ตอนนี้กระบวนการค้นหาผู้รอดชีวิตและเก็บกู้ร่างของผู้เสียชีวิตยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางความหวังที่ริบหรี่เพราะสภาพอากาศที่หนาวจัด ทำให้คนที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารมีโอกาสรอดชีวิตน้อยลง
ผ่านไป 1 สัปดาห์ ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีขณะนี้รวมทั้งสิ้น 31,643 ราย และคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ
ขณะที่ประชาชนที่รอดชีวิตในเมืองคาห์รามานมารัสของตุรกีจำนวนมากยังคงใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้งหรือริมถนน เนื่องจากบ้านเรือนพังเสียหายและยังไม่มีการสร้างที่พักพิงชั่วคราว
เม็กซิโกอาลัย หนึ่งในสุนัขกู้ภัยตายขณะค้นหาผู้รอดชีวิตแผ่นดินไหวตุรกี
กองไฟถูกจุดเพื่อสร้างความอบอุ่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นที่หลายคนต้องออกมาอยู่แบบนี้ นอกจากบ้านเรือนพังเสียหายแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือเพื่อให้ได้อยู่ใกล้กับจุดที่ทีมกู้ภัยทำงาน เพราะยังมีความหวังว่าร่างของคนที่พวกเขารักที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารจะถูกนำออกมาแม้จะอยู่ในสภาพที่ไร้ลมหายใจก็ตาม
ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัดและเวลาที่ผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์เต็ม สถานการณ์เช่นนี้หลายฝ่ายประเมินว่าโอกาสรอดชีวิตของคนที่อยู่ใต้ซากอาคารจะเหลือน้อยมาก
ร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกนำออกมาจากใต้ซากท่ามกลางความเสียใจของสมาชิกครอบครัวที่รอดชีวิต
หลายคนรอรับร่างไร้ลมหายใจของคนในครอบครัว แต่หลายคนยังไม่หมดหวัง รวมถึงหน่วยกู้ภัยทั้งของตุรกีและจากต่างชาติก็ยังทำงานกันอย่างเต็มที่แข่งกับเวลา และสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์ยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง
นี่คือภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังนำเด็กหญิงวัย 10 ขวบออกมาจากใต้ซากอาคาร เธอยังมีชีวิตรอดอยู่หลังติดอยู่ใต้ซากนาน 147 ชั่วโมง หรือกว่า 6 วัน
ส่วนนี่ คือภาพเด็กชายวัย 9 ขวบ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต ทีมกู้ภัยได้ช่วยเหลือเด็กคนนี้ออกมา ก่อนจะรีบนำเด็กที่มีสภาพอ่อนแรงรายนี้ส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง
ขณะที่เด็กหญิงคนนี้ก็เพิ่งได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย หลังติดอยู่ใต้อาคารที่ถล่มนานกว่า 150 ชั่วโมง
ส่วนนี่คือพ่อและลูกสาววัย 5 ขวบที่ติดอยู่ในซากอาคารถล่มนานกว่า 140 ชั่วโมงเช่นกัน เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับสองพ่อลูกที่ติดอยู่ พร้อมทั้งปลอบโยนเด็กสาวไม่ให้ตื่นกลัว ก่อนจะสามารถนำตัวทั้งคู่ออกมาได้และนำส่งโรงพยาบาล
ท่ามกลางความดีใจของใครหลายคนที่ยังมีชีวิตรอดจากเหตุแผ่นไหวรุนแรงในครั้งนี้ แต่การมีชีวิตอยู่ต่อหลังจากนี้ก็ไม่
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ประเมินว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวทั้งในตุรกีและซีเรียมีทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 26 ล้านคน ประมาณ 870,000 คนที่ต้องการอาหารอย่างเร่งด่วน และประมาณ 5 ล้าน 3 แสนคนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน
ผู้ประสบภัยหลายคนกล่าวว่าทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำงานของพวกเขาได้รับความเสียหายทั้งหมด และไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องอย่างไรต่อไป
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนโดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบเกิดความไม่พอใจอย่างหนัก เพราะนอกจากรัฐบาลให้ความช่วยเหลือล่าช้าแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่คนกำลังวิพากษ์วิจารณ์คือความล้มเหลวของรัฐบาลในการควบคุมมาตรฐานการก่อสร้างอาคาร
แผ่นดินไหวคราวนี้มีอาคารจำนวนมากเป็นอาคารใหม่ที่สร้างขึ้นหลังรัฐบาลตุรกีออกกฎหมายควบคุมการก่อสร้างที่มีความเข้มงวดมากขึ้น
กฎหมายนี้ออกมาในปี 2004 หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี 1999 ที่ทำให้อาคารบ้านเรือนจำนวนมากพังและส่งผลให้คนเสียชีวิตกว่า 18,000 ราย โดยกำหนดให้การสร้างอาคารต้องสามารถทนทานต่อแผ่นดินไหวได้
และในปี 2018 ได้มีการปรับกฎหมายดังกล่าว ซึ่งกำหนดให้โครงสร้างอาคารในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวได้ง่าย ต้องใช้คอนกรีตคุณภาพสูงเสริมด้วยเหล็กเส้น เสาและคานต้องกระจายน้ำหนักเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ดูเหมือนการบังคับใช้กฎหมายจะหละหลวม หากดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ อาคารจำนวนมากที่ถล่มเป็นอาคารที่สร้างใหม่โดยเฉพาะในเมืองกาซีอันเทป (Gaziantep)
อย่างไรก็ดี รัฐบาลตุรกีได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 113 คน ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในการก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้มาตรฐานจนทำให้อาคารหลายแห่งพังถล่มใน 10 เมือง
มีรายงานว่านักพัฒนาโครงการอสังหาฯ รายหนึ่งถูกจับกุมขณะพยายามหนีออกนอกประเทศ ที่สนามบินอิสตันบูล ทำให้ขณะนี้มีผู้ต้องหา 12 คนที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว รวมถึงผู้รับเหมาก่อสร้าง
ขณะเดียวกันอัยการได้เริ่มรวบรวมตัวอย่างอาคาร เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างเพิ่มเติม
ทั้งนี้ประเทศตุรกีมีอาคารสร้างใหม่เป็นจำนวนมาก เฉพาะในนครอิสตันบูลซึ่งเป็นเมืองสำคัญของประเทศ อาคารราว 817,000 แห่งหรือร้อยละ 70 ของอาคารทั้งหมดในเมืองสร้างขึ้นหลังปี 2000
นอกจากความเสียหายจำนวนมากแล้ว อีกเรื่องที่ซ้ำเติมความทุกข์ยากของผู้ประสบภัยคือ ถูกปล้นทรัพย์สิน มีรายงานพบคนบุกเข้าไปขโมยของมีค่าในร้านค้าหรือบ้านเรือนในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอาคารส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายจนสามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ได้ออกมาอยู่บนถนนหรือที่พักพิงชั่วคราว
ผู้เสียหายรายนี้เล่าว่า เขาถูกขโมยเงินสดราว 70,000 ลีราตุรกี หรือราว 125,000 บาทจากเครื่องคิดเงินในร้านไป
นอกจากเหตุการณ์บุกปล้นบ้านแล้ว ยังมีรายงานว่าเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายการจลาจลขึ้นในบางพื้นที่ ทำให้ภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตต้องหยุดชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของทีมกู้ภัย
อย่างไรก็ดี รัฐบาลตุรกีได้ส่งทหารและตำรวจคอยลาดตระเวนและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ประสบภัยเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ของตุรกี ได้ประกาศว่าจะนำตัวผู้ที่ก่อเหตุปล้นสะดมหรือก่อเหตุอาชญากรรมอื่นๆ ในพื้นที่ประสบภัยมาลงโทษโดยทันที
ด้านความเสียหายจากแผ่นดินไหวในซีเรียก็ไม่ต่างมากนัก แต่ความช่วยเหลือที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เป็นไปได้อย่างยากลำบากกว่า
ทีมกู้ภัยต้องทำงานแข่งกับเวลา แม้โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตน้อยลงก็ตาม เช่นเดียวกับทีมแพทย์พยาบาลที่ต้องทำงานช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
ความพยายามช่วยเหลือผู้ประสบภัยของทีมอาสาสมัครและประชาชนในซีเรียยังดำเนินต่อไปแข่งกับเวลา แม้จะไม่มีทีมช่วยเหลือจากนานาชาติหรือจากรัฐบาลซีเรียเข้ามา
หนึ่งในสมาชิกทีมอาสาสมัคร หรือ White Helmets บอกว่าพวกเขาทำงานต่อเนื่องมานาน 5 วันแล้ว และพยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
ขณะที่โรงพยาบาลในเมืองอิดลิบ ซึ่งเป็นพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ทำให้แพทย์พยาบาลต้องทำงานอย่างหนัก แต่ก็มีหลายคนที่พวกเขาไม่สามารถช่วยชีวิตได้เนื่องจากขาดอุปกรณ์การแพทย์ที่เหมาะสม
ความช่วยเหลือที่เข้าไปอย่างยากลำบาก ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในซีเรียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยอดผู้เสียชีวิตในซีเรียขณะนี้อยู่ที่กว่า 4,500 ราย เมื่อรวมกับที่ตุรกี ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวคราวนี้พุ่งขึ้นไปเกือบ 36,000 รายแล้ว
‘มาร์ติน กริฟฟิธส์’ รองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ได้ออกมายอมรับว่าการส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียมีความบกพร่อง ทำให้คนในพื้นที่ต้องรู้สึกถูกทอดทิ้ง พร้อมทั้งยืนยันว่าจะเร่งส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ดังกล่าวให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ดียูเอ็นได้ส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมไปยังพื้นที่ดังกล่าวผ่านทางชายแดนตุรกีแล้วเมื่อวานนี้ โดยเป็นรถบรรทุก 10 คันที่บรรทุกสิ่งของบรรเทาทุกข์และของใช้ รวมถึงเต็นท์และสุขภัณฑ์ต่างๆ ที่จำเป็น
ทั้งนี้สาเหตุที่การส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรียอย่างยากลำบากนั้น เนื่องจากสงครามภายในประเทศ ซึ่งเป็นสงครามระหว่างกลุ่มต่อต้านและรัฐบาลซีเรียตั้งแต่ปี 2011
การปราบปรามผู้ประท้วงอย่างหนักทำให้สหรัฐฯ และบรรดาชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัฐบาลซีเรีย
กระทั่งในปี 2015 รัสเซียเข้ามาช่วยรัฐบาลซีเรียปราบปรามกลุ่มต่อต้านด้วยการใช้เครื่องบินถล่มเมืองอเลปโปซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักอย่างหนัก และกลุ่มต่อต้านต้องล่าถอยขึ้นมาอยู่ทางตอนเหนือของซีเรียพร้อมกับผู้พลัดถิ่นจากสงครามอีกกว่า 2 ล้านคน ทำให้ในบริเวณนั้นกลายเป็นพื้นที่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่อต้านและรัฐบาลซีเรียดำเนินต่อเนื่องเรื่อยมา
นอกจากนี้ หากต้องการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปบริเวณที่ควบคุมโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียต้องส่งผ่านทางรัฐบาลซีเรีย รวมถึงความกังวลด้านความปลอดภัยทำให้การส่งความช่วยเหลือไปยังบริเวณนั้นยากลำบาd
ขณะที่ ‘ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส’ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้เดินทางไปเข้าพบกับประธานาธิบดี ‘บาชาร์ อัล-อัสซาด'ของซีเรีย เพื่อเรียกร้องให้ซีเรียเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติมเพื่อให้ความช่วยเหลือจากนานาชาติส่งไปได้มากขึ้น โดย WHO ระบุว่าผู้นำซีเรียจะพิจารณาคำร้องดังกล่าวเพิ่มเติม