง 747 ได้รับเลือกเป็นเครื่องบินวันสิ้นโลก (Doomsday Plane) ของสหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นศูนย์บัญชาการลอยฟ้า ในกรณีที่เกิดสงครามนิวเคลียร์ และศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินถูกทำลายจนหมด

นอกจากนี้ โบอิง 747 ยังถูกใช้เป็นเครื่องบินพระที่นั่ง หรือ เชพเพิร์ด วัน ของสมเด็จพระสันตะปาปา ในการเสด็จเยือนต่างประเทศ รวมถึงเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ แอร์ ฟอร์ซ วัน ด้วย

แม้ในท้ายที่สุด โบอิง 747 จะทำกำไรมหาศาลให้กับบริษัท แต่ในระยะแรกเริ่ม ก็สร้างปัญหาไม่น้อย เพราะงบประมาณกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ที่โบอิงทุ่มให้กับการพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้ เกือบจะทำให้บริษัทล้มละลาย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ

และตลอดทศวรรษที่ 1970 ซึ่งเป็นช่วงที่โลกประสบกับวิกฤตราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง สายการบินต่างๆ ที่ตัดสินใจซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ไปแล้ว ล้วนกลับลำขอเปลี่ยนมาซื้อเครื่องบินลำเล็กแทน

จนกระทั่งในปี 1989 ซึ่งถือเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของเครื่องบินตระกูล 747 โบอิงได้เปิดตัวเครื่องบินรุ่นใหม่ 747-400 (อ่านว่า เจ็ดสี่เจ็ด-สี่ร้อย) ซึ่งมีสมรรถนะสูง มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ และวัสดุที่ทนทานแต่เบาขึ้น ที่สำคัญ คือ สามารถบินได้ไกล 14,200 กม. โดยไม่ต้องหยุดพัก ซึ่งเหมาะกับการบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงนั้น

แต่สุดท้าย ความก้าวหน้าที่ไม่หยุดยั้งในตลาดการบิน ก็กลายเป็นจุดจบของจัมโบ้ เจ็ตรุ่นนี้ เมื่อเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง เริ่มบินได้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องหยุดพัก แถมยังมีต้นทุนและค่าซ่อมบำรุงที่ถูกกว่ามาก จนทำให้เครื่องบินขนาดใหญ่ยักษ์เสียเปรียบไปในทันที

แม้ว่าปัจจุบัน สายการบินทั่วโลกจะทยอยปลดระวางโบอิง 747 ออกจากฝูงบินพาณิชย์ของตนเองแล้ว แต่ 747 ก็ยังมีจุดแข็งตรงที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งยังตอบโจทย์ของธุรกิจออนไลน์ในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี

ส่วนเครื่องบินโดยสารเจนใหม่ ที่โบอิงหมายมั่นปั้นมือจะให้มาแทนที่ 747 ก็คือ 777X น่าจะยังไม่พร้อมใช้งานจนกว่าจะถึงปี 2025 เป็นอย่างน้อย หลังจากเลื่อนส่งมอบมาหลายครั้ง

การปิดตำนานโบอิง 747 สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาเปลี่ยนโลก ทุกอุตสาหกรรมต้องพร้อมจะปรับตัวตาม มิเช่นนั้นก็จะถูกแทนที่ และสูญหายไปตามกาลเวลา

"ซิโก้" นอนคุก อ้างเป็นแค่นักพนันมาเก๊า 888

สรุปผลพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล แพ้ขาดลอย แมนยู เฉือนหืด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP ต่างประเทศ

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ