เมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.) ที่ผ่านมา เดนนิส อาลิปอฟ เอกอักคราชทูตรัสเซียประจำประเทศอินเดีย ตอบคำถามเกี่ยวกับการจัดหาระบบขีปนาวุธของรัสเซียให้อินเดีย หลังส่งระบบขีปนาวุธสองชุดแรกให้อินเดียเรียบร้อยเมื่อปี 2021 ในการประชุมว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างอินเดีย-รัสเซีย
เขากล่าวว่า “การส่งมอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยกลาง BrahMos และระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จะเสร็จสิ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งสองชาติมุ่งมั่นที่จะทำสัญญาทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ และไม่มีอะไรมาขวางการส่งมอบครั้งนี้ได้”
ยูเอ็นห่วงสงครามยูเครน-รัสเซีย ขยายวง
"ยูเครน" เตรียมพร้อม คาดรัสเซียวางแผนใหญ่รับ 1 ปีสงคราม
“ปูติน” เคยให้คำมั่น จะไม่พยายามสังหาร “เซเลนสกี”
เมื่อถูกถามถึงบทบาทของอินเดียในการยุติความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย อาลิปอฟกล่าวว่า “ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียพร้อมเปิดโต๊ะเจรจาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการยุติความขัดแย้งทางการทูต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครมาเจรจากับเรา หากอินเดียต้องการเจรจาอย่างจริงจัง เราจะรับฟังอินเดียอย่างใกล้ชิดแน่นอน พร้อมตรวจสอบข้อเสนอที่ทางอินเดียจะยื่นเข้ามา แต่ไม่ว่าอินเดียจะต้องการเจรจากับเราหรือไม่ ผมคิดว่านั่นไม่ใช่ประเด็น”
เขากล่าวต่อ “อินเดียไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์รัสเซียโดยตรงเรื่องการรุกรานยูเครน ซึ่งแตกต่างจากประเทศชั้นนำอื่น ๆ และงดออกเสียงบทเวทีการประชุมสหประชาชาติที่ประณามการรุกรานครั้งนี้ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอินเดียกำลังผลักดันให้แก้ไขวิกฤติครั้งนี้ผ่านการเจรจาทางการทูตจริง ๆ”
อาลิปอฟ ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ด้านกลาโหมของรัสเซียกับอินเดียว่า เป็นความสัมพันธ์ที่ “ดีอย่างคาดไม่ถึง” หลังอินเดียลงนามกับรัสเซียในข้อตกลงมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 168,000 ล้านบาท) เพื่อซื้อระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จำนวน 5 คัน แม้ทางการสหรัฐฯ จะเตือนว่าการลงนามครั้งนี้อาจทำให้สหรัฐฯ คว่ำบาตรอินเดียภายใต้บทบัญญัติเรื่องการต่อต้านศัตรูของอเมริกา ผ่านพระราชบัญญัติการลงโทษ (Countering America's Adversaries Through Sanctions Act หรือ CAATSA)
เขากล่าวว่า “การผลิตอาวุธต่าง ๆ ล้วนได้รับใบอนุญาตให้สามารถผลิตในประเทศอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นรถถังหลักรุ่น T-90 เครื่องบินรบรุ่น SU-30MKI ปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่น AK-203 และอาวุธยุทโธปกรณ์อื่น ๆ พร้อมส่วนประกอบทั้งหมด ตามโครงการ “Make in India” และนโยบายการพึ่งพาตนเองของอินเดีย (Atmanirbhar Bharat)”
อาลิปอฟเสริมว่า “ความร่วมมือทางกลาโหมระหว่างสองประเทศครั้งนี้ จะนำโดยการส่งมอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยกลาง BrahMos รวมถึงระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเราจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นอย่างเร็วที่สุด”
โดยรัสเซียส่งมอบระบบขีปนาวุธชุดแรกให้อินเดียในเดือนธันวาคมปี 2021 และถูกส่งไปประจำการครอบคลุมพื้นที่ชายแดนติดกับทางตอนเหนือของจีน รวมไปถึงบริเวณชายแดนที่ติดกับปากีสถาน